หลินหว่านเออร์ยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น : “ความจริงแล้วฉันไม่อยากมาขอหาที่พึ่งกับคุณหรอก เพียงแต่ฉันอยากจะให้คุณช่วยสืบคนๆหนึ่งให้หน่อย”
“สืบคน?”ผู้อาวุโสรีบเอ่ยถามขึ้น : “คุณหนู ไม่รู้ว่าคนที่คุณต้องการจะสืบคือใคร? มีข้อมูลอะไรหรือเปล่า?”
หลินหว่านเออร์ว่า : “ฉันรู้เพียงแค่เขาชื่อเย่เฉิน เป็นผู้ชาย อายุคงจะอยู่ราวๆต่ำว่าสามสิบ”
ผู้อาวุโสเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง : “คุณหนู เย่เฉินที่คุณบอก คือตัวอักษรตัวไหน?”
หลินหว่านเออร์คิดแล้วเอ่ยขึ้น : “เย่ คงจะเป็นเป็นเย่ใบไม้ แต่เฉินฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าจะเป็นเฉินที่แปลว่าเช้าตรู่ หรือว่าเฉินที่แปลว่าดวงดาว หรือเฉินที่แปลว่าฝุ่นละออง ก็เป็นไปได้หมด คุณช่วยฉันหาหลักฐานประชากรแล้วเอารูปถ่ายออกมาดู เดี๋ยวฉันเทียบเอาเองก็ได้”
ว่าแล้ว หลินหว่านเออร์ก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง : “เอาข้อมูลหลักฐานของประชากรมา คุณคงจะไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
ผู้อาวุโสยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น : “ไม่มีปัญหาหรอกครับ หลักฐานอะไรก็เอาออกมาได้ทั้งนั้น”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลยค่ะ” หลินหว่านเออร์รู้สึกโล่งใจอยู่เล็กน้อย พยักหน้าลง : “ถ้าอย่างนั้นก็ต้องรบกวนคุณจัดคนช่วยฉันจัดการหน่อยนะคะ”
ผู้อาวุโสกล่าว : “คุณหนูเกรงใจกันเกินไปแล้ว สามารถทำอะไรเพื่อคุณได้ เป็นเกียรติของพวกเราตระกูลซุน”
ว่าแล้วเขาก็เอ่ยพูดด้วยความเคารพนอบน้อมขึ้นอีกครั้ง : “คุณหนูรอซักครู่นะ ผมจะไปจัดการเลย!”
หลังจากนั้นสิบนาที
ผู้อาวุโสก็เคาะประตู หลังจากที่ได้รับการอนุญาตจากหลินหว่านเออร์แล้ว ถึงได้ผลักประตู แล้วค่อยๆเดินเข้ามาช้าๆ
และในมือของเขาก็ยังถือคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คเอาไว้อีกหนึ่งเครื่องด้วย
แต่ที่แปลกก็คือ ข้อมูลของทุกคนที่ดูผ่านๆมาทั้งหมดแล้ว ไม่คิดว่าจะไม่เจอเย่เฉินคนนั้นที่ช่วยเธอเมื่อคืนนั้น
หลินหว่านเออร์ขมวดคิ้วขึ้น อดที่จะเอ่ยถามผู้อาวุโสไม่ได้ : “ข้อมูลของเย่เฉินทั้งหมดอยู่ในนี้แล้วใช่ไหมคะ?”
“ใช่”ผู้อาวุโสพยักหน้าลง : “ที่สามารถหาได้ก็อยู่ในนี้หมดแล้วครับ”
ในใจของหลินหว่านเออร์อดที่จะครุ่นคิดไม่ได้ : “หรือว่าตอนนั้นเขาโกหกฉัน?”
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว เธอก็ส่ายหน้า : “ไม่น่าสิ....ตอนนั้นเขาจะต้องมีความมั่นใจอย่างแน่นอนว่าสามารถลบความทรงจำของฉันได้ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาไม่ได้มีความจำเป็นที่จะพูดโกหกเลย? อีกทั้ง ในเมื่อเขากล้าลงมือกับองค์กรพั่วชิง เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่กล้าพูดชื่อจริงออกมา.....”
ผู้อาวุโสเห็นหลินหว่านเออร์ขมวดคิ้วไม่พูดไม่จา จึงอดเอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้ : “คุณหนู มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ถ้าหากคุณมีเบาะแสอื่นๆก็สามารถบอกผมได้ มีเบาะแสเพิ่มขึ้นมา ก็จะได้มั่นใจขึ้นมาด้วย”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...