หลินหว่านเอ๋อร์ตกใจชื่อที่เย่เฉินโพล่งออกมาจากปาก !
คืนนี้ตกใจเย่เฉินไม่หยุดโดยตลอด เธอเยือกเย็นเป็นอย่างมากตั้งแต่ตั้งจนจบ เพียงแต่ตอนคุยถึงพ่อที่เสียไป เลยรู้สึกโศกเศร้าอยู่บ้าง
แต่ตอนที่เย่เฉินพูดออกมาว่าเมิ่งฉางเชิงคำนี้ หลินหว่านเอ๋อร์ตกตะลึงในทันที !
เธอพูดอุทานตามจิตใต้สำนึก : “ทำไมคุณชายรู้ชื่อของซือกง ? ! ตั้งแต่เขาตายไปจนถึงวันนี้ก็ร่วมสามร้อยกว่าปีแล้ว และในเวลาพันปีที่เขามีชีวิตอยู่ ก็แทบจะเก็บตัวฝึกฝนอยู่ในภูเขาแสนลี้มาโดยตลอด ต่อให้ตอนที่เขามีชีวิตอยู่ ก็มีคนรู้น้อยมากอยู่ดี……”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะอุทาน : “เมิ่งเชิง ชื่อว่าฉางหมิง เกิดในต้าถังหลินเต๋อปีที่หนึ่ง คนฉางอาน หลังจากฝึกฝน ฆราวาสที่ชื่อว่าฉางหมิง ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมิ่งฉางเชิง……”
หลินหว่านเอ๋อร์ก็ยิ่งตกตะลึง : “คุณชาย ทำไมคุณถึงรู้เรื่องราวของซือกง ได้อย่างถ่องแท้ขนาดเช่นนี้ ? ! คุณพ่อเคยบอกว่า ซือกงแทบจะหมกมุ่นอยู่กับการค้นหากฎเกณฑ์อยู่ตลอดทั้งชีวิต ชาวโลกแทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย อีกทั้งเขาเป็นเซียนเกือบสี่ร้อยปีแล้ว คุณชายได้ยินเรื่องพวกนี้จากที่ไหนเหรอคะ ?”
เย่เฉินพูดอุทาน : “ผู้อาวุโสแซ่เมิ่งท่านนี้ เก็บตัวฝึกฝนที่ฉู่หนานมาโดยตลอด เมื่อตอนที่เขาอายุห้าร้อยปี ด้วยโอกาสประจวบเหมาะ เขาได้ช่วยบรรพบุรุษของตระกูลเจียงที่ฉู่หนาน เนื่องจากบรรพบุรุษตระกูลเจียงมีกำไลเถากระดูกวิหคสองชิ้น ดังนั้นเขาเลยเอากำไลหนึ่งชิ้นทิ้งไว้ที่ข้างกายบรรพอาจารย์ตระกูลเจียงไว้เป็นเงื่อนไข ”
“ต่อมา ตอนที่เขาอายุใกล้จะหนึ่งร้อยหกสิบปี ได้ขอลาบรรพบุรุษตระกูลเจียงออกไปตามหาโอกาสข้างนอก คิดดูเป็นเพราะใกล้ถึงขีดจำกัดอายุขัยแล้ว จำเป็นต้องหาวิธียืดอายุให้ตัวเอง”
“หลายสิบปีต่อมา เขาหาวิธียืดอายุเจอแล้วจริง ๆ ประสานกับข้อมูลที่คุณหลินรู้ในตอนนี้ ผู้อาวุโสเมิ่ง เมิ่งฉางเชิงผู้นี้ น่าจะกลั่นยาจงเจริญออกมาได้ ในช่วงเวลานั้น”
“การกลั่นยาจงเจริญ อายุขัยเพิ่มถึงห้าร้อยปี เขาจึงกลับไปฉู่หนาน ต้องการทำตามสัญญาที่รับปากกับบรรพบุรุษตระกูลเจียงเอาไว้ในตอนนั้น กลับนึกไม่ถึงว่า ตอนที่เขากลับไปถึงฉู่หนาน บรรพบุรุษตระกูลเจียงเพิ่งเสียไปได้สามวันเอง……”
ในตอนนี้เย่เฉินพูดอีกว่า : “ดูท่าตอนนี้ บรรพอาจารย์เมิ่งได้กลั่นยาจงเจริญออกมาโดยไม่ต้องสงสัยเลย แต่อาศัยเพียงยาจงเจริญ ก็ทำได้เพียงทำให้เขามีชีวิตอยู่จนถึงราชวงศ์ซ่ง แต่คุณบอกว่าเขามีชีวิตอยู่ถึงปี 1663 ต้นราชวงศ์ชิงปลายราชวงศ์หมิง งั้นก็พิสูจน์แล้วว่า ต่อมาเขาได้กลั่นยาวนเวียนไปมาอีก”
พูดถึงตรงนี้ เย่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ : “น่าเสียดายเพียง ผู้อาวุโสที่เก่งกาจขนาดนี้ ท้ายที่สุดกลับยังคงเป็นมือใหม่ที่หยุดอายุขัยพันปี ดูท่าอยากจะต่อต้านสวรรค์เปลี่ยนแปลงโชคชะตา ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น”
หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้าแล้วบอก : “ต้นแม่ชาผูเอ่อร์ก็มีชีวิตอยู่บนโลกเกินหมื่นปีจึงจะก่อให้เกิดเคราะห์สวรรค์ และจากที่คุณพ่อว่ามา แม้ว่าซือกงมีชีวิตอยู่มาหนึ่งพันปีแล้ว แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงการใกล้ถึงวาระสุดท้าย และตายไปอย่างเป็นธรรมชาติโดยไร้โรคภัยไข้เจ็บ คิดว่าสำหรับพระเจ้าแล้ว ต่อให้เขามีชีวิตอยู่พันปี ก็ไม่ถึงความสูงที่ต้องผ่านเคราะห์สวรรค์อยู่ดี”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...