แมทธิว ปีเตอร์สันคิดไม่ถึงว่าเฟ่ยเข่อซินที่อายุยังน้อย และงดงามเหมือนดอกไม้ จะกำจัดตัวเองจนสิ้นซากแบบนี้!
แต่วินาทีต่อมานั้น เขาก็นึกถึงสาเหตุในนั้นได้
การครอบครองตำแหน่ง เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจมากที่สุดในบรรดาผู้ถือหุ้นของกิจการขนาดใหญ่
บรรดาผู้ถือหุ้นถึงแม้ว่าจะถือหุ้นกันมากมาย แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่แทรกมือมายังการดำเนินการทางธุรกิจโดยตรง การดำเนินงานทางธุรกิจจะมอบให้กับคนที่ก่อตั้งที่มีสัดส่วนไม่มากนักเป็นคนรับผิดชอบ
ในโลกนี้ โดยพื้นฐานของกิจการใหญ่ๆจำนวนมากก็จะเป็นเช่นนี้
เดิมทีแล้ว หากบริษัทมีกำไรสุทธิห้าร้อยล้านดอลลาร์ หลังจากที่คำนวณงบประมาณปีหน้าเอาไว้แล้ว เงินที่เหลือหากอยากจะเอาออกมา ก็จะคิดตามอัตราส่วนเป็นโบนัสให้กับหุ้นส่วน
แต่ถึงแม้ว่าแมทธิว ปีเตอร์สันจะเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท แต่บริษัทที่มีการพัฒนาการจัดหาเงินทุนอย่างต่อเนื่อง โอนหุ้นส่วนจำนวนมาก แล้วก็พึ่งพาเงินของการลงทุนที่เข้ามาเหล่านี้ด้วยเช่นกัน เขาถึงได้สามารถทำให้บริษัทได้มูลค่าตลาดถึงหมื่นล้านดอลลาร์ได้ตามที่ต้องการ
แต่แมทธิว ปีเตอร์สันเหลือเพียงหุ้นส่วน10%ของตัวเองเอาไว้ ถ้าหากเอาเงินห้าร้อยล้านดอลลาร์ออกมาแบ่งโบนัส ในนั้นเขาก็จะได้รับเพียงแค่ห้าสิบล้าน อีกทั้งห้าสิบล้านนี้ยังต้องเอาออกมาเกือบครึ่งหนึ่งเพื่อมอบให้กับกรมสรรพากรของสหรัฐอเมริกาอีกด้วย
และเป็นเพราะเช่นนี้ แมทธิว ปีเตอร์สันถึงได้ทำแผนชั่วของตราสารหนี้ขึ้นมาได้ ห้าร้อยล้านดอลลาร์ไม่แบ่งแล้ว เอามาลงทุนโดยตรง พูดว่าเป็นการลงทุน ความจริงแล้วก็คือการฟอกเงิน เงินห้าร้อยล้านดอลลาร์ทิ้งออกไป อย่างน้อยสามารถมีเงินสามร้อยล้านดอลลาร์กลับมาเข้ากระเป๋าตัวเองได้ เทียบกับแบ่งโบนัสให้หุ้นส่วนทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา วิธีนี้ได้เงินมากและรวดเร็วยิ่งกว่า
โดยทั่วไปบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ ในทุกๆปีล้วนแต่มีการรับซื้อเป็นจำนวนมาก รวมกิจการเข้าด้วยกัน อีกทั้งใครก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าแต่ละกิจการที่รวมเข้าด้วยกันนั้นจะสามารถทำรายได้ได้ บางรายการก็เป็นการเสียเงินไปเปล่าๆโดยไม่ได้รับผลลัพธ์ใดๆก็อยู่ในเหตุผลด้วยเช่นกัน
เฟ่ยเข่อซินหัวเราะเล็กน้อย : “คุณคิดว่าฉันจะเห็นความสำคัญของเงินไม่กี่ร้อยล้านนั่นของคุณงั้นเหรอ? สำหรับตระกูลเฟ่ยแล้ว เงินไม่ได้สำคัญไปกว่าชื่อเสียงหรอกนะ ถ้าหากตระกูลเฟ่ยปกป้องบุคคลที่มีพฤติกรรมเยี่ยงสัตว์ร้ายอย่างคุณแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าเฟ่ยฮ่าวหยางจะตายฟรีแล้วเหรอ?”
ในใจของแมทธิว ปีเตอร์สันชะงักไปทันที
และนี่เขาถึงได้นึกไปถึงเรื่องของเฟ่ยฮ่าวหยางที่สับสนอลหม่านกันก่อนหน้านี้
เพื่อเป็นการชดใช้ให้กับครอบครัวของผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บจากเฟ่ยฮ่าวหยางตระกูลเฟ่ยเอาเงินออกมากกว่าพันล้านดอลลาร์
เฟ่ยเข่อซินทนต้านกระแสคลื่นนี้มาได้ไม่ใช่เรื่องง่ายในการช่วยกู้ชื่อเสียงของตระกูลเฟ่ยกลับมาได้ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะปล่อยตัวเองไปเพื่อหุ้นส่วนเพียงน้อยนิดของตัวเองแบบนั้น?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...