ไม่นาน เฮลิคอปเตอร์ก็บินขึ้นจากมณฑลซานฉินที่ชานเมืองฉางอาน มุ่งบินตรงไปยังทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
ที่นี่กับตำแหน่งของซูจือเฟยอยู่นั้น ระยะห่างเส้นทางไม่เกินสี่สิบกว่ากิโลเมตร เฮลิคอปเตอร์บินเต็มแรงม้า เพียงแค่สิบกว่านาทีก็ถึงที่หมายแล้ว
และเวลานี้ ซูจือเฟยที่เดินอยู่ที่ซานฉิน ถึงแม้ว่าจะมีหนวดเครารุงรัง ทั้งร่างกายเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่ยังแสวงหาบุญของตัวเองต่อ
ถึงแม้ว่าร่างกายของเขาจะทรุดโทรม แต่ที่มือและตรงหัวเข่าก็มีที่ป้องกันหนาแน่นอยู่ ทุกๆสามก้าวเดิน ก็จะคุกเข่าลงไปที่พื้น หลังจากนั้นก็หมอบลงไปที่พื้นแล้วลุกขึ้นมา หลังจากลุกขึ้นมาแล้ว ก็เดินไปอีกสามก้าว คุกเข่าต่อ เป็นเช่นนี้วนเวียนไป
ตอนที่เริ่มเดินทาง ร่างกายของซูจือเฟยไม่สามารถรับการออกกำลังกายที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ได้อยู่แล้ว ทรมานร่างกาย ทุกวันสามสี่กิโลเมตรก็นับว่าถึงขีดสุดแล้ว หนึ่งวันสิบกิโลเมตรเทียบกับสาวกทั่วไปแล้วความเร็วนั้นช้ากว่าอยู่มาก
แต่อย่างไรก็ตามเวลาที่ผ่านไป และเส้นทางก็ยิ่งไกลมากขึ้น เขาค่อยๆปรับตัวกับจังหวะแบบนี้ได้แล้ว ทุกวันค่อยๆเดิน3-4กิโลเมตร แต่ละก้าวก็เป็นการพัฒนามาจนถึง7-8กิโลเมตรอย่างในตอนนี้
ระยะเวลาห้าเดือนกว่า เขาเดินมาเป็นพันกว่ากิโลเมตรแล้ว
เดิมทีซูจือเฟยรู้สึกว่าตอนกลางวันระหว่างทางตัวเองก้าวสามก้าวแล้วน้อมคำนับ ตอนกลางคืนนอนกลางดินกินกลางทราย เป็นคนต่างชาติที่เป็นมาตรฐานคนหนึ่ง
แต่ยิ่งเขาเดินมาไกลขึ้น ระหว่างทางเขาก็ค่อยๆพบว่า มีคนอยู่จำนวนไม่น้อยที่เหมือนกับตัวเอง ที่คุกเข่าน้อมไหว้ กับคนที่แสวงบุญทางตะวันตกเฉียงใต้
ที่ไม่เหมือนกับพวกเขาก็คือ คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนที่มีความเชื่อความศรัทธา ส่วนซูจือเฟยเป็นบุคคลที่ไม่เชื่อในพระเจ้า คนอื่นทำเรื่องนี้เพราะความศรัทธา ส่วนเขานั้นถูกเย่เฉินสั่งให้ทำ ไม่ทำเรื่องนี้ไม่ได้
นานเข้า แม้ว่าซูจือเฟยไม่ได้มีความเชื่อความศรัทธาในศาสนาอะไรนัก แต่กลับค้นพบด้วยความประหลาดใจว่าเย่เฉินลงโทษตัวเองด้วยวิธีทางร่างกายแบบนี้ กลับสามารถทำให้จิตใจของตัวเองสงบลงมาได้
หลังจากที่จิตใจสงบลงแล้ว ความเหน็ดเหนื่อยของร่างกายในทุกๆวันก็ไม่ใช่การทรมานเขาอีกต่อไป
เขาเป็นเหมือนคนที่ไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน แต่กลับเป็นเพราะมุ่งมั่นในการออกกำลังกายและเสพติดในการออกกำลังกาย จึงค่อยๆเริ่มตกอยู่ในภวังค์นี้ ไม่สามารถถอนตัวออกมาได้ เพียงแค่ไม่ใช่เพราะลมพายุหรือฝนตกหนัก เขาก็จะไม่หยุดเดินหน้าไป
อีกทั้งหลังจากที่เขาพิจารณาความผิดของตัวเองในช่วงหลายปีนี้ ความเกลียดชังในใจที่มีต่อเย่เฉินก็ค่อยๆหายไปด้วย ในที่สุดเขาก็เข้าใจถึงเจตนาที่เย่เฉินให้เขามาแสวงบุญแล้ว
ตัวเขาในก่อนหน้านี้ ถูกผลประโยชน์และกิเลสทำให้เสียสติไป ครอบครัวกับความเป็นมนุษย์ได้รับผลกระทบอันใหญ่หลวง หลังจากที่ได้มาฝึกฝนหล่อหล่อมเช่นนี้ กิเลสของเขาได้ลดลงไปมากแล้ว บ้านหรู รถหรู เรือสำราญ เครื่องบิน สำหรับเขาแล้วล้วนแต่เป็นเมฆหมอกที่ผ่านตาไปแล้วเท่านั้น ตอนนี้เขาต้องการเพียงแค่กินให้อิ่มในทุกวัน ก็เป็นการใช้ชีวิตสมบูรณ์มากแล้ว

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
เอาตรงๆผมอ่านมา ก้ไม่ได้สงสารหงเยนน่ะ แต่แค่ใจจริงผมให้เลือกว่าใครจะตาย อยากจะให้อีหม่าหลันตายห่าไปมากกว่าอีก ไม่มีหม่าหลันอยู่แม่จะอ่านสนุกกว่านี้มาก...
เองก้อยากให้หม่าหลันเสียสติไม่ใช่หรอเย่เฉิน ส่วนชูหรันมึงก้เข้าข้างแม่ตีวเองเกิ้น รู้ทั้งรู้นิสัย สันดานแม่เป้นงี้ก้ยังเลือกที่จะเข้าข้าง พระเอกทิ้งเองไปหานานาโกะหรือกู้ชิวอี้จะสมน้ำหน้าให้ ดีเกิน กตัญญูจนโง่...
กูไม่เข้าใจจริง ผู้เขียนมึงหลงรักหม่าหลันขนาดนั้นเลย ทำไมต้องให้อีนี่ มันสมหวังที่จะทำร้ายหงเย่นด้วยว่ะ ทำไมไม่ให้อีหม่าหนักใจจนตาย ทำร้านหงเย้นไม่สำเร็จด้วย คนเขี่ยไร อิจฉาตาร้อนขนาดนี้น เมื่อไหร่แม่งจะตายสักที อีท่าเนี่ย...
พาหลิวหม่านฉงชมมหาลัย ไรมันเกี่ยวไรกับการปรับแต่งแล้วสรรหาเพราะเย่เฉิน เย่เฉินไม่ได้สร้างมหาลัยสะหน่อย หรือเป้นเพราะที่ ที่เย่เฉินเคยมาเรียนหรอ...
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...