นี่จึงทำให้เธอรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้น: “ตกลงความเป็นมาของคุณหลินคนนี้เป็นยังไงกัน……”
วินาทีนี้ ชิวอิงซานได้พูดกับพี่เสียนว่า: “ชูเสียน เธอถอยออกไปก่อนเถอะ”
พี่เสียนรีบพยักหน้าแล้วพูดอย่างเคารพนบนอบ: “คุณผู้ชาย คุณหลิน ดิฉันขอลาก่อนนะคะ”
หลังจากพูดจบ เธอก็รีบถอยออกไปจากลานบ้าน ตอนออกไปยังไม่ลืมปิดประตูด้วย
รอหลังจากที่พี่เสียนจากไปไกลแล้ว หลินหว่านเอ๋อร์ก็มองผู้อาวุโสคนนั้นแล้วถามว่า: “ระหว่างทางมาเหล่าจางราบรื่นไหมคะ?”
ผู้อาวุโสที่ถูกเรียกแทนว่าเหล่าจางรีบตอบกลับ: “ตอบกลับคุณหนู ยังถือว่าราบรื่นอยู่ครับ แค่ปฏิบัติตามการจัดแจงของคุณหนู และอ้อมเส้นทางต่าง ๆ มากกว่าปกตินิดหน่อย อีกอย่างสิ่งของติดตัวที่ต้องดูแลมีเยอะเกินไป ดังนั้นการเดินทางจึงล่าช้านิดหน่อยน่ะครับ”
หลินหว่านเอ๋อร์ถามเขา: “ของของฉันมาถึงอย่างปลอดภัยอยู่ใช่ไหม?”
เหล่าจางพยักหน้าหงึก ๆ แล้วพูด: “เครื่องลายครามของคุณ ผมได้เอามาหมดแล้วครับ เนื่องจากมูลค่าล้ำค่ามากเกินไป เกรงว่าจะดึงดูดความสนใจของด่านตรวจทางชายแดนและด่านศุลกากร เพราะฉะนั้นการเดินทางในช่วงสุดท้าย ผมจึงเลือกที่จะเดินทางจากคาซัคสถาน แล้วเข้ามาภายในประเทศผ่านเส้นทางพิเศษน่ะครับ”
หลินหว่านเอ๋อร์จึงถามว่า: “แล้วของล่ะ?”
เหล่าจางรีบตอบกลับ: “อยู่ด้านล่างหมดเลยครับ อิงซานได้สั่งการให้คนไปแกะของแล้ว หลังจากแกะเสร็จก็จะส่งขึ้นมาให้คุณเลยครับ”
หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้าแล้วเอ่ยปากพูด: “ระหว่างทางนี้ลำบากคุณเลยนะคะ ไปพักผ่อนดี ๆ ก่อนเถอะค่ะ ช่วงเวลาต่อจากนี้ ฉันอาจจะพักอยู่ในจินหลิง คุณก็ถือโอกาสนี้พักผ่อนดี ๆ หน่อย”
เหล่าจางทำท่าคารวะอย่างเคารพนอบน้อม: “บ่าวรับทราบครับ!”
พอพูดจบ เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนจะถามอย่างต่อเนื่องว่า: “ใช่สิครับคุณหนู บ่าวได้ยินอิงซานบอกว่าคุณเจอคนที่คุณจะตามหาแล้วเหรอครับ?”
หลินหว่านเอ๋อร์หยิบคุกกี้ชาผูเอ๋อร์ออกมาจากด้านในหนึ่งชิ้น แล้วอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างทอดถอนใจ: “ฉันเฝ้าคอยมันมาหลายวันแล้ว ในที่สุดก็คอยวันนี้มาถึงสักที”
หลังจากพูดจบ เธอก็ยกกาน้ำชาที่วางอยู่บนถ่านไฟขึ้นมา แล้วเทน้ำชาออกมาจากกาจนหมด จากนั้นก็หยิบมีดชาผูเอ๋อร์ออกมาหนึ่งเล่ม เตรียมพร้อมที่จะแบ่งคุกกี้ชาผูเอ๋อร์ที่อยู่ในมือออก
แต่ทันทีที่ปลายมีดสัมผัสลงบนคุกกี้ชา เธอก็ดึงมือกลับมาแล้วพูดพึมพำ: “นี่คือชิ้นสุดท้ายแล้ว……”
เมื่อเหล่าจางเห็นแบบนี้ จึงรีบถามว่า: “คุณหนูครับ ก่อนหน้านี้คุณบอกว่าถ้ากินคุกกี้ชาชิ้นสุดท้ายนี้ให้หมดเร็ว ๆ ต่อไปก็จะได้ไม่ต้องโหยหาถึงมันอีกแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”
หลินหว่านเอ๋อร์ถอนหายใจเบา ๆ เฮือกหนึ่ง มองดูคุกกี้ชาชิ้นนี้พลางพูดพึมพำ: “เก็บชิ้นสุดท้ายนี้ไว้ดีกว่า ฉันอยากต้มให้เขาลองชิมด้วยตนเอง เมื่อวันที่ฉันและเขาเปิดเผยใจจริงมาถึง”
สีหน้าอารมณ์ของผู้อาวุโสทั้งสามต่างดูเข้มงวด หลังจากสบตาซึ่งกันและกันแล้ว เหล่าจางก็ก้มคำนับแล้วพูด: “คุณหนูครับ บ่าวขออนุญาตถามหน่อยนะครับ คุณจะเปิดเผยใจจริงต่อคุณผู้ชายท่านนั้นจริง ๆ เหรอครับ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...
สะใจไอไรอันมากกก...
โง่ก็โง่อยุ่วันยันค่ำ แทนที่จะเอาเรื่องแจ้งความมาพูด ถ้าคน1,000คนแจ้งความ คนที่โดนจับก้คือพวก1,000คนเพราะพวกนี้มันก้รุ้ว่าคนในครอบครัวทำไรแต่ไม่ห้ามไม่แจ้งตำรวจ ถ้าตำรวจรู้ว่าพวกญาติรู้แต่ไม่แจ้งความ ก้โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิดแล้ว และพวกนี้ก้ไม่มีหลักฐานเอาผิดเฟนหยุน แต่ดันคืดไม่ได้เนี่ยน่ะ แต่สนุกมาก เป้นนิยายเรื่องแรกที่ติดงอม แหละอินมาก 555...
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...