เพราะเป็นการเปิดภาคเรียนวันแรก ผู้คุมหอพักก็จึงไม่ได้เข้มงวดกับผู้ชายที่เข้ามาในหอพักหญิงแต่อย่างใด ทั้งสี่คนมาถึงที่ชั้นสามของห้องพัก301 ทันทีที่เปิดประตู หลี่เสี่ยวเฟินก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา“โอ้พระเจ้า สภาพแวดล้อมของห้องพักนี้มันเยี่ยมยอดไปหรือเปล่า?”
ห้องพักนี้ มีพื้นที่มากกว่า50ตารางเมตร มีเพียงเตียงโต๊ะเขียนหนังสือสองชั้นสองเตียง ด้านบนคือที่นอน ด้านล่างคือโต๊ะเขียน
นอกเหนือจากนี้ ที่ในห้องพักยังมีตู้เสื้อผ้าที่มีรหัสล็อกอีกสองตู้กับห้องน้ำที่ใช้อาบน้ำแบบส่วนตัว สภาพแวดล้อมนี้ดีกว่าหอพักของนักศึกษาทั่วไปในมหาวิทยาลัยจินหลิงเป็นอย่างมาก
กับเสียงอุทานของหลี่เสี่ยวเฟิน คลอเดียกลับรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เธอมองสำรวจไปรอบๆห้อง แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย“พี่เสี่ยวเฟิน หอพักในมหาวิทยาลัยก็แบบนี้ไม่ใช่เหรอ?สภาพแบบนี้ก็เป็นไปตามมาตรฐาน ไม่ได้ถือว่าดีมากมายอะไรเลย?ห้องนั่งเล่นก็ยังไม่มี ”
ในความเข้าใจของคลอเดีย หอพักของมหาวิทยาลัยในแคนาดากับสหรัฐอเมริกา โดยพื้นฐานแล้วเริ่มต้นก็เป็นห้องเตียงคู่ บางหอพักของมหาวิทยาลัย ก็เป็นเหมือนกับห้องชุดที่ใช้ร่วมกัน สี่คนต่างมีห้องส่วนตัวของแต่ละคน ขณะเดียวกันก็มีห้องนั่งเล่นกับห้องครัวที่ใช้ร่วมกัน
ดังนั้น ห้องเตียงคู่ธรรมดาที่อยู่ตรงหน้า สำหรับคลอเดียแล้วนั้นก็จึงเป็นอะไรที่ธรรมดาอย่างมาก
หลี่เสี่ยวเฟินไม่รู้ว่ามาตรฐานของนักศึกษาในแคนาดานั้นเป็นยังไง เมื่อได้ยินคลอเดียบอกว่าไม่มีห้องนั่งเล่น ก็จึงเอ่ยถามอย่างทำอะไรไม่ถูก“ห้องนอนจะเอาห้องนั่งเล่นทำไม?”
เย่เฉินยิ้มแล้วพูดเตือน“เสี่ยวเฟิน คลอเดียเติบโตมาในแคนาดา โรงเรียนของทั้งสองประเทศนั้นย่อมต้องมีความแตกต่าง ยิ่งไปกว่านั้นแคนาดามีพื้นที่กว้างแต่ประชากรน้อย ทรัพยากรโดยทั่วไปแล้วก็จึงมีอยู่มาก หอพักของโรงเรียนก็จึงย่อมไม่จำเป็นต้องแบ่งสันให้เป็นสำหรับสี่คน หกคน หรือแม้แต่แปดคนต่อห้อง”
หลี่เสี่ยวเฟินพูดด้วยรอยยิ้ม“ฉันจำได้ตอนที่เราอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กเล็กกว่าสิบคนรวมพี่เลี้ยง จะพักอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน ห้องเป็นห้องโถงโล่งๆ ทุกคนมีแค่ที่นอนกับหมอนของตัวเอง ในตอนนั้นคิดว่า หากในอนาคตสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ก็จะได้พักในหอพักที่นอนกันแปดคนต่อห้อง มีเตียงนอนเป็นของตัวเอง ต่อให้จะนอนกันบนที่นอนเตียงสองชั้นก็มีความสุขแล้ว ดังนั้นเมื่อได้เห็นห้องพักที่มีเตียงคู่แบบนี้ ก็รู้สึกว่าสภาพนั้นมันดีมากๆแล้ว ”
ป้าหลี่ที่อยู่ข้างๆก็เอ่ยพูดว่า“เลิกคุยกันได้แล้ว ช่วยคลอเดียจัดที่นอนกันก่อน แล้วค่อยมาดูว่ายังขาดเหลืออะไร อีกเดี๋ยวก็ค่อยไปหาซื้อกันที่ซูเปอร์มาร์เก็ต”
เขารู้สึกได้ว่าแหวนนั้นกระตุกขึ้นมาอีก นอกจากนี้ก็เป็นการกระตุกครั้งที่สามของแหวนแล้ว ในใจเขารู้สึกประหลาดใจ และรู้สึกว่าแหวนนี้เริ่มจะกระตุกอย่างรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ!
ก่อนหน้านั้น แหวนนี้ก็เพียงแค่ไหวสั่นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่นานก็สงบนิ่งไป ไม่เคยเป็นอย่างในตอนนี้มาก่อน ราวกับลูกอมกระโดดได้ แล้วยิ่งจะเต้นกระตุกรุนแรงขึ้นไม่หยุด
เย่เฉินยื่นมือไปกุมที่ด้านนอกของกระเป๋ากางเกง ยังรู้สึกได้ว่ามันเต้นเร้าๆอย่างรุนแรงที่ในฝ่ามือไม่หยุด
ในตอนที่เขายังงงงวยอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงที่คุ้นเคยหนึ่งดังขึ้นมา “สวัสดีค่ะ ที่นี่คือห้องพัก301หรือเปล่าคะ?”
เย่เฉินรู้สึกว่าเสียงนี้ค่อนข้างจะคุ้นเคยมาก หันมองไปอย่างไม่รู้ตัว ทันทีที่เขาเห็นรูปลักษณ์ของบุคคลที่มานี้ คนทั้งคนก็ดวงตาเบิกโพลง อ้าปากค้างอยู่กับที่ !

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...