เพราะฉะนั้น การที่เขาถามหงฉางชิงว่าจะกลับอเมริกาหรือไม่นั้น มันก็เป็นเพียงการทดสอบหยั่งเชิงเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น เขาคาดการณ์ว่าถ้าเกิดหงฉางชิงเป็นคนฉลาดคนหนึ่ง เขาไม่มีทางคว้าโอกาสกลับอเมริกาตอนนี้แน่นอน
และมันก็เป็นอย่างที่คาดการณ์เอาไว้จริง ๆ ด้วย
ทันทีที่หงฉางชิงพูดคำว่า‘ผมกลับได้เหรอครับ’ออกมา วินาทีต่อไป เขาก็รู้สึกน้อยใจจนอยากตายกะทันหัน
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดในใจ: “แม่งเอ๊ย กูหอบสังขารมาหาเย่เฉินตั้งไกล เพราะหวังว่าจะได้รับยาทิพย์ยาวิเศษที่มีฤทธิ์ยาแข็งแกร่งหนึ่งเม็ด ทำให้ศักยภาพของกูยกระดับขึ้นอีกขั้น หรือไม่ก็เรียนรู้วิถีกลั่นยาที่ยอดเยี่ยมมากกว่ากับเย่เฉิน พอกลับไปแล้วตัวเองค่อยหาโอกาสกลั่นยาที่ดีเยี่ยมกว่าหน่อย แต่นึกไม่ถึงเลยว่าขโมยไก่ไม่ได้ แถมยังเสียข้าวสารอีกกำมือ ไม่เจอยา วิชากลั่นยาก็ไม่ได้เรียน ในทางตรงกันข้ามกลับต้องสูญเสียเตายาที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษอีก ถ้าเกิดกูกลับตอนนี้ ก็เท่ากับยิ่งคิดยิ่งขาดทุนไม่ใช่เหรอ?”
แต่ทว่าเขาจะกล้าพูดประโยคนี้ออกมาได้ยังไง แค่พูดอ้ำ ๆ อึ่ง ๆ แต่ก็พูดอะไรไม่ออก
ตอนนี้เย่เฉินจึงยิ้มพลางพูด: “เอาแบบนี้เถอะหงเทียนซือ ถึงแม้นายจะมอบเตายานี้ให้ฉันด้วยความเต็มใจ แต่ว่าฉันน่ะเป็นคนที่ไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณคนอื่น เอางี้ไหมเดี๋ยวฉันจัดแจงเครื่องบินส่วนตัวให้นายหนึ่งลำ ส่งนายกลับอเมริกาตั้งแต่บ่ายนี้เลย และนายก็ช่วยบอกคุณยายฉันล่วงหน้าด้วยว่านายกลับไปเพราะยังมีแผนการอื่น ไม่รอพวกเขาที่นี่แล้ว”
หลังจากรู้ว่าเย่เฉินไม่มีความคิดที่จะฆ่าตัวเองแล้ว จู่ ๆ หงฉางชิงก็ไม่อยากจากไปตอนนี้ ดังนั้นจึงทำได้แค่พูดด้วยความคับแค้นใจ: “อาจารย์เย่ ผมจะบอกความจริงกับท่านก็ได้ครับ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้กระผมโฟกัสเรื่องเก็บตัวฝึกฝนมาโดยตลอด ไม่มีเวลาจัดการดูแลเต๋าไท่เจินอัจฉริยะภายในเต๋าไท่เจินเริ่มโรยรา ไม่มีอนาคตอะไรแล้ว เพราะฉะนั้นผม……เพราะฉะนั้นผมเลย……”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หงฉางชิงก็ไม่กล้าบอกความคิดที่ตัวเองจะอยู่จินหลิงชั่วคราวออกมาเช่นกัน
เมื่อเย่เฉินเห็นว่าเขาพูดเพราะฉะนั้นอยู่ครึ่งวัน แต่ก็พูดบทสรุปออกมาไม่ได้สักที ดังนั้นจึงยิ้มแล้วถามเขา: “นายอยากบอกว่ากลับไปก็ไม่มีความหมาย เพราะงั้นนายเลยวางแผนที่จะอยู่ในจินหลิงต่อระยะหนึ่งใช่ไหม?”
หงฉางชิงไม่อยากจากไปมากที่สุดอยู่แล้ว แต่ทว่าตอนนี้เขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าควรจะเอ่ยปากพูดกับเย่เฉินอย่างไรดี
ยังไงซะเขาก็กลัวว่าการได้คืบจะเอาศอกของตัวเองจะทำให้เย่เฉินเปลี่ยนใจกะทันหัน ถึงตอนนั้นถ้าเกิดเขาเอาตัวเองให้ตายอีกครั้ง งั้นก็ยิ่งเสียเปรียบมากเข้าไปใหญ่มิใช่หรือ?
และในเวลานี้เอง จู่ ๆ เย่เฉินก็เปลี่ยนประเด็น: “ใช่สิหงเทียนซือ นายหยุดอยู่แดนนักบู๊แปดดาวมานานแค่ไหนแล้ว?”
หงฉางชิงตอบกลับอย่างเคารพนอบน้อม: “ตอบกลับอาจารย์เย่……กระผมหยุดอยู่แดนนักบู๊แปดดาวมา 16 กว่าปีแล้วครับ……”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...