คำพูดของเย่เฉิน ทำให้หงห้าดูตกใจมาก
เขาถามด้วยความตื่นตระหนกว่า:“อาจารย์เย่ อาจารย์หมายความว่าอย่างไร?หรือว่าวันนี้จะมีอันตราย?”
เย่เฉินเงียบไปสักพัก ไม่รู้จะตอบอย่างไรในทันที
อันตราย?
เขารู้สึกว่า ที่จริงตัวเองน่าจะไม่มีอันตรายอะไร
ท่านเอิร์ลแห่งองค์กรพั่วชิง เอาเครื่องมือทางธรรมทั้งสามที่ตัวเองทำขึ้นมา ถือเอาเป็นสมบัติอยู่ จะเห็นได้ว่า บุคคลนี้ยังเข้าถึงแก่นของปราณทิพย์ได้ไม่ลึก
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเองมีเครื่องมือทางธรรมโจมตีสองชนิด และโอสถหลายอย่างติดตัว จะรุกหรือรับก็ได้หมด ยิ่งไปกว่านั้นตัวเองจะอยู่ในความมืด คู่ต่อสู้อยู่ในแสงสว่าง ถ้าลงมือกันจริง ๆ ตัวเองก็จะได้เปรียบ
ดังนั้น เย่เฉินคิดว่า ไม่ว่าจะด้านไหน ตัวเองก็มีโอกาสชนะมากกว่าอีกฝ่าย
ถ้าจะลงมือจริง ๆ เย่เฉินมีความมั่นใจอย่างมากว่า สามารถกดคู่ต่อสู้ลงกับพื้นแล้วจัดการได้
แต่ว่า ที่ทำให้เย่เฉินค่อนข้างกังวลก็คือ สิ่งที่หลินหว่านเอ๋อร์บอกตัวเอง
จากที่หลินหว่านเอ๋อร์พูด เธอเดาออกว่าตัวเองแล้วจะตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ แม้ว่าจะฟังดูไม่น่าเชื่อถือนัก แต่สัญชาตญาณของเย่เฉินบอกเขาว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่โกหกตัวเอง
และเพราะเหตุนี้ ทำให้เย่เฉินระมัดระวังตัวมากขึ้นเล็กน้อย เขาต้องหาทางออกให้คนรอบข้างตัวเอง เผื่อว่าเขากำลังตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ
เวลานี้เผชิญหน้ากับคำถามของหงห้า เย่เฉินยิ้ม และพูดอย่างจริงจังว่า:“ตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายจริงหรือไม่ แต่ระวังตัวก็เป็นเรื่องดี”
หงห้าพูดอย่างกังวลและเป็นห่วงว่า:“อาจารย์เย่ ตอนนั้น ที่ภูเขาฉางไบ คุณฆ่าราชาบู๊ทั้งแปดแห่งตระกูลอู๋ด้วยตัวคนเดียว ซึ่งแปดคนนั้นทรงพลังมาก และก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้คุณเลย ในเมืองจินหลิง จะมีใครมาคุกคามเรื่องส่วนตัวของคุณได้อีก?”
ในกรณีนี้ ยิ่งนักบู๊เยอะ ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพน้อยลงเท่านั้น และอาจทำให้สถานการณ์วุ่นวายมากขึ้น และสร้างความสะดวกสบายให้กับคู่ต่อสู้มากขึ้น
ถ้าต้องการฆ่านักบำเพ็ญเพียรจริง ๆ ก็ต้องให้นักบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งกว่าออกโรง หรือไม่งั้นก็ใช้อาวุธทำลายปัจจุบันเลย
เช่นเดียวกับห่ากระสุนที่ยิงตัดสลับกันของระบบป้องกันระยะประชิดฟาลังซ์ ที่ทรงพลังมาก ความเร็วในการยิงก็เร็วมาก และความเร็วของการยิงปืนใหญ่ก็เร็วกว่าความเร็วเสียง อาวุธชนิดนี้ถ้าเอามาใช้ในการต่อสู้กับนักบำเพ็ญเพียร ก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะฆ่าเป็นสิบถึงยี่สิบคนในคราวเดียว
จากนั้น เย่เฉินพูดกับหงห้าว่า:“หงห้า เรื่องนี้ คุณไม่ต้องแสดงความคิดเห็นอีกแล้ว ทุกอย่างเอาตามที่ผมสั่ง”
หงห้าเห็นเย่เฉินยืนหยัด ก็รู้ว่าตัวเองพูดไปไม่ได้ผลอะไรแน่ ด้วยความจำใจ จึงได้แต่พยักหน้าพูดว่า:“ครับอาจารย์เย่ เข้าใจแล้ว!”
ตอนนี้เอง เย่เฉินหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาหลี่ญ่าหลิน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...