เย่เฉินในเวลานี้ ลูบกระเป๋ากางเกงโดยสัญชาตญาณ
แหวนที่หลินหว่านเอ๋อร์มอบให้เขา จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจว่ามีไว้ทำอะไร แต่เขาก็ได้นำแหวนวงนี้ติดตัวไว้ตลอดเวลา กลัวว่าของชิ้นนี้จะเกิดความเสียหาย หรือถูกตนเองทำหาย
สาเหตุที่เย่เฉินให้ความสำคัญกับของชินนี้มากนั้น ไม่ใช่เพราะมันมีค่ามหาศาล แต่เป็นเพราะตนเองได้ใส่ปราณทิพย์ลงไปมากมาย หากคิดปราณทิพย์เป็นกำลังแรงงาน เท่ากับว่าตนเองได้ขายแรงงานให้กับเจ้านี่มาประมาณสามปี แถมยังไม่จ่ายค่าแรงเขาสักแดงเดียว
เพราะฉะนั้น เขาย่อมจะไม่ยอมให้ของสิ่งนี้หลุดจากการควบคุมของตนเอง
คลำดูที่นอกกระเป๋ากางเกง มั่นใจว่าแหวนยังอยู่ เย่เฉินก็วางใจลง ทว่าภายในใจกลับอดไม่ได้ที่จะนึกถึงหญิงสาวที่ชื่อหลินหว่านเอ๋อร์คนนั้นขึ้นมา
คิดอย่างไรเขาก็ไม่เข้าใจ แหวนวงนี้ และหญิงสาวคนนั้น ทั้งสองมีความพิเศษอะไรกันแน่ ถึงทำให้ผู้มีพระคุณขององค์กรพั่วชิงให้ความสำคัญเช่นนี้
เย่เฉินรู้สึกเสียใจภายหลังขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ เสียใจที่ไม่ได้ถามหลินหว่านเอ๋อร์ให้ละเอียดตอนอยู่ที่ยุโรปเหนือ ตอนนั้นตนเองมีปราณทิพย์ทำจุดสังเกตทางจิตวิทยาให้นางได้แล้ว ควรที่จะพานางไปยังที่ปลอดภัยก่อน จากนั้นก็ซักไซ้ถามนางในสิ่งที่ต้องการรู้
ในตอนนี้ ไม่รู้ว่าหลินหว่านเอ๋อร์ไปอยู่ที่ไหนแล้ว คิดจะคลายความสงสัยที่มีอยู่ พูดได้ว่ามันเป็นสิ่งที่ยากมาก
เฝิงจื่อต้งไม่รู้ว่า คนในองค์กรพั่วชิงต่างก็พยายามหาวิธีให้ได้แหวนวงนี้ไปครอง ซึ่งตอนนี้ได้อยู่ในกระเป๋ากางเกงของเย่เฉิน
ในสายตาของเขา เย่เฉินเป็นเพียงลูกชายของสหายเก่า ทั้งยังพ่อแม่ต่างก็ล่วงลับไปหมดแล้ว เป็นธรรมดาที่ค่อนข้างจะเอาใจใส่ ดังนั้นจึงกล่าวกับเย่เฉินขึ้นมา: “เย่เฉิน ฉันได้ข่าวมาว่า ระยะนี้องค์กรพั่วชิงมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ นายเคยมีเรื่องบาดหมางกับองค์กรพั่วชิง องค์กรพั่วชิงจะต้องพยายามคิดวิธีหาตัวนายออกมาให้ได้แน่ ดังนั้นจะต้องระมัดระวังตัวให้มาก”
เย่เฉินถามด้วยความอยากรู้: “คุณอาเฝิง องค์กรพั่วชิงมีความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อะไรเหรอครับ?”
เฝิงจื่อต้งกล่าว: “ฉันไม่รู้รายละเอียดหรอก แต่พ่อฉันบอกกับฉันว่า ท่านเอิร์ลทั้งสี่ขององค์กรพั่วชิงได้ทยอยปรากฏตัวแล้ว เป็นการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งที่สุดของกองกำลังใต้บังคับบัญชาของผู้มีพระคุณ แถมฝีมือยังเหนือกว่านักบู๊ไปนานแล้ว สามารถเอาศีรษะของนายพลท่ามกลางกองทัพนับหมื่นนายได้ หากผู้ใดตกเป็นเป้าหมายของพวกเขา เกรงว่าคงยากที่จะรอดไปได้!”
“เอาศีรษะของนายพลท่ามกลางกองทัพนับหมื่นนาย?” เย่เฉินขมวดคิ้วพูดซ้ำอีกหนึ่งรอบ แอบคิดอยู่ในใจ: “ท่านเอิร์ลทั้งสี่นี่ คงเชี่ยวชาญด้านปราณทิพย์เหมือนกันกับฉัน หากมีฉันคนเดียวที่ตกเป็นเป้าหมายของพวกเขา ฉันก็พอมีความมั่นใจที่จะต่อสู้กับพวกเขาอยู่บ้าง แต่ถ้าหากคนรอบกายก็ตกเป็นเป้าหมายของพวกเขาด้วย เกรงว่าฉันคงไม่สามารถแยกร่างช่วยได้ทุกทาง......”
เฝิงจื่อต้งยิ้มพลางโบกมือ จากนั้นก็มองดูเวลา กล่าว: “เย่เฉิน นี่ก็สายมากแล้ว ฉันยังต้องรีบกลับเย่นจิง วันนี้เราสองคนคุยกันถึงแค่นี้เถอะ ถ้ามีข่าวอะไรใหม่ ๆ ฉันจะรีบบอกนายทันที”
เย่เฉินโค้งคำนับเล็กน้อย เอ่ยขึ้น: “ขอบคุณครับคุณอาเฝิง หาทางผมมีความเคลื่อนไหวอะไร ก็จะรีบสื่อสารกับคุณอาเฝิงโดยเร็วที่สุด"
เฝิงจื่อต้งพยักหน้า กล่าวอย่างจริงจัง: “มีเวลาถ้ามาเย่นจิง ก็ติดต่อฉันนะ”
“ครับ!”
......
พูดคุยกับเฝิงจื่อต้งเสร็จ เย่เฉินได้ให้เฮลิคอปเตอร์ที่จอดอยู่โรงแรมข้างล่างภูเขาบินมาจอดที่ลานของคฤหาสน์อีกครั้ง มองส่งเฝิงจื่อต้งนั่งเฮลิคอปเตอร์จากไป

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...