ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5353

ดังนั้น เขาจึงล้วงโทรศัพท์ออกมา โทรหาว่านพั่วจวินที่อยู่ไกลถึงซีเรีย

เมื่อมีคนรับสาย ว่านพั่วจวินก็กล่าวขึ้นมาอย่างนอบน้อม: “คุณเย่ มีคำชี้แนะอะไรเหรอครับ?”

เย่เฉินถามเขา: “พั่วจวิน พอจะหาระบบตรวจจับชีวิตที่ใหม่ที่สุดมาได้ไหม รวมแต่ไม่จำกัดแค่เรดาร์อินฟราเรดตรวจจับชีวิตเกรดที่ใช้ในกองทัพรวมทั้งอุปกรณ์ภาพความร้อน?”

ว่านพั่วจวินกล่าว: “คุณเย่ อุปกรณ์ตรวจจับอินฟราเรดและอุปกรณ์ถ่ายภาพความร้อน ทหารหน่วยรบพิเศษของสำนักว่านหลงเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ทุกคนต้องมี ส่วนระบบตรวจจับชีวิต มีขอบเขตค่อนข้างกว้าง ฉันไม่ค่อยเข้าใจความต้องการคร่าว ๆ ของคุณครับ”

เย่เฉินอธิบาย: “ฉันไม่ค่อยเข้าในเรื่องการทหาร แต่ฉันอยากให้นายช่วยทำฟังก์ชันบางอย่างให้เป็นจริง”

ว่านพั่วจวินกล่าวโดยเร็ว: “คุณเย่พูดมาได้เลยครับ ผมจะจดเอาไว้ก่อน”

เย่เฉินกล่าว: “ก่อนอื่นจะต้องมีอุปกรณ์ชนิดหนึ่ง ที่สามารถครอบคลุมฐานทัพสำนักว่านหลงได้ของพวกนายได้ทั้งหมด หรือครอบคลุมเหมืองแร่ทองแดงที่เราได้มาที่ไซปรัส อุปกรณ์นี่สามารถตรวจจับได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ครอบคลุมสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในพื้นที่ นั่นก็คือผมไม่สนว่ามันจะใช้หลักการอะไร ไม่ว่าจะเป็นอินฟราเรด การถ่ายภาพความร้อน หรือจะเป็นตรรกวิทยาตรวจจับชีวิต อื่น ๆ ก็ตาม ที่ฉันต้องการก็คือเมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาในพื้นที่ตรวจจับ มันสามารถตอบสนองได้ทันที และแสดงตำแหน่งของอีกฝ่ายแบบเรียลไทม์ออกมา!”

ว่านพั่วจวินกล่าว: “ตอบคุณเย่ ตอนนี้มีแผนการจัดการที่สมบูรณ์แบบอยู่หรือไม่ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ผมจะคิดหาวิธีไปสืบดูให้ได้ครับ”

เย่เฉินตอบอืมครั้งหนึ่ง และกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง: “ความต้องการอย่างที่สองของฉัน นายต้องคิดหาวิธีเอาระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์ มาให้ฉันสักสองสามเครื่อง และผสานระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์นี้เข้ากับระบบที่ฉันพูดไปเมื่อกี้ นั่นก็หมายความว่า ทันทีที่ตรวจพบว่ามีคนแปลกหน้าแผงตัวเข้ามา ก็ไล่ล่าเอาชีวิตมัน! เอาเหมือนกับมิสไซล์ของระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์ ที่สามารถยิงออกไปเป็นร้อยลูกภายในวินาทีเดียว บรรลุอานุภาพการยิงที่ครอบคลุมทุกด้าน!”

ว่านพั่วจวินกล่าวด้วยความตกใจ: “คุณเย่ครับ......ผมขอบังอาจเตือนคุณหน่อยนะครับ...... ระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์มันไม่ใช่ปืนกลนะครับ......มันเป็นปืนกลใหญ่ และยังเป็นปืนกลใหญ่ที่มีอัตราการยิงสูงมาก คุณสามารถเข้าใจว่ามันเป็น ปืนแก็ตลิงเบอร์ใหญ่พิเศษที่มีอานุภาพหลายสิบเท่านับร้อยเท่า ใช้ในเรือรบเพื่อยิงขีปนาวุธ หรือไม่ก็ใช้เป็นอาวุธสังหารใช้โจมตีเครื่องบินรบบนพื้นดิน หากนำมันมายิงคน สามารถทำให้ร่างแหลกสลายได้ภายในนัดเดียว มันไม่เป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตนไปเหรอครับ?”

เย่เฉินกล่าวอย่างตั้งใจ: “ไม่! ฉันเป็นโรคกลัวพลังทำลายล้างไม่พอน่ะ! ดังนั้นในด้านพลังการทำลายล้าง ต้องให้มันเหลือเฟือเต็มเปี่ยม! ต่อให้ระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์หนึ่งนัดสามารถระเบิดร่างคนจนเละ นายก็ต้องยิงออกไปหลายร้อยนับพันนัดในชั่วอึดใจเดียวให้ฉันให้ได้! นายจำไว้ให้ดีอย่างหนึ่ง หากเป้าหมายของเรา หลังจากถูกต้อนรับโดยระบบนี้ แล้วยังเหลือชิ้นส่วนที่มีน้ำหนักเกิน 50 กรัม ถือว่าเป็นความบกพร่องต่อหน้าที่ของนายว่านพั่วจวิน!”

ตอนอยู่นครนิวยอร์กเย่เฉินเคยได้เห็นว่าผู้เก่งกาจวิชาบู๊ถูกสังหารด้วยอาวุธสมัยใหม่ได้อย่างไร แม้ว่ายอดฝีมือพวกนี้จะแข็งแกร่ง แต่ในตอนที่กระสุนปืนพุ่งเข้ามาราวกับห่าฝน พวกเขาต้านทานได้แค่ไม่กี่วินาที

เพราะฉะนั้น หากเปลี่ยนอาวุธป้องกันเป็นระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์ ต่อให้เป็นคนที่ฝีมือร้ายกาจกว่าตน พอถึงตอนนั้นก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

อีกอย่าง เย่เฉินก็เข้าใจเป็นอย่างดีแล้วว่า หากต้องให้เขาไปลอบสังหารผู้เก่งกาจวิชาบู๊วิชาบู๊คนใดคนหนึ่ง เขาก็สามารถซ่อนลมหายใจ ไม่ให้ผู้เก่งกาจวิชาบู๊สัมผัสได้ แต่ว่า มันปิดบังได้เฉพาะประสาทสัมผัสของผู้เก่งกาจวิชาบู๊เท่านั้น หากไม่ยึดคุณธรรมการต่อสู้ ใช้การเตือนภัยด้วยอุปกรณ์ไฮเทค ตนเองก็ไม่สามารถปิดบังเทคโนโลยีได้

เช่นเดียวกับระบบถ่ายภาพความร้อน ตราบใดที่เป็นสิ่งที่กระจายความร้อนออกมา ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสิ่งของ ก็ไม่สามารถผ่านการตรวจจับของมันไปได้ หากซ่อนอยู่ในที่ซ่อนตัวซึ่งหนาพอก็มีโอกาสที่จะไม่ถูกพบได้ แต่หากต้องการแฝงตัวเข้าไป ก็ไม่มีทางที่จะใช้สิ่งกำบังห่อตัวเอาไว้ได้เลย ต่อให้เป็นยอดฝีมือที่มีปราณทิพย์ ก็ต้องถูกพบเข้าอย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้น เย่เฉินเลยต้องการให้ว่านพั่วจวินเตรียมอาวุธสังหารซึ่งเหมือนกันเอาไว้ที่ซีเรียและไซปรัสอย่างละชุด ถ้าหากมีท่านเอิร์ลไม่มีตาคนใดคนหนึ่งแฝงตัวเข้าไปจริง ๆ ก็จะระเบิดมันจนกลายเป็นเถ้าธุลี!

ว่านพั่วจวินไม่รู้ว่าเย่เฉินเช่นจะเล่นงานใคร แต่เขาได้ยินเย่เฉินกล่าวเช่นนี้ ก็รู้ว่าต้องมีศัตรูที่ร้ายกาจแน่นอน ดังนั้นจึงถามขึ้นมาโดยเร็ว: “คุณเย่ครับ เกินเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ?”

เย่เฉินเองก็ไม่ปิดบังเขา กล่าวขึ้น: “ฉันได้รับข่าวจากช่องทางพิเศษมา ยอดฝีมือระดับสุดยอดขององค์กรพั่วชิง ตอนนี้ได้ออกโรงกันหมดแล้ว ฝีมือของพวกเขาแต่ละคน อาจไม่ได้ด้อยไปกว่าฉันเลย แม้จะยังไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาหาพวกเราหรือไม่ แต่เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้ามันไม่ผิดแน่”

ว่านพั่วจวินครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วตอบ: “คุณเย่ครับ หาระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์มาให้ได้มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ถึงผมจะหาซื้อระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์ที่ล้ำหน้าที่สุดในตอนนี้ไม่ได้ แต่สหภาพโซเวียตในอดีตเคยมีระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์ AK-630 30 มม. หลั่งไหลเข้าสู่ตลาดอาวุธระหว่างประเทศ ถึงราคะจะค่อนข้างสูง แต่ด้วยทุนสำรองของสำนักว่านหลงในตอนนี้ สามารถซื้อสักสองสามชุดมาได้ง่าย ๆ ติดตั้งมันในฐานทัพที่อยู่ซีเรียก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ที่ไซปรัสค่อนข้างจะยุ่งยาก เพราะถึงยังไงมันก็เป็นประเทศอธิปไตย หากพวกเราให้อุปกรณ์นี้ในไซปรัส เกรงว่ารัฐบาลของไซปรัสจะเข้าแทรกแซงทันที ถึงตอนนั้นคิดว่าคงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยุ่งแน่ครับ”

เย่เฉินกล่าวงขึ้น: “เรื่องนี้นายไม่ต้องสน เพราะระบบป้องกันนี่ เป็นแนวป้องกันสุดท้ายของเรา หากมีสุดยอดยอดฝีมือบุกเข้ามาจริง ๆ ถ้าไม่ตอบโต้กลับ ทุกคนในเหมืองแร่ทองแดง คงต้องตายกันหมด ใครก็หนีไม่พ้น! ดังนั้น ถ้าหากอีกฝ่ายไปถึงที่นั่น พวกเราจะต้องสังหารยอดฝีมือของอีกฝ่ายให้ได้ในทันที จากนั้นก็ระเบิดเหมืองแร่ทองแดงที่ไซปรัสซะ ทุกคนอพยพข้ามวันข้ามคืนไปที่ซีเรีย แบบนี้ ไม่เพียงทำให้องค์กรพั่วชิงต้องศูนย์เสียยอดฝีมือไป และยังสามารถทำลายเบาะแสทั้งหมด ให้พวกเขาไม่รู้ว่าจะลงมือจากตรงไหนดี!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน