ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5650

“แต่ทว่าในช่วงปีที่สองหลังจากย้อนกลับไปยังภูเขาแสนลี้ หรือปีคริสตศักราช 1663 ซือกงสัมผัสได้ว่าตัวเองใกล้จะสิ้นอายุขัย ท่านจัดแจงเรื่องราวต่าง ๆ ของตัวเองเสร็จสิ้นแล้ว มอบยาจงเจริญให้ท่านพ่อและอู๋เฟยเยี่ยนคนละเม็ด หวังว่าสักวันทั้งสองจะสามารถทำให้คนชนชาติฮั่นยึดผืนแผ่นดินกลับคืนมาใหม่ได้……;”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ หลินหว่านเอ๋อร์ก็ถอนหายใจอีกครั้ง สีหน้าอารมณ์ดูโกรธเกรี้ยวและเศร้าโศก 

เย่เฉินเห็นว่าเธอไม่พูดอะไรอีก จึงลองถามหยั่งเชิง: “อู๋เฟยเยี่ยนนั่นทำสงครามร่วมกับพ่อเธอมานานหลายปี ไม่นึกเลยว่ามันจะสังหารพ่อเธอเพียงเพราะยาเม็ดเดียวงั้นเหรอ?”

หลินหว่านเอ๋อร์เม้มปากแล้วส่ายหน้า: “มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก แท้จริงแล้วอู๋เฟยเยี่ยนรักท่านพ่อมาโดยตลอด ทว่าท่านพ่อไม่อาจลืมเลือนแม่ข้าได้ และไม่มีความรู้สึกอย่างนั้นต่อนางด้วย จึงปฏิเสธนางมาโดยตลอด”

“หลังจากทั้งสองได้รับยาจงเจริญมาแล้ว ซือกงก็ล่วงลับจากไป หลังจากทั้งสองจัดการเรื่องฌาปนกิจของซือกงเสร็จสรรพ อู๋เฟยเยี่ยนก็กินยาจงเจริญลงไป ก่อนจะเสนอให้ท่านพ่อล้มเลิกแผนการที่จะโค่นชิงฟื้นหมิง ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับนางในภูเขาแสนลี้ ให้ทั้งคู่เป็นคู่รักเทวดาห้าร้อยปี แต่ท่านพ่อกลับปฏิเสธอีกครั้ง อีกทั้งด่ากราดนางว่าลืมบุญคุณความแค้นของประเทศ ไม่ละอายต่อท่านพี่นางที่ตายไปแล้ว ทั้งสองจึงขัดแย้งกัน;”

“ท่านพ่อไม่ยอมทอดทิ้งข้าแล้วใช้ชีวิตอย่างเดียวดายห้าร้อยปี และไม่อยากทอดทิ้งความรู้สึกที่อยากโค่นชิงฟื้นหมิงด้วย ดังนั้นจึงพูดกับอู๋เฟยเยี่ยนอย่างแจ่มแจ้งสามเรื่อง เรื่องแรกคือชั่วชีวิตนี้ท่านจะไม่สมรสอีก เรื่องที่สองคือท่านจะนำยาจงเจริญทิ้งไว้ให้ข้า ส่วนเรื่องสุดท้ายก็คือจะออกจากเขาแล้วรบกับราชวงศ์ชิงจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต;”

“อู๋เฟยเยี่ยนอาจจะรู้สึกว่าถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรงกระมัง เมื่อเห็นว่าท่านพ่อไม่ยอมใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับนาง จึงคิดที่จะแย่งยาจงเจริญเม็ดนั้น รวมไปถึงแหวนวงนั้นที่ซือกงมอบให้ท่านพ่อ ดังนั้นจึงจู่โจมท่านพ่อกะทันหัน;”

“ขณะที่ท่านพ่อบาดเจ็บสาหัส จึงถูกแหวนส่งจากภูเขาแสนลี้มายังเตียนหนานภายในชั่วพริบตาเดียว หลังจากหลอกให้ข้ากินยาจงเจริญลงไปแล้ว ท่านถึงจะนำเรื่องราวทั้งหมดนี้บอกเล่าให้ข้าฟัง”

เย่เฉินรู้สึกตะลึงงันอย่างยิ่ง มิน่าล่ะชายที่อยู่บนป้ายวิญญาณถึงชื่อหลินจู๋ว์หลู ที่แท้เขายังเป็นวีรบุรุษประชาชาติคนหนึ่งด้วย แถมทั้งชีวิตนี้ของเขาก็ไม่เคยลืมปณิธานดั้งเดิมของประเทศชาติ เมื่อเผชิญหน้าสิ่งดึงดูดใจอย่างการมีอายุยืนยาวห้าร้อยปี จิตใจเขาก็ไม่สั่นคลอนเลยแม้แต่น้อย อุปนิสัยแบบนี้ พอจะพูดได้เลยว่าเป็นนักปราชญ์ที่ยอดเยี่ยมมาก 

เมื่อคิดเช่นนี้ได้ เย่เฉินจึงถามเธอ: “อู๋เฟยเยี่ยนรู้ทั้งรู้ว่าเธอกินยาจงเจริญลงไปแล้ว แต่กลับไล่ล่าเธอมาโดยตลอด หรือว่ามันทำเพื่อแหวนที่อยู่บนมือฉัน?”

“ใช่เจ้าค่ะ!”หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า: “สิ่งที่อู๋เฟยเยี่ยนต้องการมากที่สุดก็คือแหวนวงนี้ เพราะก่อนซือกงจะสิ้นอายุขัย ท่านได้บอกกับท่านพ่อข้าว่าไม่ว่าจะกินยาจงเจริญมากเท่าไหร่ ก็สามารถทำให้คนคนหนึ่งมีอายุได้ถึงห้าร้อยปีเท่านั้น;”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน