ส่วนหลินหว่านเออร์ก็ยืนอยู่ตรงนั้น มองอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม จนกระทั่งผู้อาวุโสคนนั้นมาตรงหน้าเธอ
ผู้อาวุโสยืนนิ่งอยู่ตรงด้านหน้าของเธอ หายใจหอบอยู่บ้าง พลางเอ่ยพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น : “คุณหนู เป็นคุณจริงๆ! คุณมาที่นี่ได้อย่างไร?”
หลินหว่านเออร์ยิ้มออกมาเล็กน้อย : “มาขอพักอาศัยชั่วคราว สะดวกไหมคะ?”
“สะดวก สะดวก!”ผู้อาวุโสรีบพยักหน้าลง จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้น : “คุณหนูมาคนเดียวหรือ? เหล่าจางไม่ได้มาด้วยใช่ไหม?”
“ไม่ค่ะ” หลินหว่านเออร์ส่ายหน้าเล็กน้อย : “อีกสองสามวันเหล่าจางก็จะต้องไปหัวเซี่ยอีก”
ว่าแล้วหลินหว่านเออร์ก็มองไปรอบๆพลางเอ่ยปากขึ้น : “เข้าไปคุยกันข้างในดีกว่าค่ะ มีบางเรื่องที่ฉันอยากจะขอให้คุณช่วย”
ผู้อาวุโสทำท่าทางเป็นการเชิญให้เข้าไปพลางเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม : “เชิญคุณหนู!”
หลินหว่านเออร์พยักหน้าลง แล้วก้าวเข้าไปในประตูบานใหญ่นั้น
เข้าประตูใหญ่ไปแล้วสามารถเห็นได้ว่า ด้านในเรือนสี่ประสานนี้ใหญ่มากจนเหลือเชื่อ
หินสีฟ้าที่เป็นระเบียบปูออกมาตรงลานกว้าง อย่างน้อยๆก็หลายพันตารางเมตร
หลินหว่านเออร์ยิ้มเจื่อนๆ : “ก่อนหน้านี้ที่เหล่าจางมีฝึกลูกน้องเอาไว้คนหนึ่ง ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ไปติดต่อกับองค์กรพั่วชิง เปิดเผยที่อยู่ของฉัน องค์กรพั่วชิงก็ส่งคนมาตามฆ่าพวกเราติดๆกันหลายคืน นอกจากฉันกับเหล่าจางแล้วก็ฆ่าทุกคนไปหมด โชคดีที่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ที่มีฐานะสูงส่ง ฉันกับเหล่าจางถึงหนีออกมาได้”
ผู้อาวุโสเอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง : “ไม่คิดว่าองค์กรพั่วชิงจะหาคุณเจอ.....”
“ใช่ค่ะ” หลินหว่านเออร์ถอนหายใจออกมาแล้วเอ่ยขึ้น : “ฉันจัดการอย่างเงียบๆแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าภายในจะเกิดปัญหาขึ้น ลูกน้องของเหล่าจางเดิมทีแล้วไม่รู้สถานะของฉัน แต่องค์กรพั่วชิงก็ใช้ช่องทางพิเศษตามฆ่าฉัน เพื่อหาตัวฉันเจอ จึงประกาศให้รางวัลใหญ่ ฉันคาดการณ์เอาไว้ว่าลูกน้องของเหล่าจาง คงเป็นเพราะจังหวะที่บังเอิญ ได้รับข่าวสารนี้ หลังจากนั้นก็เลยขายฉัน”
ว่าแล้ว หลินหว่านเออร์ก็หยักไหล่ขึ้น : “แต่นี่ก็เป็นการคาดเดาของฉัน เพราะถึงอย่างไรลูกน้องพวกนั้นของเหล่าจางก็ตายไปแล้ว ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นคนไหนกันแน่ที่ทรยศฉัน”
ผู้อาวุโสได้ยินมาถึงตรงนี้แล้วจึงรีบเอ่ยขึ้นมา : “คุณหนู ถ้าอย่างนั้นช่วงนี้อยู่หลบภัยก่อนเถอะ หัวเซี่ยมีความสงบในระยะยาว ก็ย่อมปลอดภัยกว่าข้างนอกอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างตอนนี้ถึงแม้ว่าผมจะถอยมาอยู่เบื้องหลังแล้ว แต่ทรัพยาการและกำลังคนก็ยังอยู่ สามารถปกป้องคุณได้อย่างแน่นอน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลังนเอ๋ย หม่าหลัน!! คุณมึงมีสิทธิ์ไปสอนคนอื่นด้วยหรอ ตัวคุณมึงเองยังทำที่พูดไม่ได้เลย ยังมีน่าไปสอนคนอื่น 555 สนุกมาๆเลยครับ เรื่องแรกเลยที่อ่านแล้วอินขนาดนี้ ขอบคุณที่ทำออกมาให้อ่านครับ แต่ปรับให้ผญ.ที่เข้าหาพระเอก ไม่ต้องลุกหนักเกินไป มันดูน่าเบื่อ ดูขัดใจกับคนอ่าน เรื่องรักที่มีแต่พระเอกเข้าใจได้ แต่เรื่องที่อ่อยพระเอกขั้นสุด มันดูน่าเบื่อเกินไป ไม่ฟิน...
หม่าหลังนมากก...
สะใจมากกก...
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...