หงฉางชิงตกใจจนตัวสั่น ก่อนจะคุกเข่าลงพื้นจนเสียงดังตึก แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ลานลานอย่างยิ่ง: “อาจารย์เย่ระงับอารมณ์ไว้ก่อนนะครับ……กระผมไม่กล้าไม่เจียมตัวต่อหน้าท่านจริง ๆ……”
เย่เฉินหัวเราะแล้วพูดอย่างเย็นชา: “กูได้ยินมาว่าที่มึงมาจินหลิง เพราะอยากตามหาเบาะแสของยาอายุวัฒนะหรือ?”
พอหงฉางชิงได้ยินเช่นนี้ ก็ยิ่งรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา!
วินาทีนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจสักที: “ที่แท้กูก็โดนอาจารย์เย่นี่หมายตาไว้ตั้งนานแล้วนี่เอง……แต่กูยังไร้เดียงสาคิดว่ากูวางกับดักให้ซือเทียนฉี แต่คิดไม่ถึงเลยว่ากูกลับติดกับดับอาจารย์เย่นี่แทน!”
ในขณะเดียวกัน เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสงสัย: “มีคนรู้เรื่องที่กูมาตามหายาอายุวัฒนะแค่ไม่กี่คนเองนี่! นอกจากคนในตระกูลอานแล้ว วันนั้นก็มีแค่กู้ชิวอี๋ที่เอายาวิเศษไปช่วยชีวิตอานฉี่ซานที่ตระกูลอาน……หรือว่าเย่เฉินนี่รู้จักกับพวกเขา?!”
เมื่อนึกถึงจุดนี้ ก็มีสายฟ้าสายหนึ่งผ่าลงหัวหงฉางชิงกะทันหัน เขาเข้าใจขึ้นมาในทันที ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอน: “อาจารย์เย่……ท่าน……ท่านก็คือคนที่กลั่นยาอายุวัฒนะนั่นออกมาได้เหรอครับ?!”
เย่เฉินกระจกยิ้มมุมปากเล็กน้อย: “ถือว่ามึงยังฉลาดอยู่”
พอหงฉางชิงได้ยินคำพูดดังกล่าว จึงโน้มศีรษะก้มลงกราบทันที แล้วพูดอย่างเคารพศรัทธาอย่างยิ่ง: “ผู้สืบทอดรุ่นที่ 39 แห่งเต๋าไท่เจินหงฉางชิงกราบคารวะคุรุ!”
เย่เฉินเบ้ปาก: “กูไม่ใช่คนในสำนักเต๋าของพวกมึง และยิ่งไม่ใช่คุรุด้วย”
หงฉางชิงรู้สึกแปลกใจอย่างยิ่ง: “ท่าน…..ท่านไม่ใช่คนในสำนักเต๋าหรือ?! แต่ว่า……แต่ว่าวิชาการเล่นแร่แปรธาตุเป็นความลับที่สำนักเต๋าไม่ถ่ายทอดให้คนนอกนะครับ! การที่ท่านสามารถกลั่นยาวิเศษอย่างยาอายุวัฒนะออกมาได้นั้น ต้องได้รับยอดหัวกะทิแห่งวิชาของสำนักเต๋ามาแน่นอน แล้วจะไม่ใช่คนในสำนักเต๋าได้อย่างไร……”
เย่เฉินหัวเราะเสียงหึอย่างเยือกเย็นทีหนึ่ง: “การกลั่นยาไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของสำนักเต๋าสักหน่อย ใครเป็นคนบอกว่ามีแค่คนในสำนักเต๋าเท่านั้นถึงจะกลั่นยาได้? มิหนำซ้ำถึงแม้มึงจะเป็นคนในสำนักเต๋า แต่ว่ายาที่มึงกลั่นออกมาได้นั้นพึ่งพาได้หรือ? หากพึ่งพาได้ วันที่ช่วยชีวิตนายท่านตระกูลอาน เกรงว่าคงไม่ต้องใช้ยาช่วยหัวใจของกูหรอกมั้ง?”
หงฉางชิงรู้สึกละอายอย่างยิ่ง ก้มหน้าสารภาพผิด: “อาจารย์เย่พูดถูกครับ กระผมเป็นกบในกะลา แต่หารู้ไม่ว่านอกสำนักเต๋ายังมีโลกที่กว้างใหญ่ยิ่งกว่า ได้โปรดอาจารย์เย่ช่วยให้อภัยด้วยนะครับ……”
เย่เฉินพยักหน้า: “จะว่าไปถึงแม้อายุมึงจะไม่น้อยแล้ว แต่ลักษณะท่าทีในการยอมรับผิดนี่ของมึงก็ถือว่าค่อนข้างดีอยู่”
ใบหน้าที่แก่ชราของหงฉางชิงร้อนผ่าวแดงเถือก แต่กลับทำได้เพียงพูดอย่างต่อเนื่อง: “นักปราชญ์ได้กล่าวไว้ว่ารู้ผิดแล้วแก้ไข นับว่าเยี่ยมนัก กระผมมีความรู้ความสามารถไม่มาก แต่กลับสอนจระเข้ว่ายน้ำอย่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ปัจจุบันหากยังไม่ปรับปรุงลักษณะท่าทีให้ถูกต้องอีก ก็เท่ากับไม่รู้ในบุญคุณที่อาจารย์เย่ออมมือให้…..”
เย่เฉินไม่ได้รับกระเป๋าผ้าใบนั้นมา แต่เป็นการมองหน้าเขาอย่างรู้สึกสนใจแล้วเอ่ยปากถาม: “จะมอบมันให้ฉันจริงเหรอ?”
หงฉางชิงกัดฟันตอบกลับอย่างเคารพนบนอบ: “ใช่ครับ กระผมมอบให้อาจารย์เย่ด้วยความจริงใจครับ!”
เย่เฉินยิ้มพลางถามเขา: “ด้วยความจริงใจจริงเหรอ?”
หงฉางชิงผงกหัว: “ด้วยความจริงใจครับ!”
เย่เฉินถามอีกว่า: “นายไม่เสียใจทีหลังนะ?”
แม้หงฉางชิงจะรู้สึกเจ็บใจมากปานเลือดพุ่งกระฉูดดั่งน้ำพุ แต่สุดท้ายเขาก็พยักหน้าแรง ๆ: “ไม่……ไม่เสียใจทีหลังครับ!”
ใบหน้าเย่เฉินเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม: “ในเมื่อนายแน่ใจขนาดนี้ งั้นฉันก็จะฝืนใจรับมันเอาไว้เอง!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...