ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ในตอนที่เขาได้ใช้จุดสังเกตทางจิตวิทยากับหลินหว่านเอ๋อร์นั้น ก็ได้ใช้ปราณทิพย์ไปจำนวนมาก เย่เฉินมั่นใจว่าปราณทิพย์ที่มากมายขนาดนี้ หลินหว่านเอ๋อร์ที่ไม่มีพลังปราณทิพย์ใดๆ ไม่มีทางที่จะหนีพ้นจุดสังเกตทางจิตวิทยาของตัวเองไปได้
จนตอนนี้ ความสงสัยของเย่เฉินที่มีต่อหลินหว่านเอ๋อร์นั้น ก็ได้คลายลงไปแล้วกว่าแปดถึงเก้าในสิบส่วน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเย่เฉินจะเชื่อว่าหลินหว่านเอ๋อร์ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง แต่เขาก็ยังคงคิ้วขมวดอยู่
แม้ในตอนนี้เขาจะเชื่อว่าที่หลินหว่านเอ๋อร์มาปรากฏตัวขึ้นในเมืองจินหลิงจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ตาม แต่ในใจก็ยังคงมีความเป็นกังวลอยู่
ครั้งสุดท้ายที่เย่เฉินได้พบกับหลินหว่านเอ๋อร์นั้น องค์กรพั่วชิงกำลังไล่ตามล่าฆ่าเธออยู่
ตอนนี้ เธอมาที่เมืองจินหลิง หากองค์กรพั่วชิงได้เบาะแสของเธอ อย่างนั้นแล้วพวกเขาจะต้องเรียนรู้ถึงบทเรียนจากเมื่อครั้งที่แล้ว และส่งยอดฝีมือผู้เก่งกาจที่สุดมาที่เมืองจินหลิงเพื่อจับตัวเธอ
นอกจากนี้ ตากับยายของตัวเองก็มาที่เมืองจินหลิงแล้ว เป็นเหมือนกับหลินหว่านเอ๋อร์ ครอบครัวของพวกเขา ก็เป็นเป้าหมายสำคัญขององค์กรพั่วชิงเช่นกัน
จากที่มอง สองเป้าหมายสำคัญขององค์กรพั่วชิงต่างก็อยู่ที่เมืองจินหลิง อย่างนั้นแล้วความเป็นไปได้ที่องค์กรพั่วชิงจะมาที่เมืองจินหลิงนั้นก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เมื่อพิจารณาถึงองค์กรพั่วชิงในตอนนี้ ก็แทบจะเงียบกริบเกือบทั้งหมด มีเพียงท่านเอิร์ลสามคนที่ยังอยู่ข้างนอก เย่เฉินเป็นกังวล ไม่แน่ว่าอาจจะมีท่านเอิร์ลสักคนขององค์กรพั่วชิงเดินทางมาที่เมืองจินหลิงก็เป็นได้
ที่ไซปรัส ตัวเองได้ให้ว่านพั่วจวินซุ่มโจมตีด้วยระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์ แต่ที่เมืองจินหลิง ตัวเองไม่มีความสามารถแบบนี้ และไม่มีโอกาสแบบนี้
หากมีท่านเอิร์ลขององค์กรพั่วชิงมาที่เมืองจินหลิงจริง หากอีกฝ่ายมาเพราะหลินหว่านเอ๋อร์ก็ยังไม่เท่าไร แต่หากอีกฝ่ายต้องการทำร้ายตากับยายของตัวเองด้วยแล้ว อย่างนั้นตัวเองจะมีความสามารถพอที่จะปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัยได้หรือไม่ ในตอนนี้ก็ยังคงตอบไม่ได้
นอกจากนี้ ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือ ตัวเองอยู่ที่เมืองจินหลิง ไม่สะดวกที่จะทำระบบเตือนภัยล่วงหน้า หากอีกฝ่ายมาที่เมืองจินหลิงจริง ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ลงมือทำอะไร ตัวเองก็ยากที่จะรู้ล่วงหน้าได้
คิดมาถึงตรงนี้ ภายในใจของเย่เฉินก็ยิ่งจะหนักอึ้งมากขึ้นไปอีก
……
อาหารมื้อเที่ยง เย่เฉินกินมันอย่างไร้รสชาติ
หลังมื้ออาหาร เขาส่งคลอเดีย หลี่เสี่ยวเฟินและป้าหลี่กลับบ้าน จากนั้นก็ขับรถไปที่ริมแม่น้ำ หาที่จอดรถแล้วจอด นั่งอยู่คนเดียวลำพังที่ริมแม่น้ำนี้ตลอดทั้งบ่าย
เย่เฉินครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ก็จึงพูดอย่างสบายๆ“อยากกินอาหารเบาๆ อย่างนั้นก็กินอาหารสไตล์ฮ่องกงแล้วกัน?”
“อย่าเลย”หลิวม่านฉงยิ้มแห้งแล้วพูดว่า“ร้านอาหารจีนสไตล์ฮ่องกงในเมืองจินหลิงฉันลองมาหมดแล้ว ไม่ค่อยจะเหมือนต้นตำรับเท่าไร”
เย่เฉินพูดด้วยรอยยิ้ม“นั่นคือข้อเสียของอาหารจีน ยากที่จะรับประกันรสชาติได้ และรสชาติที่สามารถจะเป็นไปในแบบเดียวกันได้ ก็มักจะเป็นพวกเครื่องปรุงหรืออาหารสำเร็จรูปเท่านั้น”
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็จึงพูดขึ้นว่า“งั้นไปกินอาหารญี่ปุ่นดีกว่า ขอแค่วัตถุดิบสดใหม่ รสชาติก็น่าจะใช้ได้ ”
หลิวม่านฉงพูดอย่างไม่ต้องคิด“ได้ เอาตามที่คุณว่าแล้วกัน ”
จากนั้น เย่เฉินก็ขับรถไปพร้อมกับหลิวม่านฉง มาถึงที่หน้าร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง
ในตอนที่ผลักประตูเข้าไป กระดิ่งที่แขวนอยู่ตรงหน้าประตูเพราะมีการสั่นไหว ก็จึงเกิดเป็นเสียงที่ดังกังวานขึ้นมา ทำเอาเย่เฉินถึงกับต้องผงะอยู่กับที่
กับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า ในหัวสมองของเขาจู่ๆก็ผุดวิธีการรับมือหนึ่งขึ้นมา……

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...