เมื่อเห็นนายหญิงใหญ่อารมณ์หดหู่ ตู้ไห่ชิงก็ปลอบโยนอย่างขอโทษว่า:“คุณน้า ฉันก็เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน หลายปีนี้ก่อนที่ฉันจะมาอยู่นี่ เย่เฉินเคยมาหรือไม่ ฉันก็ไม่รู้ ดังนั้นคุณน้าอย่ามองโลกในแง่ร้ายเกินไปเลยนะ”
นายหญิงใหญ่พยักหน้าเบา ๆ ถอนหายใจพูดไปว่า:“น้าไม่สงสัยหรอกว่าเฉินเอ๋อยังมีชีวิตอยู่ ก็แค่เบาะแสที่เกี่ยวข้องกับเฉินเอ๋อ ที่ตอนนี้น้าจะหาได้น้อยมาก เบาะแสเหล่านี้ ถูกตัดไปก็จะน้อยลงไปอีก ……”
ตู้ไห่ชิงพูดด้วยรอยยิ้ม:“คุณน้า บางทีตอนนี้อาจจะยังไม่ถึงเวลาที่น้าจะได้พบเขา เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม แม้ว่าเขาจะอยู่ไกลแค่ไหน ก็จะมาเจอคุณน้าแน่ค่ะ”
นายหญิงใหญ่ยิ้มอย่างขมขื่น:“น้าเชื่อที่คุณพูดนะ น้าแค่กลัวว่าตัวเองอายุมากแล้ว จะรอไม่ถึงวันนั้น”
ตู้ไห่ชิงเห็นนายหญิงใหญ่เศร้ามาก ในใจก็อดไม่ได้ที่จะสงสาร
เมืองจินหลิง สำหรับนายหญิงใหญ่แล้ว เป็นสถานที่อันน่าเศร้าที่ใจไม่แข็งพอจะนึกถึงอดีต
ลูกสาว ลูกเขยเสียชีวิตที่นี่ และหลานชายก็หายไปจากที่นี่ 20 ปีแล้ว
หากเป็นตัวเธอเอง เกรงว่าจะไม่กล้าแม้แต่จะมาที่นี่
แต่ว่า นายหญิงใหญ่ที่อายุมากขนาดนี้แล้ว ยังมาที่นี่โดยไม่ลังเล เพียงแค่นี้ ก็เกรงว่าจะใช้เวลาในการทำใจนานมาก
นึกถึงตรงนี้ ตู้ไห่ชิงก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเองในใจ:“เย่เฉิน คุณยายของคุณอายุมากขนาดนี้แล้วยังถ่อมาถึงเมืองจินหลิง ถึงคุณจะมีปัญหาใหญ่แค่ไหน อย่างน้อยก็น่าจะนึกถึงเธอบ้างสิ?”
แต่ว่า ตู้ไห่ชิงก็รู้ว่า ความยากลำบากและอุปสรรคทั้งหมดที่เย่เฉินเผชิญอยู่นั้น ไกลเกินกว่าที่ตัวเองจะประเมินได้ จากนิสัยของเย่เฉินแล้ว เขาจะต้องมีความลำบากใจ ในการตัดสินใจที่โหดร้ายแบบนี้แน่
ดังนั้น เธอจึงรีบพูดกับนายหญิงใหญ่ว่า:“คุณน้าคะ ในเมื่อคุณน้ามาถึงเมืองจินหลิงซึ่งไกลขนาดนี้แล้ว งั้นคุณน้าก็ตั้งถิ่นฐานที่นี่ชั่วคราว ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่งสิคะ แม้ว่าคุณน้าจะหาเย่เฉินในเอลฟ์ไม่เจอแต่ก็ไม่เป็นไร บางทีวันไหนเย่เฉินกลับมา ถึงตอนนั้นคุณน้าอาจจะได้เจอเขาที่นี่ก็ได้ค่ะ”
หงฉางชิงอยู่ที่ช็องเซลีมาทั้งเช้า จนกระทั่งสิบเอ็ดโมงครึ่ง ถึงหยุดการบรรยายคาบเช้า พูดเสียงดังกับทุกคนว่า:“ทุกท่าน การบรรยายเช้าวันนี้จบลงเท่านี้ละกัน ทุกคนไปทานข้าวพักผ่อนให้เต็มที่ แล้วพวกเราก็จะเข้าคาบบ่ายตอนบ่ายโมงครึ่งตรง”
ทุกคนยืนขึ้นมาจากเบาะอย่างยังไม่หายอยาก พากันโค้งคำนับและขอบคุณหงฉางชิง จากนั้นก็ผ่อนคลายกล้ามเนื้อและกระดูก พร้อมกับเดินออกไปด้านนอก
อิโตะ นานาโกะไม่ได้รีบไป แต่ถามฉินเอ้าเสวี่ยนด้วยสีหน้าที่ดูตื่นเต้นว่า:“เอ้าเสวี่ยน คุณเข้าใจความลึกลับของมองภายในแล้วเหรอ?”
ฉินเอ้าเสวี่ยนเกาหัว:“เหมือนจะพอเข้าใจ……แต่ก็เหมือนจะไม่เข้าใจ……รู้สึกว่ามองภายในเหมือนก้นถังน้ำลึกเป็นพิเศษ พอฉันดำลงไป ทุกครั้งที่ใกล้จะถึงจุดลึกสุด ก็จะไปต่อไม่ได้ทุกครั้ง น่าหงุดหงิดสุด ๆ……”
พูดจบ เธอก็ถามนานาโกะว่า:“นานาโกะ คุณดูตื่นเต้นขนาดนี้ หรือว่าคุณเข้าใจแล้ว?!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...