เขาย้ายม้านั่งไม้ไผ่ก่อน จากนั้นมานั่งลงข้างหน้าหลินหว่านเอ๋อร์ แล้วพูดด้วยความนอบน้อม : “คุณหนูครับ……คือแบบนี้ครับ กระผม……กระผมมีหลานสาวอยู่คนหนึ่ง จะมาเข้าร่วมการสัมภาษณ์ที่เมืองจินหลิงพอดี ผมเลยเชิญเธอมาเป็นแขกที่วิลล่า และถือโอกาสทานข้าวด้วยมื้อหนึ่ง เนื่องจากผมเองก็เพิ่งจะรู้เมื่อเช้านี้เอง เลยไม่ได้รายงานให้คุณล่วงหน้า คุณอย่าได้ตำหนิผมเลยนะครับ”
หลินหว่านเอ๋อร์หยิบถ้วยชาใหม่ไปถ้วยหนึ่ง ใช้น้ำชาล้างไปพลาง แล้วยิ้มพูดไปพลาง : “ที่นี่เป็นสถานที่ของคุณนะคะ คุณเป็นเจ้าของ คุณจะเชิญแขกมาทานข้าว ทำไมต้องรายงานฉันด้วยค่ะ ฉันเป็นเพียงหนึ่งในแขกของคุณเท่านั้นเองค่ะ”
ชิวอิงซานพูดโดยไม่ต้องคิด : “คุณหนู นี่ก็คือเรื่องที่สองที่กระผมจะขอความเห็นชอบจากคุณครับ หาได้ยากที่คุณจะชอบสถานที่แห่งนี้ ผมอายุก็มากแล้ว หลังจากครั้งนี้ เกรงว่าจะไม่มาที่นี่อีก ดังนั้นผมเลยอยากมอบโฮมสเตย์จื่อจินให้คุณครับ หวังว่าคุณจะรับเอาไว้นะครับ !”
หลินหว่านเอ๋อร์ชะงักเล็กหน้า จากนั้นส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มบอก : “ฉันยังไม่มั่นใจเลยว่าจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหนเลยค่ะ คุณเก็บเอาไว้ให้ลูกหลานของตัวเองเถอะค่ะ”
ชิวอิงซานรีบเอ่ย : “คุณหนูครับ ลูกหลานพวกนั้นของผม มีนิสัยหุนหันพลันแล่นเกินไป ตั้งแต่ด้านเสื้อผ้าอาหารการกินเลย พูดตามตรง พวกเขาไม่เหมาะสมกับสถานที่พวกนี้ ให้พวกเขา กลับจะเป็นการทำลายสิ่งของเสียมากกว่า ดังนั้นขอให้คุณหนูอย่าได้เกรงใจกับผมเลยนะครับ”
หลินหว่านเอ๋อร์ยักไหล่ ยื่นชาให้เขา แล้วยิ้มบอก : “ในเมื่อคุณยืนกราน งั้นฉันก็ไม่เกรงใจคุณแล้วนะคะ หากว่าวันไหนฉันไม่ต้องการบ้านหลังนี้แล้ว และคุณยังอยู่ที่โลกมนุษย์ ฉันก็จะคืนของให้เจ้าของเดิม หากว่าถึงตอนนั้นคุณไม่อยู่แล้ว งั้นฉันก็จะมอบให้ลูกหลานของคุณจัดการนะคะ”
ชิวอิงซานได้ยินคำพูดนี้ ก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่งทันที แล้วยิ้มบอก : “เรื่องพวกนี้เอาตามความเห็นของคุณเลยครับ”
หลินหว่านเอ๋อร์ชี้ไปที่ถ้วยชาที่เทให้เขานั่น แล้วพูดราบเรียบ : “ดื่มสักถ้วยหนึ่งสิคะ ฉันเห็นว่าคุณหอบแฮ่ก ๆ ดูลำบากน่าดู คราวหน้าไม่ต้องปีนขึ้นมาสูงขนาดนี้แล้วนะคะ มีธุระกับฉัน โทรหาฉัน ไม่ก็ส่งข้อความหาฉันก็ได้แล้วค่ะ”
ชิวอิงซานคำนับอย่างนอบน้อม : “รับทราบครับผม !”
หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มบาง ๆ แล้วถามเขา : “เหล่าชิว คุณน่าจะยังมีเรื่องที่จะคุยกับฉันอีกสินะคะ ?”
คราวนี้ชิวอิงซานจึงจะพูดพร้อมกับหัวเราะแหะ ๆ : “หนีความตาดีของคุณหนูไม่พ้นจริง ๆ ครับ !”
ว่าแล้ว เขาก็พูดอีก : “คือแบบนี้ครับคุณหนู หลานสาวคนนั้นของผม จะมาสมัครเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยจินหลิงอยู่พอดี และด้วยเงื่อนไขของเขาในตอนนี้ การสมัครในครั้งนี้น่าจะมั่นใจว่าจะสำเร็จได้มากเลย ผมคิดว่าจากนี้คุณจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยจินหลิง เขาจะทำหน้าที่สอนที่มหาวิทยาลัยจินหลิง การที่สามารถมารวมตัวที่นี่ในวันนี้น่าจะเป็นพรหมลิขิต ทำไมคุณไม่ใช้โอกาสนี้ ทำความรู้จักกับเธอสักหน่อยล่ะครับ จากนี้อาจจะได้มีการดูแลกันครับ”
“แบบนี้นี่เอง……” หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มอย่างขี้เล่น แล้วเอ่ยไปตามประสา : “ในเมื่อมีวาสนาขนาดนี้แล้ว งั้นทำความรู้จักกันหน่อยก็ไม่เป็นไร !”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...