นายหญิงใหญ่พยักหน้า “เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนก็ถือว่ารุนแรงขึ้นพอสมควร พักนี้ทุกวันที่ตื่นขึ้นมา ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ แต่หลายครั้งแค่เบือนหน้าหนีออกไป เขาก็ลืมเรื่องราวทั้งหมดแล้ว”
จากนั้นนายหญิงใหญ่ก็พูดออกมาอีกว่า “ที่เขาลืมว่าพวกเรากำลังเดินทางไปเมืองจินหลิง เหตุผลมันก็เป็นเหมือนที่ฉันพูดมา หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ต่อให้ได้พบกับเฉินเอ๋อ ฉันก็เกรงว่าเขาคงจะจำไม่ได้”
“อ่า......” หลี่ญ่าหลินถอนหายใจ จากนั้นคิดในใจ “เย่เฉินมีพลังวิเศษสามารถช่วยชีวิตฉันกลับมาได้ การรักษาโรคอัลไซเมอร์ของคุณลุง สำหรับเขาแล้วคงง่ายเหมือนกับการพลิกฝ่ามือ ไปเมืองจินหลิงครั้งนี้ แม้ว่าเขาจะไม่อยากพบกับคนชราทั้งสอง แต่อย่างน้อยก็ต้องหาทางทำให้เขาช่วยรักษาอาการป่วยของคุณลงให้ได้......”
ในตอนที่หลี่ญ่าหลินกำลังคิดในใจ นายหญิงใหญ่ก็พูดออกมา “ใช่แล้วญ่าหลิน คุณไขคดีนี้มาหลายปีแล้ว บอกฉันทีว่าจากประสบการณ์ของคุณ เราควรเริ่มหาที่อยู่ของเฉินเอ๋อจากตรงไหน?”
“เรื่องนี้......” จากท่าทางของหลี่ญ่าหลิน ดูเหมือนว่าเขากำลังไตร่ตรองอยู่ แต่ในความเป็นจริง เขากำลังคิดอยู่ในใจว่า “ตระกูลอานได้พลิกแผ่นดินหาไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่มีเพียงเมืองจินหลิงที่เดียวเท่านั้นที่ยังไม่เคยตามหา หากฉันไม่รู้จักเย่เฉิน การที่คุณมาไหว้วานฉันให้ตามหาที่อยู่ของเขา ฉันคงคิดหาวิธีพลิกทั้งแผ่นดินของเมืองจินหลิงเพื่อตามหาเขา อย่าว่าแต่ใครคนใดคนหนึ่งเลย แม้แต่สุนัขสักตัวก็ยังไม่เว้น โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างปิด เช่น สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า......แต่คุณมาถามฉันในเวลาแบบนี้ ฉันจะบอกคุณอย่างไรดี?”
ภายใต้สถานการณ์ที่ทำอะไรไม่ได้ หลี่ญ่าหลินทำได้เพียงพูดออกไปอย่างคลุมเครือ “ผมคิดว่าเรื่องนี้ เนื่องจากมันผ่านมาหลายปีแล้ว หากให้กลับไปตรวจสอบที่จุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเพื่อหาเบาะแส เกรงว่าโอกาสที่จะพบเขาคงมีค่อนข้างน้อย ตามที่ท่านพูดออกมา ตอนนี้เย่เฉินน่าจะมีอายุประมาณ 28 ปี ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 28 ปี มันจะไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง ต่อให้เขาจะอยู่ในเมืองจินหลิงหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุของเฉิงซี แต่นี่มันก็ผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว ความเป็นไปได้ที่เขาจะยังอยู่ในเมืองจินหลิงนั้นมีค่อนข้างน้อย”
จากนั้นไม่นาน หลี่ญ่าหลินก็พูดออกมาอีกว่า “หากเป็นคนทั่วไป พ่อแม่ของเขาต้องมาตายในสถานที่แห่งนี้ ในตอนที่เขายังอายุไม่มาก เขาจะต้องมีภาพเงาทางจิตใจในสถานที่นี้อย่างแน่นอน แต่ก็เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะพยายามกำจัดภาพเหล่านั้นออกไป และไม่กลับมาที่แห่งนี้อีกตลอดกาล”
“แต่หากเป็นคนประเภทที่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกมาก ก็อาจจะมีความรู้สึกว่า พ่อแม่ของตนจากไป ณ ที่แห่งนี้ มีแต่จะต้องอยู่ที่นี่เท่านั้นถึงจะสามารถอยู่ใกล้ชิดกับพ่อและแม่ที่จากไปได้”
“และยังมีอยู่อีกหนึ่งมุมมอง หลังจากที่สูญเสียพ่อแม่ไปแล้ว เขารู้สึกว่าสถานการณ์ของเขาไม่ปลอดภัย และถือคติว่าที่ซึ่งอันตรายที่สุดคือที่ซึ่งปลอดภัยที่สุด ทำให้เขาอาจจะอยู่ที่นี่ไปทั้งชีวิต”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...