“ชิวอิงซาน?”ในตอนที่เย่เฉินถูกโอนย้ายมาเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยจินหลิงนั้น ก็เคยได้ยินชื่อนี้อยู่หลายต่อหลายครั้ง เพราะในตอนนั้นชิวอิงซานได้บริจาคเงินเพื่อการศึกษาอยู่เป็นจำนวนมากให้กับมหาวิทยาลัยจินหลิง ช่วยให้มหาวิทยาลัยจินหลิงนั้นได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นที่ในมหาวิทยาลัยจินหลิง เรื่องราวของเขานั้นได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติของโรงเรียนด้วย
เขาไม่คิดว่า หลินหว่านเอ๋อร์จะเกี่ยวข้องกับชิวอิงซานด้วย ก็จึงถามอย่างประหลาดใจยิ่งขึ้นว่า “ชื่อจริงของคุณคืออะไร?”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดอย่างไม่ต้องคิด“ชื่อจริงของฉันคือหลินหว่านเอ๋อร์”
เย่เฉินถามต่อ“ชิวอิงซานแซ่ชิว คุณแซ่หลิน เขาเป็นปู่ของคุณได้ยังไง ?”
หลินหว่านเอ๋อร์กล่าว“เป็นปู่ที่มีสายเลือดห่างๆ พี่ชายห่างๆของปู่คนหนึ่ง หลังจากที่ฉันหนีมาจากยุโรปเหนือ ก็มาพึ่งพาเขา เพื่อไม่ให้ตามหาตัวเจอ ก็จึงขอให้เขาสร้างตัวตนของหลินเสี่ยวหว่านขึ้นมา เป็นเขาที่จัดแจงให้ฉันได้มาเรียนหนังสือที่เมืองจินหลิง ”
เย่เฉินถามต่อ“แล้วทำไมคุณถึงเลือกเรียนสาขาวิชาโบราณคดี?”
หลินหว่านเอ๋อร์กล่าว“ฉันไม่ได้มาเพื่อศึกษาเล่าเรียนอะไร แต่มาเพื่อหลบซ่อนตัว เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ดังนั้นในสาขาวิชาของมหาวิทยาลัยจินหลิงฉันจึงเลือกสาขาโบราณคดี ฉันชอบพวกเครื่องลายคราม โบราณวัตถุกับการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดโบราณเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในวิชาเอกของมหาวิทยาลัยจินหลิงที่มากมาย มีสิ่งนี้ที่ฉันรู้สึกสนใจเท่านั้น ”
เย่เฉินยังคงฟังหูไว้หู แล้วส่ายแหวนที่อยู่ในมือไปมา เอ่ยถามเธอ“แหวนวงนี้มีความพิเศษอะไร?”
หลินหว่านเอ๋อร์ส่ายหน้า“มีอะไรพิเศษไหมนั้น ฉันเองก็ไม่รู้ นี่เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่พ่อเหลือไว้ให้ฉัน ก่อนเขาจะจากไปได้ให้ฉันเก็บรักษามันไว้ให้ดี ยังได้เน้นย้ำด้วยว่าอย่างให้มันไปตกอยู่ที่มือของใคร”
เย่เฉินทำทีถามเธอ“แล้วทำไมคุณต้องเอาแหวนวงนี้มาให้ผมด้วย ?”
หลินหว่านเอ๋อร์ไหวพริบรวดเร็ว พูดด้วยใบหน้าที่ฉงนสงสัย“คุณน่าจะเข้าใจผิด ฉันไม่มีทางเอาสมบัติของพ่อนี้ยกให้ใครไปแน่ๆ เพราะมันมีค่าสำหรับฉันมาก ”
เย่เฉินขมวดคิ้วและถาม“พ่อของคุณเป็นใคร?ทำอะไร?ชื่อแซ่อะไร เกิดที่ไหน ตายที่ไหน? ”
หลินหว่านเอ๋อร์ตอบ“พ่อของฉันชื่อหลินจู๋ว์หลู เกิดที่เย่นจิง ตายที่เตียนหนาน ส่วนเขาทำอะไรนั้น ฉันไม่รู้ รู้เพียงเขาเป็นนักบู๊คนหนึ่ง และเป็นศัตรูกับองค์กรพั่วชิงมาโดยตลอด”
เย่เฉินถาม“ทำไมถึงเป็นศัตรูกับองค์กรพั่วชิง?”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดไปตามความจริง“เคยไปครั้งหนึ่ง”
เย่เฉินถามว่า“ไปทำอะไร?”
หลินหว่านเอ๋อร์ตอบ“หลานสาวของเพื่อนเก่าคุณปู่พักอาศัยอยู่ที่Tomson Riviera ครั้งนั้นที่ฉันไป เพราะคนขับรถของคุณปู่จะไปรับหลานสาวของเพื่อนเก่าที่อยู่Tomson Rivieraมากินข้าวที่บ้าน ดังนั้นฉันก็เลยได้ไปที่นั่น ”
เย่เฉินถามต่อ“ หลานสาวของเพื่อนเก่าคุณปู่คุณเป็นใคร?”
หลินหว่านเอ๋อร์ตอบ “เธอเป็นอาจารย์บรรยายที่มหาวิทยาลัยจินหลิง และเพิ่งได้เซ็นสัญญากับมหาวิทยาลัยจินหลิงไป”
เย่เฉินต้องการจะไปตรวจสอบทีหลังว่าที่หลินหว่านเอ๋อร์พูดมานั้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่อย่างไร ก็จึงเอ่ยถามเธอ“หลานสาวเพื่อนเก่าคนนั้นชื่ออะไร ?”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดอย่างไม่ลังเล“ เธอชื่อหลิวม่านฉง!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...