ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5333

เย่เฉินถามอย่างรู้สึกสงสัย: “แล้วปีนี้นายอายุเท่าไหร่?!”

หงฉางชิงตอบกลับ: “ปีนี้กระผมอายุ 62 แล้วครับ!”

เย่เฉินพูด: “นายเป็นนักบู๊แปดดาวตั้งแต่เมื่ออายุ 40 กว่าแล้วเหรอ? ดูท่าระดับความเร็วในการฝึกฝนก็ไม่เลวเลยนี่”

หงฉางชิงยิ้มเยาะพลางตอบกลับ: “ผมจะบอกความจริงกับท่านก็ได้ครับ แม้วิชากลั่นยาของเต๋าไท่เจินจะตื้นเขิน แต่โชคดีที่อาจารย์ทิ้งวิชาบู๊ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ไว้หนึ่งชุด เมื่อเปรียบเทียบกับสำนักที่ไม่มีแม้แต่วิชาที่สมบูรณ์แล้ว ศักยภาพจึงโดดเด่นกว่าเล็กน้อยเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับ”

“อีกอย่างในความตื้นเขินของวิชากลั่นยาของเรา ก็มีบางจุดที่เป็นประกายเช่นกัน ในบรรดาจู่ซือของเราก็เคยมีผู้เชี่ยวชาญกลั่นยาบังเกิดคนหนึ่งเช่นกัน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านใช้วิธีการแบบใด ถึงขั้นสามารถกลั่นยาทิพย์ยาวิเศษออกมาได้หนึ่งล็อต หากคนทั่วไปกินยาประเภทนี้ จะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง รักษาโรคภัยทั้งปวง เมื่อผู้ฝึกวิถีบู๊กินแล้ว ยังสามารถส่งเสริมผลการฝึกฝนได้ด้วย แม้การยกระดับจะมีขีดจำกัด แต่มีน้อยก็ดีกว่าไม่มีเลย;” 

“ตอนที่ยาประเภทนี้สืบทอดมาถึงมือผม ยังเหลืออีกห้าเม็ด แต่ผมประกาศสู่สาธารณชนว่ามีเพียงสามเม็ด อันที่จริงตัวผมเองก็กินไปแล้วสามเม็ด อีกหนึ่งเม็ดนั้นขายให้มหาเศรษฐีคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน แล้วมันก็เกิดประสิทธิผลด้านกำจัดโรคภัยจริง ๆ เพราะฉะนั้นผมเลยทำให้ยาต่ออายุนี้มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมานิดหนึ่ง ส่วนเม็ดสุดท้ายนั้น ผมเอาให้คุณตาท่านกินขณะที่ท่านป่วยหนัก แต่ว่าอาการของคุณตาท่านรุนแรงมากเกินไป เพราะฉะนั้นจึงไม่เกิดประสิทธิผลอะไร”

เย่เฉินพยักหน้าเบา ๆ หลังจากได้ยิน แม้เขาก็ไม่เคยเห็นมาก่อนว่ายาต่ออายุของเขาคืออะไรกันแน่ แต่เมื่อลองคาดคะเนดูแล้ว ประสิทธิผลของยาต่ออายุด้อยกว่ายาช่วยหัวใจไม่น้อยเลย จึงยิ่งไม่สามารถเทียบเคียงกับยาอายุวัฒนะได้ 

ดังนั้นเขาจึงถามหงฉางชิงว่า: “หงเทียนซือ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปนายยินดีที่จะถวายความจงรักภักดีต่อฉันหรือเปล่า? ถ้าเกิดนายยินดีละก็ ฉันไม่มีทางทำให้นายเสียเปรียบอยู่แล้ว”

เมื่อหงฉางชิงได้ยินคำพูดนี้ จึงรีบตอบกลับด้วยความรู้สึกที่ดีใจปลาบปลื้มอย่างยิ่ง: “กระผมยินดีครับ! กระผมยินดีมากถึงมากที่สุดเลยครับ!”

พอพูดจบ เขาก็รีบคุกเข่าลงพื้นแล้วพูดอย่างเคารพนอบน้อม: “อาจารย์เย่ กระผมหงฉางชิง ยินดีติดตามท่านทุกภพชาติ ถวายความจงรักภักดีต่อท่าน หากมีการทรยศ ก็ขอให้ฟ้าผ่า!”

หงฉางชิงในตอนนี้ตระหนักได้แล้วว่าศักยภาพของเย่เฉินแข็งแกร่งกว่าตัวเองไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ก็คุ้มค่าแก่การให้ตัวเองติดตามเขาแล้ว 

มากไปกว่านั้นคือเย่เฉินยังมียาที่แข็งแกร่งติดตัวอีก บางทีประสิทธิผลของยาอาจจะดีเลิศกว่ายาต่ออายุของตัวเองห้าเท่าสิบเท่าเลย

ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น เย่เฉินยังเป็นหลานชายตระกูลอานด้วย ภูมิหลังก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน 

เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะดูยังไง เย่เฉินก็ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งในหมู่ผู้แข่งแกร่ง

หงฉางชิงก็อดไม่ได้ที่จะพูดในใจว่า: “ถ้าเกิดกูจะเป็นสุนัขรับใช้จริง ๆ ก็ต้องเป็นสุนัขรับใช้ของผู้มีอิทธิพลที่แท้จริงอย่างเย่เฉิน เมื่อติดตามคนใหญ่คนโตประเภทนี้แล้ว ยังต้องเครียดเรื่องผลการฝึกตนไม่สามารถบรรลุได้อีกหรือ?”

เย่เฉินเห็นว่าลักษณะท่าทีของเขาซื่อสัตย์ จึงพยักหน้าเบา ๆ แล้วพูดอย่างเรียบนิ่ง: “ในเมื่อนายยินดี งั้นก็อยู่ในจินหลิงต่อแล้วรอฟังประกาศคำสั่งของฉันแล้วกัน”

หงฉางชิงคุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วพูดโดยที่รู้สึกตื่นเต้นดีใจอย่างยิ่ง: “ผู้ใต้บังคับบัญชาหงฉางชิง จะทำตามคำสั่งทุกอย่างของอาจารย์เย่อย่างเคร่งครัดครับ!”

เย่เฉินผงกหัวพลางยื้ม ก่อนจะหยิบยาช่วยหัวใจออกมาจากกระเป๋าหนึ่งเม็ดยื่นให้เขา แล้วพูดอย่างชิลล์สบาย: “นายรับยาเม็ดนี้ไว้ กลับที่พักชั่วคราวของนายแล้วกินมันลงไป จากนั้นก็หลอมแปรฤทธิ์ยา ฉันเห็นว่านายอยู่ในช่วงสุดท้ายของนักบู๊แปดดาวแล้ว ยาเม็ดนี้ต้องทำให้นายก้าวเข้าสู่แดนสว่างชั้นสูงสุดได้แน่นอน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน