ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5324

สรุปบท บทที่ 5324 จริงใจเหรอ? 2: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ตอน บทที่ 5324 จริงใจเหรอ? 2 จาก ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 5324 จริงใจเหรอ? 2 คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน ที่เขียนโดย เมฆทอง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

หงฉางชิงตกใจจนตัวสั่น ก่อนจะคุกเข่าลงพื้นจนเสียงดังตึก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ลานลานอย่างยิ่ง: “อาจารย์เย่ระงับอารมณ์ไว้ก่อนนะครับ……กระผมไม่กล้าไม่เจียมตัวต่อหน้าท่านจริง ๆ……”

เย่เฉินหัวเราะแล้วพูดอย่างเย็นชา: “กูได้ยินมาว่าที่มึงมาจินหลิง เพราะอยากตามหาเบาะแสของยาอายุวัฒนะหรือ?”

พอหงฉางชิงได้ยินเช่นนี้ ก็ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา!

วินาทีนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจสักที: “ที่แท้กูก็โดนอาจารย์เย่นี่หมายตาไว้ตั้งนานแล้วนี่เอง……แต่กูยังไร้เดียงสาคิดว่ากูวางกับดักให้ซือเทียนฉี แต่คิดไม่ถึงเลยว่ากูกลับติดกับดับอาจารย์เย่นี่แทน!”

ในขณะเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย: “มีคนรู้เรื่องที่กูมาตามหายาอายุวัฒนะแค่ไม่กี่คนเองนี่! นอกจากคนในตระกูลอานแล้ว วันนั้นก็มีแค่กู้ชิวอี๋ที่เอายาวิเศษไปช่วยชีวิตอานฉี่ซานที่ตระกูลอาน……หรือว่าเย่เฉินนี่รู้จักกับพวกเขา?!”

เมื่อนึกถึงจุดนี้ ก็มีสายฟ้าสายหนึ่งผ่าลงหัวหงฉางชิงกะทันหัน เขาเข้าใจขึ้นมาในทันที ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน: “อาจารย์เย่……ท่าน……ท่านก็คือคนที่กลั่นยาอายุวัฒนะนั่นออกมาได้เหรอครับ?!”

เย่เฉินกระจกยิ้มมุมปากเล็กน้อย: “ถือว่ามึงยังฉลาดอยู่”

พอหงฉางชิงได้ยินคำพูดดังกล่าว จึงโน้มศีรษะก้มลงกราบทันที แล้วพูดอย่างเคารพศรัทธาอย่างยิ่ง: “ผู้สืบทอดรุ่นที่ 39 แห่งเต๋าไท่เจินหงฉางชิงกราบคารวะคุรุ!”

เย่เฉินเบ้ปาก: “กูไม่ใช่คนในสำนักเต๋าของพวกมึง และยิ่งไม่ใช่คุรุด้วย”

หงฉางชิงรู้สึกแปลกใจอย่างยิ่ง: “ท่าน…..ท่านไม่ใช่คนในสำนักเต๋าหรือ?! แต่ว่า……แต่ว่าวิชาการเล่นแร่แปรธาตุเป็นความลับที่สำนักเต๋าไม่ถ่ายทอดให้คนนอกนะครับ! การที่ท่านสามารถกลั่นยาวิเศษอย่างยาอายุวัฒนะออกมาได้นั้น ต้องได้รับยอดหัวกะทิแห่งวิชาของสำนักเต๋ามาแน่นอน แล้วจะไม่ใช่คนในสำนักเต๋าได้อย่างไร……”

เย่เฉินหัวเราะเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง: “การกลั่นยาไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของสำนักเต๋าสักหน่อย ใครเป็นคนบอกว่ามีแค่คนในสำนักเต๋าเท่านั้นถึงจะกลั่นยาได้? มิหนำซ้ำถึงแม้มึงจะเป็นคนในสำนักเต๋า แต่ว่ายาที่มึงกลั่นออกมาได้นั้นพึ่งพาได้หรือ? หากพึ่งพาได้ วันที่ช่วยชีวิตนายท่านตระกูลอาน เกรงว่าคงไม่ต้องใช้ยาช่วยหัวใจของกูหรอกมั้ง?”

หงฉางชิงรู้สึกละอายอย่างยิ่ง ก้มหน้าสารภาพผิด: “อาจารย์เย่พูดถูกครับ กระผมเป็นกบในกะลา แต่หารู้ไม่ว่านอกสำนักเต๋ายังมีโลกที่กว้างใหญ่ยิ่งกว่า ได้โปรดอาจารย์เย่ช่วยให้อภัยด้วยนะครับ……”

เย่เฉินพยักหน้า: “จะว่าไปถึงแม้อายุมึงจะไม่น้อยแล้ว แต่ลักษณะท่าทีในการยอมรับผิดนี่ของมึงก็ถือว่าค่อนข้างดีอยู่”

ใบหน้าที่แก่ชราของหงฉางชิงร้อนผ่าวแดงเถือก แต่กลับทำได้เพียงพูดอย่างต่อเนื่อง: “นักปราชญ์ได้กล่าวไว้ว่ารู้ผิดแล้วแก้ไข นับว่าเยี่ยมนัก กระผมมีความรู้ความสามารถไม่มาก แต่กลับสอนจระเข้ว่ายน้ำอย่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ปัจจุบันหากยังไม่ปรับปรุงลักษณะท่าทีให้ถูกต้องอีก ก็เท่ากับไม่รู้ในบุญคุณที่อาจารย์เย่ออมมือให้…..”

เย่เฉินไม่ได้รับกระเป๋าผ้าใบนั้นมา แต่เป็นการมองหน้าเขาอย่างรู้สึกสนใจแล้วเอ่ยปากถาม: “จะมอบมันให้ฉันจริงเหรอ?”

หงฉางชิงกัดฟันตอบกลับอย่างเคารพนบนอบ: “ใช่ครับ กระผมมอบให้อาจารย์เย่ด้วยความจริงใจครับ!”

เย่เฉินยิ้มพลางถามเขา: “ด้วยความจริงใจจริงเหรอ?”

หงฉางชิงผงกหัว: “ด้วยความจริงใจครับ!”

เย่เฉินถามอีกว่า: “นายไม่เสียใจทีหลังนะ?”

แม้หงฉางชิงจะรู้สึกเจ็บใจมากปานเลือดพุ่งกระฉูดดั่งน้ำพุ แต่สุดท้ายเขาก็พยักหน้าแรง ๆ: “ไม่……ไม่เสียใจทีหลังครับ!”

ใบหน้าเย่เฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม: “ในเมื่อนายแน่ใจขนาดนี้ งั้นฉันก็จะฝืนใจรับมันเอาไว้เอง!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน