ผู้อาวุโสตอบ : “ถ้าหากเป็นแบบแรกข้อมูลทั้งหมดซ่อนขึ้นมาแล้ว ทำให้คนๆนี้เหมือนกับไม่เคยปรากฏตัวขึ้นมาในโลกใบนี้ ข้อมูลก่อนที่เขาเกิดก็จะถูกลบทิ้งไปด้วย”
“ถ้าหากเป็นแบบที่สอง ก็จะต้องดูว่าคนที่ซ่อนข้อมูลของเขานั้นทำอย่างไร บางคนเป็นเพราะจุดประสงค์บางอย่าง อาจจะกำจัดทิ้งไปทั้งหมด แต่บางคนถ้าหากต้องการสร้างภาพลวงตาที่อยู่เบาะแสที่ไม่ชัดเจน นั่นก็จะไม่ลบข้อมูลก่อนหน้า เนื่องจากว่าข้อมูลเหล่านี้ยังจะต้องมีการเปิดเผยออกมา ตอบสนองคนที่ตั้งใจจะสืบหา”
“อย่างเช่น คนๆหนึ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยตอนอายุ22 เนื่องจากเป็นเพราะสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง ต้องการให้เขาหายไป เช่นนั้นข้อมูลก่อนที่เขาจะอายุ22ก็จะไม่ลบทิ้งไป เพียงแต่จะเพิ่มในข้อมูลของเขาว่าเป็นบุคคลที่หายสาบสูญไปแล้ว หรืออาจจะเป็นสัญลักษณ์ว่าตายไปแล้ว ข้อมูลเหล่านี้ก็จะไม่เพิ่มรหัสลับ ต่อให้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทั่วไปที่มีสิทธิในระดับต่ำที่สุดก็สามารถหาข้อมูลของเขาก่อนที่จะหายสาบสูญไปได้อย่างง่ายดาย”
หลินหว่านเออร์ดวงตาเป็นประกาย แล้วโพล่งถามออกมา : “ในข้อมูลที่คุณให้ฉันเมื่อกี้ รวมเย่เฉินที่หายสาบสูญและตายไปแล้วด้วยไหมคะ?”
อาวุโสตอบกลับ : “รวมหายสาบสูญ แต่ไม่ได้รวมที่ว่ามั่นใจว่าตายไปแล้ว”
จู่ๆหลินหว่านเออร์ก็นึกขึ้นได้ ว่าเมื่อครู่นี้ตัวเองเห็นข้อมูลเด็กๆจำนวนไม่น้อยเลยจริงๆ
เพียงแต่ตอนที่เห็นรูปเด็ก ก็ล้วนแต่มองข้ามไปเลย ไม่ได้ดูข้อมูลโดยสังเขปของเด็กๆเหล่านี้อย่างละเอียด
แต่สถานการณ์แบบหนึ่งที่มองข้ามไปแบบนี้ นั่นก็คือ : ถ้าหากรูปถ่ายเด็กคนนี้ ไม่ใช่สภาพจริงของเด็กในตอนนี้ และเด็กคนนี้หายตัวไปตอนเด็ก และไฟล์ข้อมูลของเขาก็หยุดอยู่ตอนที่เขายังเป็นเด็ก ไม่มีการอัพเดท สถานการณ์แบบนี้ เมื่อครู่ตัวเองก็มองข้ามไปเลยเช่นกัน
ดังนั้นเธอจึงรีบเอ่ยพูดขึ้นกับผู้อาวุโส : “ฉันขอดูข้อมูลของคนที่หายสาบสูญไปอีกครั้งก่อน ถ้าหากหาไม่เจอ คุณช่วยหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องของคนที่ตายไปแล้วให้ฉันหน่อย”
ผู้อาวุโสได้ยินเธอพึมพำ ก็อดที่จะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ : “เย่ฉางอิง อานเฉิงซี? สามีภรรยาคู่นี้ ยี่สิบกว่าปีก่อน เป็นบุคคลที่มีอำนาจมากในเย่นจิงนี่!”
หลินหว่านเออร์เอ่ยถามเขา : “คุณเคยได้ยิน?”
“ไม่ใช่เพียงแค่เคยได้ยินหรอก”ผู้อาวุโสพูดขึ้นอย่างจริงจัง : “ผมเคยไปสนิทสนมกับตระกูลเย่ คฤหาสน์หลังเก่าของตระกูลเย่อยู่ห่างจากที่นี่ก็ไม่นับว่าไกลนัก เดินไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง ตระกูลเย่อยู่ในสามอันดับแรกของตระกูลชั้นนำแห่งหัวเซี่ย ตอนนั้นเย่ฉางอิงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่โดดเด่นที่สุดของตระกูลเย่ ภรรยาของเขาอานเฉิงซีแทบจะเป็นคนลงทุนทั้งซิลิคอนแวลลีย ใช่แล้ว ตระกูลอานที่อยู่เบื้องหลังอานเฉิงซี อยู่ในอันดับ2ที่สหรัฐอเมริกา”
“แบบนี้นี่เอง!” หลินหว่านเออร์พยักหน้าลง พลางเอ่ยขึ้นมาอย่างทอดถอนใจ : “มิน่าล่ะอานเฉิงซีชื่อนี้ถึงได้คุ้นหูขนาดนี้ เหมือนฉันเคยเห็นชีวประวัติเกี่ยวกับเธอมาก่อน”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...