ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5534

สรุปบท บทที่ 5534 กระดิ่ง(3): ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ตอน บทที่ 5534 กระดิ่ง(3) จาก ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 5534 กระดิ่ง(3) คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยาย จีน ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน ที่เขียนโดย เมฆทอง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

เย่เฉินพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ยื่นยันต์ฟ้าร้องให้กับจางเอ้อเหมา ใช้ปราณทิพย์ไปด้วยเล็กน้อย สั่งกำชับพร้อมใช้จุดสังเกตทางจิตวิทยากับเขาว่า“ของสิ่งนี้นายเก็บมันไว้เอง เอามันกลับไปที่ตลาดของโบราณกับนาย และเปิดร้านขายของเก่าของนายต่อไป แต่นายต้องจำเอาไว้ ต้องเอามันไปวางไว้ในที่ที่เห็นมันได้อย่างชัดเจนของร้าน จากนั้นไม่ว่าใครจะมาถามซื้อ ให้นายเสนอขายไปในราคาห้าล้าน ห้ามขาดแม้แต่บาทเดียว หากมีคนถามว่าไปได้ยันต์ฟ้าร้องนี้มาจากไหน นายก็ บอกเขาไปว่าเพิ่งจะถูกขุดขึ้นมาได้ไม่นานก่อนหน้านี้ ในตอนที่มีคนมาถามนาย นายต้องปักใจเชื่อในตัวเองว่า ของทั้งสามอย่างนี้เพิ่งจะถูกขุดขึ้นมาได้ เข้าใจไหม?”

ดวงตาของจางเอ้อเหมาแน่นิ่ง พยักหน้าให้อย่างหนักแน่น“เข้าใจแล้วครับ!”

เย่เฉินมองออก ว่าจุดสังเกตทางจิตวิทยานั้นได้ส่งผลต่อร่างกายของจางเอ้อเหมาแล้ว

ดังนั้น เขาจึงพูดกับจางเอ้อเหมาว่า“ไม้ฟาดสายฟ้านี้หากถูกคนซื้อไป นายต้องบอกฉันทันที แต่หากถูกคนขโมยไป นายก็ต้องรีบบอกฉันทันทีเช่นกัน”

จางเอ้อเหมาตอบกลับด้วยความเคารพในทันที“ได้ครับอาจารย์เย่!ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ครับ!”

เย่เฉินส่งจางเอ้อเหมาออกจากคฤหาสน์ไป ที่มุมปากก็เผยให้เห็นรอยยิ้มที่มั่นใจในแผนการ

ที่เขาต้องทำทุกอย่างนี้ ก็เพื่อต้องการจะแขวน“กระดิ่ง” ไว้ที่ตรงประตูทั้งสองบานของเมืองจินหลิง และ“กระดิ่ง”ทั้งสองอันนี้ ก็คือแหวนหยกปานจื่อสองวงที่ตัวเองได้ให้กับจางเอ้อเหมาไป

แหวนหยกปานจื่อสองวงนี้ดูไปแล้วก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร คนปรกติทั่วไปเมื่อเห็นก็จะไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไร เป็นอย่างที่จางเอ้อเหมาพูด วัสดุของแหวนหยกปานจื่อสองวงนี้เป็นแบบธรรมดาทั่วไป คุณภาพและราคาก็ไม่ได้สูงมาก ต่อให้จะเป็นคนที่รู้เรื่องของโบราณ ก็ไม่มีทางนึกสนใจ

ดังนั้น เมื่อคนทั้งสองต่างก็สวมแหวนหยกปานจื่อนี้ แล้วถือป้ายชื่อเพื่อรอรับใครบางคนที่สนามบินกับที่สถานีรถไฟความเร็วสูง จะมีเพียงคนประเภทเดียวเท่านั้นที่จะให้ความสนใจกับแหวนหยกปานจื่อบนนิ้วของพวกเขา นั่นก็คือ คนที่สามารถจะมองเห็นค่ายกล ที่อยู่ในแหวนหยกปานจื่อนี้ได้!

และผู้ที่สามารถจะมองเห็นค่ายกลที่มีอยู่ในแหวนหยกปานจื่อนี้ได้ ก็ต้องเป็นคนที่มีปราณทิพย์เท่านั้น

แล้วคนแบบไหนที่จะมีปราณทิพย์ได้?

เท่าที่เย่เฉินรู้ นอกจากตัวเองแล้ว ก็มีเพียงห้าคนเท่านั้น

คนแรก คือผู้มีพระคุณขององค์กรพั่วชิง

อีกสี่คนที่เหลือ ก็คือท่านเอิร์ลทั้งสี่ขององค์กรพั่วชิง

แต่ว่า ผู้มีพระคุณไม่มาที่เมืองจินหลิงด้วยตัวเองแน่ และท่านเอิร์ลทั้งสี่เองก็ตายไปแล้วคนหนึ่ง

ดังนั้น เป้าหมายของเย่เฉิน ก็จึงเหลือแค่สามคนเท่านั้น นั่นก็คือท่านเอิร์ลสามคนที่เหลือขององค์กรพั่วชิง

ต่อให้พวกเขาจะไม่รู้จักยันต์ฟ้าร้อง ก็ยังจะพอมองออก ว่าเครื่องมือทางธรรมนี้ ให้ผลต่อการโจมตี!เมื่อเทียบกับแหวนหยกปานจื่อที่สามารถจะป้องกันตัวได้แล้ว ก็ย่อมต้องแข็งแกร่งกว่ามาก

เมื่อถึงเวลานั้น พวกเขาจะคิดว่ามันคือสมบัติล้ำค่า ราคาจะกี่ล้าน พวกเขาก็จะไม่ลังเลอย่างแน่นอน

แต่ว่า ยันต์ฟ้าร้องนี้ดูแล้วก็เหมือนกับไม้ฟาดสายฟ้าทั่วๆไป จางเอ้อเหมาเสนอราคาไปห้าล้าน ต่อให้จะเป็นทายาทเศรษฐีผู้ล้างผลาญอย่างฉินเอ้าตง ก็ไม่มีทางจะเสียเงินมากมายขนาดนั้นเพื่อซื้อมันแน่ ดังนั้น ที่จะซื้อมันไป ก็ต้องเป็นคนที่รู้จักสินค้านี้เท่านั้น !

หรือจะพูดว่า ต้องเป็นท่านเอิร์ลหนึ่งในสามขององค์กรพั่วชิงเท่านั้น!

ในเวลานั้นเมื่ออีกฝ่ายได้ยันต์ฟ้าร้องนั้นไป ก็จะต้องตื่นเต้นดีใจอย่างมาก และจะต้องหาสถานที่ที่ไม่มีคนเพื่อทำการทดสอบมัน และอาจเพราะไม่มี《ตำราเก้าเสวียนเทียน》 ดังนั้นก็จึงอาจไม่รู้ ว่ายันต์ฟ้าร้องที่ตัวเองได้ทำขึ้นมาเป็นพิเศษนี้ จะใช้ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

ดังนั้น เมื่อเขาได้ทดสอบมัน ยันต์ฟ้าร้องนี้ก็จะถูกทำลายให้กลายเป็นขี้เถ้าแล้วปลิวหายกลายเป็นควันมลายสิ้น ขณะเดียวกันก็จะก่อให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองตามมาด้วย !

ถึงตอนนั้น ตัวเองไม่เพียงรู้ว่าเขามาแล้ว แต่ยังรู้ว่าเขาอยู่ที่ตรงบริเวณไหนด้วย !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน