บทที่ 51 กล้าดียังไง
โจวเหลียงเวิ่นตกใจจนหน้าถอดสี
ไม่เคยคิดเลยว่าไข่ไก่ที่อยู่ในขวดจะกลายเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งขึ้น
ดังนั้นเขาจึงรีบเอื้อมมือไปหาเย่เฉิน “คุณหนูใหญ่ เป็นคุณชายท่านนี้ที่ซ้อมมัน...”
ซ่งหวั่นถิงมองประเมินไปที่เย่เฉิน ในใจก็แอบสงสัยว่า เขายังเด็กเกินไปจริง ๆ ที่จะสามารถซ่อมวัตถุโบราณทางวัฒนธรรมที่สูญหายไปประเภทนี้ได้
ซ่งหวั่นถิงยิ้มเล็กน้อยพร้อมถามอย่างสุภาพ “ฉันซ่งหวั่นถิงจากตะกูลซ่ง คุณชื่ออะไร ขอถามได้ไหมว่าคุณเรียนมาจากอาจารย์ท่านไหน?”
เซียวฉางควนที่ยืนตกใจสุดขีดอยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยินชื่อของซ่งหวั่นถิง ตกใจจนถึงกับพูดอะไรไม่ออก!
ตระกูลซ่งเชียวนะ!
ตระกูลซ่งเป็นตระกูลอันดับต้น ๆ ในจินหลิง! แม้ว่าอำนาจจะเทียบไม่ได้กับตระกูลระดับสูงอย่างตระกูลเย่นจิง แต่ในจินหลิงนั้นไม่มีใครสามารถเทียบได้เลย!
ไม่คาดคิดมาก่อนว่า ตัวเองจะได้พบกับคุณหนูใหญ่ของตระกูลซ่งที่นี่!
ทางด้านเย่เฉินก็ไม่ได้รู้สึกถึงตัวตนของซ่งหวั่นถิง แม้ว่าตระกูลซ่งจะมีอำนาจมาก แต่ก็ยังเป็นตระกูลที่มีทรัพย์สินหลายแสนล้านเมื่อเทียบกับตระกูลที่มีทรัพย์สินหลายล้านล้านอย่างตระกูลเย่ นั่นคือความแตกต่างที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งพันไมล์
ด้วยเหตุผลนั้นเขาจึงพูดด้วยเสียงแผ่วเบาออกไป "ผมชื่อเย่เฉิน แต่ผมไม่ได้มีอาจารย์หรอกนะ”
เย่เฉินรีบพูดต่อ “พ่อตาของผมทำขวดพอร์ซเลนอวี้หูของพวกคุณแตก ผมซ่อมมันสักหน่อยแล้ว เชิญพวกคุณประเมินค่าเสียหายที่พวกเราจำเป็นต้องชดเชยด้วยครับ”
ซ่งหวั่นถิงส่ายหัวและยิ้ม “หลังจากที่คุณซ่อมมันขวดนี้ก็มีมูลค่าเกินกว่าเดิมมาก หากจะนำเหตุและผลมาพูด ควรจะเป็นจี๋ชิ่งถังของเราที่เป็นหนี้คุณ”
เย่เฉินยิ้มน้อย ๆ “คุณไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก เพราะฝ่ายนี้ได้จัดการหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นผมและพ่อตาก็ต้องกลับแล้วเหมือนกัน”
ซ่งหวั่นถิงตาโตหันมาเล็กน้อย พร้อมกับยิ้มและพูดว่า “คุณชายเย่ ไม่ทราบว่าคุณสามารถฝากข้อมูลติดต่อไว้เพื่อติดต่อในอนาคตได้หรือไม่?”
พูดแล้วซ่งหวั่นถิงก็หยิบนามบัตรของตนเองออกมายื่นให้และพูดว่า “คุณชาย นี่คือนามบัตรของฉัน โปรดรับไว้ด้วยค่ะ”
เย่เฉินพยักหน้ายอมรับนามบัตรและพูดเบา ๆ “ผมไม่มีนามบัตรครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ซ่งหวั่นถิงพูด “ไม่ทราบว่าคุณเย่จะสะดวกไหมที่จะให้เบอร์โทรศัพท์กับฉัน”
เย่เฉินรู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรที่จะทำการรู้จักผู้คนมากขึ้น และซ่งหวั่นถิงคนนี้ก็ดูสุภาพและถ่อมตัวมาก ไม่เหมือนคนที่หยิ่งผยองและมีอำนาจเหนือกว่า มองดูแล้วเจริญหูเจริญตามาก
เขาจึงแลกเบอร์โทรกับซ่งหวั่นถิง
ซ่งหวั่นถิงยังพูดอีกว่า “คุณชายเย่ ต้องการให้ฉันจัดรถไปส่งคุณทั้งสองคนไหมคะ”
เย่เฉินโบกมือและกล่าวว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมนำรถมา”
ซ่งหวั่นถิงพยักหน้าและพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นให้ฉันไปส่งคุณทั้งสองท่านเถอะค่ะ!”
หลังจากนั้นซ่งหวั่นถิงก็ส่งทั้งสองคนขึ้นรถ BMW 530 มองดูเย่เฉินขับรถออกไปและเดินช้า ๆ กลับไปที่จี๋ชิ่งถัง
เย่เฉินขับรถกลับมาและพ่อตาอดไม่ได้ที่จะถามเขาว่า “เย่เฉินนายไปเรียนการซ่อมของโบราณมาจากใคร?”
เย่เฉินไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าตอนที่เขาทำขวดแตก เขาไปเจอตำราเก้าเสวียนเทียนที่อยู่ด้านในขวดที่เขาทำแตก หนังสือเล่มนี้มีมนต์ขลังมาก ด้านในตำรามีเนื้อหามากมายที่เขาต้องทำความเข้าใจอย่างช้า ๆ และด้วยเหตุนี้เขาถึงไม่สามารถบอกใครได้
เขาจึงพูดอย่างสบาย ๆ ว่า “เมื่อก่อนผมเรียนจากลุงที่ทำความสะอาดในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าน่ะครับ”
พ่อตาพยักหน้าและถอนหายใจ “โชคดีจริง ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันกลัวว่าฉันจะต้องติดคุกซะแล้ว...”
เย่เฉินไม่อยากจะรับโทรศัพท์ของเขาเลย เจ้าเด็กคนนี้จริงๆ แล้วเหมือนมีอะไรดลใจ เขาจึงเตือนหวังเต้าคุนด้วยความหวังดี แต่ในที่สุดเขาก็ขัดแย้งในตัวเอง ทำให้บางคนอึดอัดไปด้วย
แต่เมื่อคิดคิดดูแล้วหวังเต้าคุนก็น่าสงสารมากเหมือนกัน ดังนั้นเย่เฉินจึงยอมรับโทรศัพท์และถามเขา “มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์หวังเต้าคุนร้องไห้แล้วพูดด้วยเสียงคลุมเครือ “เย่เฉิน เพื่อนรัก ฉันขอโทษ ฉันได้ทำผิดต่อนายแล้ว!”
เย่เฉินได้ยินเขาร้องไห้อย่างหนักรู้สึกทนไม่ได้เล็กน้อยและถามเขาว่า “นายรู้ความจริงแล้วเหรอ?”
หวังเต้าคุนร้องไห้และพูดว่า “หลังจากที่นายคุยกับฉันเสร็จ ฉันก็ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากขึ้นฉันก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติมากขึ้น และจากตำแหน่งที่อยู่ของ iPhone ของเธอ ฉันพบบ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งในเขตนอกเมือง แต่ฉันก็เคาะที่ประตูและเข้าไปจับชายชู้ ฉันเลยถูกชายคนนั้น คนขับรถและแม่บ้านของเธอทุบตีและจากนั้นก็ถูก 120 ลากไปโรงพยาบาล... "
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้หวังเต้าคุนก็ทรุดตัวลงและร้องไห้ “เย่เฉิน เป็นเพื่อนคนนี้เองที่ตาบอดและตำหนิคุณ นายต้องไม่โกรธฉันนะ นายคือเพื่อนที่ดีเพียงคนเดียวของฉัน ถ้าหากนายโกรธฉันล่ะก็ ที่จินหลิงฉันก็ไม่มีอะไรเหลือเลยจริง ๆ ... ”
เย่เฉินถอนหายใจและกล่าวว่า “ฉันไม่โทษนายหรอก ตอนนี้นายอยู่โรงพยาบาลไหน”
“ฉันอยู่โรงพยาบาลชุมชน”
หวังเต้าคุนพูดอีกว่า “ขาของฉันถูกเขาใช้ไม้เบสบอลตีจนหัก หมอบอกว่าฉันไม่สามารถลุกจากเตียงได้ในช่วงนี้ ภาพวาดที่คุณให้ฉัน ฉันเอามันไปด้วยตอนออกไปจับชายชู้ คุณช่วยเอาภาพนั้นไปจำนองที่โรงรับจำนำได้ไหม เงินทั้งหมดของฉันหมดไปกับร้านอาหารแล้ว ตอนนี้ฉันหมดตัวและไม่มีเงินสำหรับการรักษาแล้ว... "
เมื่อได้ยินเช่นนี้เย่เฉินก็ถามทันที “คนที่ทำร้ายนายไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลเหรอ?”
“ไม่จ่าย..."
“นายโทรแจ้งตำรวจหรือยัง?”
“โทรแจ้งไปก็ไม่มีประโยชน์ ตำรวจบอกว่าฉันบุกเข้าไปในบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตและพวกเขาก็ทุบตีฉันเพื่อเป็นการป้องกันก็ถูกต้องแล้ว... "
“กล้าดียังไง!” เย่เฉินลุกเป็นไฟและพูดว่า “นายรอฉัน เดี๋ยวฉันไปจัดการเดี๋ยวนี้!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...