ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5574

วันรุ่งขึ้น

เย่เฉินกับเซียวชูหรันได้ตื่นนอนในเวลาเช้าตรู่

ฉวยโอกาสที่เซียวฉางควนกับหม่าหลันยังไม่ตื่น ทั้งสองคนก็เตรียมตัวเรียบร้อยในตอนหกโมง และขับรถไปสนามบิน

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เซียวชูหรันออกจากบ้านไปไกลตัวคนเดียว นับตั้งแต่เย่เฉินกับเซียวชูหรันแต่งงานมาหลายปี

แม้ว่าในใจของทั้งสองคนต่างไม่อยากห่างจากกัน แต่ก็รู้ว่าการจากลาสั้น ๆ ในครั้งนี้ ทั้งสองคนไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว

เย่เฉินต้องรับรองความปลอดภัยของเซียวชูหรัน ส่งเธอไปที่เฟ่ยเข่อซิน เฟ่ยเข่อซินสามารถดูแลเธอได้ดีอย่างแน่นอน

และเซียวชูหรันคิดว่า ตัวเองต้องช่วยเหลือเฟ่ยเข่อซินแก้ไขเรื่องจวนตัว ดังนั้นทำได้แต่แยกจากสามีไปสักระยะหนึ่งก่อน

ตอนจากกันที่สนามบิน เซียวชูหรันดวงตาแดงก่ำ กอดเย่เฉินไว้เบา ๆ แล้วพูดพึมพำ : “ที่รักคะ ครั้งนี้ฉันไปสหรัฐอเมริกา ยังไม่รู้ว่าต้องนานแค่ไหน เรื่องในบ้านก็รบกวนคุณแล้วนะคะ……”

เย่เฉินลูบแผ่นหลังของเธอ แล้วพูดปลอบใจ : “มีผมอยู่ คุณวางใจได้เต็มที่ ผมจะดูแลคุณพ่อกับคุณแม่ให้เป็นอย่างดี”

เซียวชูหรันพูดกำชับ : “หลัก ๆ คือดูแลตัวเองให้ดี อย่าเอาแต่ห่วงใยไปช่วยคนเขาดูฮวงจุ้ย”

“ได้ครับ ได้” เย่เฉินยิ้มจาง ๆ แล้วพูดด้วยเสียงอ่อนโยน : “คุณเองก็ด้วย ถึงนครนิวยอร์กแล้วอย่าเอาแต่คิดเรื่องงาน ใส่ใจการทำงานแล้วก็ต้องพักผ่อนด้วย”

เซียวชูหรันปาดน้ำตาเงียบ ๆ พูดอย่างอาลัยอาวรณ์ : “ที่รัก งั้นฉันเข้าไปแล้วนะคะ……”

“ไปเถอะ !” เย่เฉินพยักหน้า แล้วยิ้มบอก : “บอกผมทันทีเลยนะพอถึงพื้นแล้ว”

“ได้ค่ะ !”

เย่เฉินมองตามหลังเซียวชูหรันเข้าไปด่านตรวจความปลอดภัย รอหลังจากเธอตรวจความปลอดภัยเสร็จ และจากทางตรวจความปลอดภัย จึงจะหันจากไป

ในตอนนี้เพิ่งจะหกโมงครึ่งเท่านั้น เย่เฉินไม่ได้รีบร้อนจากไป แต่มาที่ห้องพักผู้โดยสารขาเข้าของสนามบิน

เนื่องจากเวลาเช้าเกิน คนที่มาคอยรับที่สนามบินที่นี่เลยมีอยู่น้อยนิด เย่เฉินเห็นผู้ชายที่สวมแหวนหยกปานจื่อในจำนวนนั้นอยู่คนหนึ่งในปราดเดียว ซึ่งกำลังชูป้ายรับคนที่จุดทางออก

เย่เฉินวางใจได้เปราะหนึ่ง ดูจากตอนนี้แล้ว เรื่องที่จางเอ้อเหมาจัดการทำได้ใช้ได้อยู่มากเลย

เย่เฉินสีหน้าสงบ หยุดเดินและมองดูที่หน้าจอขนาดใหญ่ของสนามบินอย่างเงียบ ๆ

เที่ยวบินขาออกเมืองจินหลิงที่ไวที่สุด ก็ต้องอีกสิบนาทีถึงจะออกบิน และเที่ยวบินขาเข้า อย่างเร็วที่สุดก็ต้องคอยถึงแปดโมงถึงจะลงจอด

ในรายการเที่ยวบินขาเข้า สถานที่ออกเดินทางส่วนใหญ่ต่างเป็นแต่ละเมืองใหญ่ ๆ ของในประเทศ ส่วนจำนวนน้อยเป็นเมืองอื่นของต่างประเทศ

เย่เฉินไม่รู้ว่าศัตรูของตัวเอง จะนั่งเครื่องบินมาหรือเปล่า และไม่รู้ว่าศัตรูของตัวเองจะมาจากที่ไหน แต่ว่าเขารู้อยู่เรื่องหนึ่ง นั่นก็คือ นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เขาตั้งมั่นและรักษาการณ์อยู่ที่เมืองจินหลิง ไม่มีเรื่องที่ต้องพะวงหน้าพะวงหลังอะไรอีกแล้ว !

เขากำหมัดแน่น แอบสาบานอยู่ในใจ : “ไม่ว่าเป็นใคร หากว่าเขาคิดสังหารคุณตากับคุณยายของฉันต่อ ที่เมืองที่พ่อแม่ของฉันโดนสังหารเมื่อยี่สิบปีก่อนแห่งนี้ ฉันเย่เฉินจะสู้จนตาย และจะสู้ด้วยชีวิต ! ไม่ว่าเป็นใครหน้าไหน ก็จะฆ่าให้หมด !”

ประโยคสุดท้าย ดังกึกก้องอยู่ในหัวใจของเย่เฉิน !

เขามองเที่ยวบินเข้าขาเข้าของสนามบินด้วยสายตาที่หนักแน่นแวบหนึ่งอีกครั้ง จึงจะหันตัวและสาวเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว !

……

ณ เย่นจิง ในขณะนี้

เป็นเวลาตอนเช้าหกโมงครึ่งเช่นเดียวกัน ท่าอากาศยานนานาชาติเย่นจิงยุ่งกว่าเมืองจินหลิงมาก

เนื่องจากเที่ยวบินแน่นเกินไป เที่ยวบินขาออกของเย่นจิง จึงเริ่มออกเดินทางอย่างหนาแน่นทีละลำแล้วลำเล่า ตั้งแต่ช่วงเช้าหกโมงสิบนาที

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งที่สวมเสื้อคลุมตัวยาว สาวเท้าเดินเข้าไปห้องโถงออกเดินทางของประเทศที่สนามบินเย่นจิง ด้วยสถานะของสวี่ฉางชิงชาวจีนอพยพอาร์เจนตินา

เขาซื้อเที่ยวบินที่ไปเมืองจินหลิงได้เร็วที่สุดในวันนี้ ภายใต้การได้รับแรงกดดันจากผู้มีพระคุณ เครื่องบินออกบินแปดโมง คาดการณ์ว่าบินหนึ่งชั่วโมงสี่สิบนาที

เมื่อทำขั้นตอนขึ้นเครื่องเรียบร้อยแล้ว ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็หลับตาพักผ่อน รอขึ้นเครื่อง อยู่ที่ห้องพักผ่อนของชั้นเฟิร์สคลาส

เพียงแต่หัวใจที่เต้นมาหนึ่งร้อยห้าสิบหกปีดวงนั้นของเขา กลับไม่รู้ว่าทำไมในตอนนี้ เอาแต่ติดขัดอยู่บ่อย ๆ โดยไร้สาเหตุ จู่ ๆ บางครั้งก็เร็วเกิน จู่ ๆ บางครั้งก็ช้าไป จิตใจหวาดผวาเหมือนรถไฟเหาะอย่างไรอย่างนั้น

ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งทราบดี การแสดงออกที่ผิดปกติพวกนี้ เป็นเพราะความตื่นเต้นที่อยู่ภายในใจของตัวเอง

แม้ว่าเขาไม่เคยได้ตื่นเต้นจริง ๆ มาหลายปีแล้ว แต่เขายังคงจำได้ชัดเจน เมื่อก่อนตอนที่ตัวเองตื่นเต้นในทุกครั้งก็จะเป็นเช่นนี้ เป็นความเคยชินที่เกิดขึ้นจากวัยเด็กจนถึงวัยหนุ่มสาว

ในตอนนี้ ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งอดไม่ได้ที่จะหวนนึกถึงเส้นทางชีวิตอันยาวนานของตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน