หลังจากที่ออกมา เธอส่งข้อความไปหาพี่เสียน จากนั้นก็วิ่งเหยาะๆไปทางประตู และกดโทรหาเย่เฉินไปด้วย
เธอกลัวว่าเสียงฟ้าร้องที่ดังขึ้นเมื่อครู่จะเกี่ยวข้องกับเย่เฉิน ดังนั้นก็จึงพูดพึมพำไม่หยุด“รีบรับสายเร็ว……รีบรับสายเร็ว……”
สักพัก ที่ปลายสาย เสียงของเย่เฉินก็ดังขึ้นมา “เสี่ยวหว่าน โทรมามีอะไรเหรอ ?”
เมื่อได้ยินเสียงของเย่เฉิน หลินหว่านเอ๋อร์ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และรีบพูดว่า“พี่เย่เฉิน เรื่องเมื่อคราวที่แล้วรู้สึกขอบคุณพี่มาก ดังนั้นอยากจะถามพี่ว่าพี่สะดวกวันไหน ฉันอยากจะเลี้ยงข้าวพี่ ”
เย่เฉินยิ้มและพูดว่า“รอการฝึกทหารของเราจบก่อนแล้วค่อยว่ากัน ช่วงนี้เราก็อยู่แต่ในมหาวิทยาลัย อย่าออกไปไหนนะ”
พูดจบ เย่เฉินก็นึกอะไรได้ขึ้นมา แล้วถามเธอ“เอ่อนี่ ตอนนี้ก็น่าจะเป็นเวลาฝึกทหารของพวกเราหรือเปล่า?โทรมาหาฉันได้ยังไง?”
หลินหว่านเอ๋อร์จงใจพูดโกหก“เมื่อครู่จู่ๆก็มีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นมา เหมือนฝนจะตก ครูฝึกก็เลยปล่อยให้พวกเราได้พัก รอดูสภาพอากาศ”
“โอ้……”เย่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาอดไม่ได้ที่จะนึกคาดเดาขึ้นมาในใจถึงความตั้งใจในการโทรมาสายนี้ของหลินหว่านเอ๋อร์
จากมุมมองของเขา จุดประสงค์ในการโทรมานี้ของหลินหว่านเอ๋อร์ หนีไม่พ้นสามอย่าง
หนึ่งคืออย่างที่เธอพูดมาเมื่อครู่ แค่อยากจะเลี้ยงข้าวตัวเองจริงๆแค่นั้น
สองคือ เพราะเสียงฟ้าร้องเมื่อครู่ทำให้เธอรู้สึกถึงความผิดปรกติบางอย่าง ดังนั้นก็จึงโทรมาเพื่อยืนยันความปลอดภัยของตัวเอง
อย่างที่สามคือ ในสายเธอจงใจพูดถึงเสียงฟ้าร้องที่ดังขึ้นเมื่อครู่ ความตั้งใจก็คือเพื่อเตือนตัวเองให้ระวังความปลอดภัย
แน่นอนว่า ไม่ตัดประเด็นเรื่องที่หลินหว่านเอ๋อร์ต้องการจะยืนยันความปลอดภัยของตัวเองก็จึงโทรมา และเมื่อได้รับการยืนยันว่าตัวเองนั้นปลอดภัย ก็จงใจพูดเรื่องเสียงฟ้าร้องที่ดังขึ้น เพื่อให้ตัวเองระมัดระวังตัว
หลังจากที่หลินหว่านเอ๋อร์ได้รับการยืนยันถึงความปลอดภัยของเย่เฉินแล้ว ก็ไม่คิดจะพูดอะไรต่อกับเย่เฉินอีก เพราะเธอกลัวว่าหากพูดมากไป เย่เฉินก็จะเกิดความสงสัยในตัวเองขึ้นมาอีก ก็จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า“พี่เย่เฉิน ถ้าอย่างนั้นรอฉันฝึกทหารจบแล้วค่อยเลี้ยงข้าวพี่นะ พี่คงไม่ปฏิเสธหรอกใช่ไหม?”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดโพล่งออกมา“ไม่มีอะไรสำคัญหรอก แค่การฝึกทหารนี้มันเหนื่อยเกินไป ไม่อยากจะเข้าร่วม พาฉันกลับโฮมสเตย์จื่อจินเถอะ”
พูดจบ เธอก็พูดกับพี่เสียนว่า“เอ่อนี่พี่เสียน พี่โทรหาผู้บริหารของโรงเรียนให้ที บอกเขาว่าช่วงนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย การฝึกทหารที่เหลือ ฉันไม่เข้าร่วมด้วยแล้ว ”
พี่เสียนชะงักไปเล็กน้อย แต่ไม่นานก็กลับเป็นปรกติ
การฝึกทหารนั้นหนักมาก คุณหนูอย่างหลินหว่านเอ๋อร์ ปรับตัวไม่ได้ก็เป็นเรื่องปรกติ
ดังนั้น เธอก็จึงตอบกลับในทันที“ได้ค่ะคุณหลิน ฉันจะพาคุณกลับโฮมสเตย์จื่อจินก่อน จากนั้นค่อยติดต่อไปหาผู้บริหารของโรงเรียน”
“ตกลง”หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้ารับ และไม่พูดอะไรอีก มองออกไปนอกหน้าต่าง แล้วขบคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย……

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...