ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5225

หลินหว่านเอ๋อร์พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม : “ดูจากเหตุผลโดยทั่วไปแล้ว ซูจือหยูรับช่วงตำแหน่งผู้นำตระกูล พ่อของเธอ คุณลุงของเธอ และคุณอาของเธอไม่มีทางที่จะยอมรับเธอหรอก และซูเฉิงเฟิงไม่ได้อยู่ช่วยเธอกดสถานการณ์เอาไว้ที่ข้างกายเธออีกด้วย ว่ากันตามหลักแล้ว นี่ก็เหมือนเป็นตาชั่ง ด้านนี้เป็นซูจือหยูเอง อีกด้านหนึ่งเป็นผู้อาวุโสทั้งเจ็ดคนของเธอ ด้านที่ตาชั่งถ่วงลงไปนั้น ต้องเป็นอาวุโสทั้งเจ็ดคนของเธออย่างแน่นอน สิทธิ์ในการควบคุมตระกูลของซูจือหยูจะต้องถูกตอดกินจนยกสูงขึ้นอย่างแน่นอน แต่คุณว่าเธอนั่งได้มั่งคงไม่สั่นคลอน ถ้าอย่างนั้นมีเพียงความเป็นได้เพียงอย่างเดียว……”

พูดถึงตรงนี้ หลินหว่านเอ๋อร์ก็พูดด้วยความจริงจัง ด้วยเสียงที่สูงขึ้นเล็กน้อย : “เบื้องหลังของซูจือหยู จะต้องมีคนที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าคอยช่วยเธอสยบสถานการณ์เอาไว้ หรือว่าตาชั่งที่พูดถึงเมื่อกี้นั่น คนคนนั้นยืนอยู่เบื้องหลังของซูจือหยู และสามารถกดฝั่งซูจือหยูเอาไว้ได้มาก ทำให้ผู้อาวุโสทั้งเจ็ดคนนั่นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย !”

ซุนจือต้งพูดอุทาน : “คุณหนูครับ จากการวิเคราะห์นี้ของคุณ คนคนนั้นก็คือเย่เฉินอย่างแน่นอนเลย !”

“ใช่แล้วค่ะ” หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า แล้วเอ่ยปาก : “แบบนี้ตรรกะทุกอย่างก็ราบรื่นแล้ว เย่เฉินเอาชนะตระกูลซูที่ภูเขาเย่หลิงซาน ถึงขนาดที่ระบุผู้นำตระกูลคนใหม่ของตระกูลซู แม้ว่าซูเฉิงเฟิงรู้สึกอาลัยอาวรณ์เป็นอย่างมากก็ตาม ก็ทำได้แต่จากหัวเซี่ยอย่างเศร้าซึม และต่อให้ลูกชายลูกสาวเจ็ดคนนั่นของเขาไม่เต็มใจ ก็ทำได้แต่ยอมรับแต่โดยดี ไม่กล้ามีความคิดขัดขืนใด ๆ ต่อซูจือหยู !”

ว่าแล้ว หลินหว่านเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะพูดชมเชย : “การต่อสู้ที่ภูเขาเย่หลิงซาน เย่เฉินชนะแท้ ๆ กลับบอกข้างนอกว่าแพ้ซะงั้น อีกทั้งบอกว่าพ่ายแพ้ป่นปี้จนทรัพย์สินเสียไปเกินครึ่ง อุบายนี้ของเย่เฉินเยี่ยมเหลือเกินจริง ๆ !”

ซุนจือต้งพูดสนับสนุน : “นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นไป หลาย ๆ ตระกูลไม่เห็นตระกูลเย่อยู่ในสายตา รู้สึกว่าพวกเขาได้สิ้นกำลังลงแล้ว ผมยังเคยเสียดายเรื่องนี้อยู่นานเลย แต่ว่าดูจากตอนนี้ นี่น่าจะเป็นความตั้งใจของเย่เฉิน !”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน