กดวางสาย ซูรั่วหลีไม่กล้าปล่อยให้เสียเวลาเลยแม้แต่วินาทีเดียว รีบออกจากโรงแรมป๋ายจินฮ่านกง แล้วขับรถมุ่งหน้าตรงไปยังเขตชานเมือง
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง เธอก็ขับรถมาถึงนอกประตูของคฤหาสน์ช็องเซลีเซียนสปาที่เย่เฉินอยู่แล้ว
ในขณะที่ซูรั่วหลีกำลังจะลงรถเพื่อไปกดกริ่งหน้าประตูอยู่นั้น ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านใน เย่เฉินปรากฏตรงประตูแล้วกวักมือเรียกเธอด้วยสีหน้าที่ร้อนรนเล็กน้อย
ซูรั่วหลีรู้อยู่ว่าเย่เฉินให้ตัวเองขับรถเข้าไปด้านในโดยตรง ดังนั้นเธอจึงขับรถเข้าไปในลานหน้าคฤหาสน์เลย
รอทันทีที่ซูรั่วหลีลงมาจากรถ เย่เฉินก็ดึงตัวเธอแล้วเดินเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็วพลางพูด: “ฉันมีเรื่องสำคัญต้องการความช่วยเหลือจากเธอ ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะกินเวลานานหรือไม่นาน เราต้องรีบคว้าเวลาไว้”
ซูรั่วหลีถูกเย่เฉินจับแขน ในช่วงเวลาที่เร่งรีบเธอถึงขั้นรู้สึกเขินอายเล็กน้อย พลางพูดในใจ: “คุณเย่คงไม่ได้อยากอันนั้นกับฉัน……โอ๊ย……ซูรั่วหลีนี่แกกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่เนี่ย……”
เธอไม่รู้ว่าตกลงเย่เฉินจะให้ตัวเองทำอะไรกันแน่ ทว่าจิตใจก็อดไม่ได้ที่จะคิดฟุ้งซ่าน รู้สึกว่าไม่ว่าเย่เฉินจะให้ตัวเองทำอะไร ตัวเองก็จะไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ข้อเรียกร้องของเขาจะเกินเลยไปหน่อย ตัวเองก็จะไม่ลังเลแน่นอน
แต่สิ่งที่เย่เฉินกำลังคิดในวินาทีนี้ ล้วนมีแค่ยาช่วยหัวใจสีทองที่ตัวเองกลั่นได้เมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา
เขาดึงตัวเย่เฉินเอาไว้ตลอดอย่างอดใจรอไม่ไหว ทั้งสองคนเดินลงมาถึงชั้นใต้ดินของคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว ระหว่างทางนี้ยิ่งทำให้หัวใจซูรั่วหลีเต้นเร็วมาก และรู้สึกเขินอายอย่างยิ่ง
ซูรั่วหลีรีบพูด: “คุณเย่ รั่วหลีกินยาที่มีค่าควรเมืองของคุณไปไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว ช่วงก่อนก็เพิ่งบรรลุเป็นนักบู๊ห้าดาวในครั้งเดียว ตอนนี้จะให้ฉันสิ้นเปลืองยาของคุณอีกได้ยังไงล่ะคะ……”
เย่เฉินพูดด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความจริงจัง: “ยาน่ะกลั่นเพื่อให้คนกิน ขอแค่กินลงไปแล้ว มันก็ไม่มีคำว่าสิ้นเปลืองหรือไม่สิ้นเปลือง มิหนำซ้ำนี่ไม่ใช่เรื่องที่เธอติดบุญคุณฉันสักหน่อย ฉันเป็นคนขอความช่วยเหลือจากเธอเอง เหมือนฉันจะดื้อยาต่อยาประเภทนี้ ตอนนี้ฉันกินประสิทธิผลที่แท้จริงของมันไม่ออกแล้ว ถ้าเกิดอยากรู้ว่าตกลงมันมีประสิทธิผลไหม มีประสิทธิผลดีมากแค่ไหน ก็ต้องให้นักบู๊มาลองดู เมื่อพูดถึงนักบู๊แล้ว คนที่ฉันเชื่อใจมากที่สุดก็คือเธอแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นเลยทำได้แค่ให้เธอมาช่วยทดลองดูน่ะ”
เย่เฉินรู้อยู่ว่าซูรั่วหลีไม่รู้ว่าตัวเองมีเตายาอันใหม่ และไม่รู้ด้วยว่าประสิทธิผลของยาตัวนี้ดีเลิศกว่ายาช่วยหัวใจในก่อนหน้านี้ไม่น้อยเลย ดังนั้นเขาจึงแกล้งทำเป็นพูดอีกว่า: “อีกอย่างตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่ายาตัวนี้มีประสิทธิผลหรือไม่ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียงอะไรจริง ๆ อาจจะทำให้เธอเดือดร้อนไปด้วย แต่ว่าเธอไม่ต้องกลัวและไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะคอยคุ้มกันอยู่ข้างกายเธอเอง”
เมื่อซูรั่วหลีได้ยินคำพูดนี้ จึงรีบแสดงท่าทีอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องหยุดคิด: “คุณเย่ มีคุณอยู่ด้วย รั่วหลีไม่กลัวหรอกค่ะ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...