ครั้งนี้ ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งรู้ทางหนีทีไล่แล้ว
เขาหยิบโทรศัพท์ออกว่มาทันที โอนให้จางเอ้อเหมาสองแสนดอลลาร์ จากนั้นถามเขาอย่างรอไม่ไหวว่า:“เอ้อเหมา ตอนนี้ส่งของให้ผมได้แล้วใช่ไหม?”
จางเอ้อเหมาตบอกพูดว่า:“ท่านรอก่อน ผมจะโทรไปเร่งเขาเดี๋ยวนี้!”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งรีบเตือนไปว่า:“ผมแค่ต้องการของเหมือนสองอย่างนั้น คุณอย่าตบตาผมเลย”
จางเอ้อเหมาพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง:“ท่านไม่ต้องห่วง ผมจางเอ้อเหมาอยู่ในวงการนี้มาหลายปี อาศัยคำว่าซื่อสัตย์ เรื่องตบตาคน ชีวิตนี้ผมไม่ทำแน่!”
พูดจบ เขาก็ทำเป็นพูดอย่างลึกลับว่า:“ตระกูลคนรวยติดต่อผมแล้ว เดี๋ยวจะเอาของมาส่งให้ผม คุณรอสักครู่นะ!”
“จริงเหรอ?!”ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งตื่นเต้นทันที พูดว่า:“ดีจัง!”
ทั้งสองรออยู่ประมาณยี่สิบนาที คนส่งของคนหนึ่งก็วิ่งเข้ามาจากด้านนอกตลาดของโบราณ
ตั้งแต่บุคคลนี้เข้ามาในตลาดของโบราณ ก็ถูกท่านเอิร์ลฉางเซิ่งและหยุนหรูเกอจับตาดู
ไม่มีเหตุผลอื่น นอกจากทั้งสองพบความผันผวนปราณทิพย์ในตัวเขา
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งยังคิดด้วยว่า ความผันผวนนี้มีความคุ้นเคย
ตอนนี้ ในใจท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็ยิ่งตื่นเต้น อดไม่ได้ที่จะถอดถอนหายใจข้างในใจว่า:“นี่คือเครื่องมือทางธรรมชิ้นที่สามแล้ว!นี่ฉันสัมผัสรังของเครื่องมือทางธรรมแล้วจริง ๆ !มีหนึ่งก็ต้องมีสอง มีสองก็ต้องมีสาม ทั้งสามสิ่งนี้มีแล้ว ถ้ามีอีกสี่ ห้า และหกคงไม่ใช่ฝันแล้ว!”
ตอนนี้เอง คนส่งของตรงไปที่แผงขายของจางเอ้อเหมา และถามเขาว่า:“คุณคือจางเอ้อเหมาสินะ?”
จางเอ้อเหมาพยักหน้า แล้วถามเขา:“สินค้าของผมล่ะ?”
คนส่งของหยิบกล่องเครื่องประดับออกมาจากกระเป๋า แล้วยื่นให้เขา
ซื้อสิ ตัวเองมีวงหนึ่งแล้ว และยังไม่เข้าใจเลยว่ามีฤทธิ์ผลอย่างไร
ไม่ต้องซื้อหรอก ยังไงมันก็เป็นเครื่องมือทางธรรม จะปล่อยให้มันหลุดมือไปไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?
ขณะที่กำลังหดหู่ จางเอ้อเหมาก็พูดว่า:“ท่าน ผมขอพูดหน่อยนะ คุณก็ซื้อแหวนวงนี้ไป ถึงตอนนั้นก็ใส่นิ้วโป้งข้างละวง ดูมีภูมิฐานดี!”
ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งคิดในใจว่า:“ในเมื่อคุยกับผู้มีพระคุณเรื่องแหวนแล้ว ตอนนี้ซื้อมาได้สองวงก็ถือเป็นเรื่องดี วงหนึ่งให้ผู้มีพระคุณ อีกวงตัวเองเก็บไว้ ถ้าเป็นของดีจริง ๆ อย่างน้อยตัวเองก็ไม่ต้องเสียใจ”
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาจึงพูดกับจางเอ้อเหมา:“โอเค ในเมื่อผมมีวาสนากับแหวน งั้นวงนี้ผมรับไว้ ห้าแสนดอลลาร์ใช่ไหม?”
จางเอ้อเหมารีบพูดว่า:“ท่าน ครั้งนี้ห้าแสนไม่ได้แล้ว ตระกูลคนรวยสั่งมาว่า แหวนวงนี้เป็นวงสุดท้าย ขายออกก็จะไม่มีอีกแล้ว ดังนั้นจะไม่ขายถ้าน้อยกว่าหนึ่งล้านดอลลาร์”
“หนึ่งล้าน……”ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งพูดด้วยความไม่พอใจ:“ราคานี่มันต่างกันราวฟ้ากับเหวเลยนะ และสองเท่าของราคาที่ดินเชียวนะ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...