นานาโกะรู้ ว่าพ่อนั้นอยากให้ตัวเองได้มีการพัฒนาความสัมพันธ์กับเย่เฉิน ดังนั้นคำพูดหยอกเย้าของคนเป็นพ่อก็จึงไม่ได้แปลกใจอะไร
และเธอเองก็ไม่ได้เขินอายอะไรด้วย แต่กลับพูดบ่นอย่างไม่พอใจเล็กน้อย“หากโอโต้ซังอยากนอนโรงแรม หนูจะจองให้เลยตอนนี้ พ่อสามารถนอนที่นั่นจนกว่าเราจะกลับญี่ปุ่นก็ได้!หากยังไม่พอ หนูก็สามารถจะซื้อโรงแรมให้โอโต้ซังไว้พักอาศัยได้”
นางาฮิโกะ อิโตะหัวเราะแหะๆ“นานาโกะ โอโต้ซังแค่ล้อเล่น อย่าถือสาเลยนะ ……”
พูดจบ เขาก็รีบพูดต่อ “โอ้ โอโต้ซังจะตีลูกต่อแล้ว ลูกดูแลต้อนรับคุณเย่ไปก่อน เราจะยังไม่กลับไปรบกวนเวลาคุยธุระของลูกในตอนนี้!”
นานาโกะเห็นพ่อไม่พูดหยอกเอินอีก ก็จึงไม่ได้พูดอะไรต่อ หลังจากที่บอกลาคนเป็นพ่อ ก็รีบออกจากห้องไป เพื่อไปรอต้อนรับเย่เฉินที่ลานจอดชั้นใต้ดิน
เธอกดปุ่มลงในโถงลิฟต์ ลิฟต์ก็เลื่อนลงมาจากชั้นบนสุด จากนั้นประตูลิฟต์ก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก นานาโกะก็พบว่า ที่ด้านในนั้นมีหญิงสาวที่แต่งตัวสวยและมีรสนิยมอย่างมากคนหนึ่ง หญิงสาวคนนี้รูปร่างสูงโปร่ง ผมยาวสลวยประบ่า สวมใส่ชุดทำงาน ดูมีสง่าราศีอย่างมาก
และทันทีที่สาวงามในลิฟต์ได้เห็นนานาโกะ ก็เบิกตาโพลงอย่างตื่นตกใจ จากนั้นก็มีท่าทีตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย
สาวงามในลิฟต์ ก็คือหลิวม่านฉงที่เพิ่งมาถึงเมืองจินหลิงในวันนี้จากเกาะฮ่องกาง
เพราะได้เซ็นสัญญากับมหาวิทยาลัยจินหลิงแล้ว เธอในฐานะอาจารย์ผู้สอน จำเป็นต้องไปรายงานตัวก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิด และวันนี้ก็เป็นวันที่เธอต้องไปรายงานตัวอย่างเป็นทางการในวันแรก
ตามกำหนดการของโรงเรียน วันนี้เธอต้องไปเดินเรื่องการลงทะเบียน จากนั้นก็เข้าร่วมการประชุมต่างๆก่อนเปิดเทอมในทุกวัน รวมถึงการประชุมกลุ่มบริหาร ประชุมงานกิจการและงานทางวิชาการ
หลิวม่านฉงแสร้งยิ้มและพยักหน้ารับอย่างผ่อนคลาย เมื่อเห็นนานาโกะไม่ได้กดลิฟต์ ก็จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “คุณก็ไปลานจอดที่ชั้นใต้ดินเหรอคะ?”
นานาโกะพยักหน้า และพูดอย่างสบายๆว่า“ ฉันจะไปรับเพื่อนคนหนึ่ง แล้วคุณล่ะ? จะออกไปข้างนอกเหรอคะ?”
เมื่อหลิวม่านฉงได้ยินว่านานาโกะจะไปรับเพื่อน ความคิดแรกในหัวของเธอคิดว่าน่าจะเป็นเย่เฉิน จากนั้นภายในใจก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย รีบกดไปที่ชั้นหนึ่ง แล้วพูดว่า “ฉันกำลังจะไปทำงาน แต่เกือบลืมไปว่ารถของฉันมีปัญหาเล็กน้อย ฉันไปโบกรถที่ชั้นหนึ่งดีกว่า ”
นานาโกะเองก็ไม่ได้คิดอะไร ยกยิ้มกลับไปให้เธอ เห็นที่มือของเธอถือซองเอกสารที่พิมพ์ชื่อมหาวิทยาลัยจินหลิง จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า“ไม่ทราบว่าคุณทำงานที่มหาวิทยาลัยจินหลิงเหรอคะ?”
หลิวม่านฉงพยักหน้า และพูดว่า“ฉันเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยจินหลิงค่ะ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...