หลังจากหลี่ญ่าหลินพูดจบ สองสามวันมานี้อาการของคุณท่านอานฉี่ซานดีขึ้นมาก ความทรงจำก็ค่อย ๆ ฟื้นกลับคืนมา จู่ ๆ ก็พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด : “ญ่าหลิน(ญ่าหลิน) พูดถูก ! ก่อนหน้านี้พวกเราปฏิเสธเรื่องราวง่ายเกินไป เพราะงั้นหลายปีมานี้ถึงหาเฉินเอ๋อไม่เจอสักที ! เวลาทำอะไรบางที ก็ต้องฝืนสัญชาตญาณของตัวเอง !”
อานโฉงชิวพยักหน้าพูด : “หลังจากที่พี่สาวเกิดเรื่อง พวกเราก็หาที่เมืองจินหลิงระยะหนึ่ง ไม่พบที่อยู่ของเฉินเอ๋อ ในตอนนั้นก็ตัดสินโดยสัญชาตญาณว่า เฉินเอ๋อคงจะออกจากเมืองจินหลิงไปแล้วแน่ ตั้งแต่นั้นมา พวกเราก็หาเฉินเอ๋อจากสถานที่นอกเมืองจินหลิง หามายี่สิบปีก็ไม่ประสบความสำเร็จ ไม่แน่ว่า เฉินเอ๋ออาจจะไม่เคยออกไปจากเมืองจินหลิงเลยก็ได้ !”
อานข่ายเฟิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้นมา ขวมดคิ้วกล่าว : “ตอนนี้มาคิด ๆ ดู ค่าธรรมเนียมของที่เมืองจินหลิงนี้ มันมากเกินจะวัดจริง ๆ ! ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ตามเบาะแสเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พวกเรามีในตอนนี้ ผมว่าผู้มีพระคุณน่าจะเป็นคนเมืองจินหลิง !”
“ใช่แล้ว” อานโฉงชิวพูดด้วยความเห็นด้วย : “ผู้มีพระคุณเลือกที่จะจัดงานประมูลยาอายุวัฒนะที่เมืองจินหลิง และยังให้โอกาสนี้กับซ่งซื่อกรุ๊ปที่เป็นบริษัทท้องถิ่นเมืองจินหลิง และฉันก็ได้รับข่าวสารบางอย่าง ซ่งซื่อกรุ๊ปหลังจากการประมูลยาอายุวัฒนะครั้งนั้น ได้บริจาคภาษีให้เมืองจินหลิงมากกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ และบริจาคเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อการกุศลเงินเหล่านี้คงจะเป็นเงินประมูลที่ได้มาจากการประมูลยาอายุวัฒนะ !”
ระหว่างพูด อานโฉงชิวก็กล่าวอีก : “นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ซ่งซื่อกรุ๊ปหลังจากงานประมูล ลงทุนเกินร้อยล้านดอลลาร์ วางแผนก่อสร้างสถานสงเคราะห์ขนาดใหญ่ที่เมืองจินหลิง เล่ากันว่าการออกแบบสถานสงเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้ ไม่เพียงแต่สามารถจัดหาสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันให้กับเด็กกำพร้าหลายหมื่นคนเท่านั้น แต่ยังจัดหาทรัพยากรทางการศึกษาที่ยอดเยี่ยมให้กับพวกเขาอีกด้วย ถ้าไม่ได้มีความผูกพันที่มากพอกับเมืองจินหลิง ก็คงไม่ตัดสินใจแบบนี้เป็นแน่ !”
ทันใดนั้นดวงตาหลี่ญ่าหลินเป็นประกาย พูดโพล่งออกมา : “สร้างสถานสงเคราะห์ ? ดูเหมือนว่าผู้มีพระคุณคนนี้ จะให้ความสำคัญกับเด็กกำพร้ามากเลยนะ ! จะเป็นไปได้ไหมว่าเขาเองก็เป็นเด็กกำพร้า เพราะงั้นถึงได้ดูแลเด็กกำพร้าแบบนี้ ?”
อานโฉงชิวพยักหน้ากล่าว : “ที่ญ่าหลินพูดก็เป็นไปได้”
น้าสาวอานโยวโยวของเย่เฉินพูดอย่างอดไม่ได้ : “ถ้าตรวจสอบสถานสงเคราะห์ในจินหลิงหน่อย อาจจะมีโอกาสหาตัวตนของผู้มีพระคุณเจอได้รึเปล่า ?”
หลี่ญ่าหลินฟังถึงตรงนี้ ดวงตาก็สว่างขึ้น ในใจกล่าวชม : “นี่มันไม่ใช่ว่าสรุปจากเรื่องหนึ่งและสามารถอนุมานไป ถึงเรื่องอื่น ๆ ได้ใช่ไหม ? ถ้าตรวจสอบตามเบาะแสนี้ไป ไม่เพียงแค่หาผู้มีพระคุณเจอ แต่ยังสามารถตรวจสอบได้ว่าที่จริงแล้วผู้มีพระคุณก็คือหลานของตระกูลอาน !”
ทันใดนั้นอานโฉงชิวก็โบกมือกล่าว : “ผมว่าพวกเรายังไม่ต้องไปหาตัวตนของผู้มีพระคุณหรอก เขารู้ทุกย่างก้าวของเรา ถ้าเกิดพวกเราไปบุ่มบ่ามหาเขา กลัวว่าเดี๋ยวผู้มีพระคุณจะไม่พอใจพวกเราเอา”
อานข่ายเฟิงกล่าวเห็นด้วย : “พี่พูดถูก ในเมื่อพวกเรามาที่เมืองจินหลิงแล้ว ก็เท่ากับอยู่ในสายตาของผู้มีพระคุณ เวลาแบบนี้ เราควรพยายามจัดการอย่างเงียบ ๆ หน่อย พยายามอย่าให้ไปทำอะไรที่เป็นการก่อกวน”
เขาบีบจมูกหยิบเครื่องมือทางธรรมสามอย่างนั้นออกมาจากในดิน และใช้แปรงขนอ่อนค่อยๆ ปัดดินรอบๆเครื่องมือทางธรรม จากนั้นใช้ผ้าขนหนูแห้งเช็ดอย่างละเอียด และก็เอากลับมาดมใหม่
ในตอนนี้กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเหม็นคาว ก็จางลงไปเยอะ จากประสบการณ์ของจางเอ้อเหมาที่ย้ายของโบราณก่อนหน้า กลิ่นนี้กับเครื่องหยกที่ขุดดิบออกมาใหม่ นั้นใกล้กันมาก
ของที่ขุดดิบออกมา โดยเฉพาะของประเภทเครื่องหยกและของที่ฝั่งลงโลงไว้กับศพ ในตอนแรกที่ขุดออกมา ไม่ว่าจะล้างให้สะอาดยังไง ก็จะมีกลิ่นเหม็นคาวจาง ๆ แบบนี้ กลิ่นเหม็นแบบนี้ถึงจะขุดออกมาแล้วหนึ่งปี ก็ยังมีกลิ่นเหลืออยู่จาง ๆ คนทั่วไปอาจจะไม่ได้กลิ่นอะไร แต่คนอย่างจางเอ้อเหมาที่คลุกคลีอยู่กับของโบราณบ่อย ๆ แค่ดมก็สามารถแยกแยะได้
เครื่องหยกสองชิ้นนี้เป็นของเก่า ตอนนี้มีกลิ่นแบบนี้ คนที่มีความรู้แทบจะตัดสินได้ว่าของนี้ออกมาจากการขุดดิบ
หลังจากยืนยันว่าของไม่มีปัญหาแล้ว จางเอ้อเหมารีบขับรถกลับเข้าไปในเมือง และตรงไปที่ตลาดของโบราณ

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...