แม้ว่าเย่เฉินจ้องไม้ฟาดสายฟ้าของหลินหว่านเอ๋อร์ตาเป็นมัน แต่รู้สึกเกรงใจที่จะเอ่ยปากขออยู่ชั่วครู่
อย่างไรก็ตาม ของชิ้นนี้เป็นของที่หลินหว่านเอ๋อร์เก็บรักษาไว้สามร้อยกว่าปี มีความหมายพิเศษมากสำหรับเธออย่างแน่นอน
แต่ว่าเย่เฉินรู้อยู่แก่ใจ ตัวเองไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบร้อนเกินไป สถานการณ์ในตอนนี้ ต่อให้หลินหว่านเอ๋อร์มอบไม้ฟาดสายฟ้าให้ตัวเอง ตัวเองก็ไม่มีความสามารถที่จะกลั่นอยู่ดี
ครั้นแล้ว เย่เฉินมองหลินหว่านเอ๋อร์ แล้วถามคำถามหนึ่งที่ตัวเองอยากรู้อยากเห็นมาก ๆ : “คุณหลิน ผมอยากรู้มากกว่า สามร้อยกว่าปีมานี้คุณมีชีวิตอยู่ยังไงเหรอครับ ?”
หลินหว่านเอ๋อร์ยักไหล่แล้วยิ้ม พูดพร้อมกับหัวเราะตัวเอง : “ดิฉันไม่ชำนาญปราณทิพย์ ไม่ได้เป็นคู่ต่อสู้ของอู๋เฟยเยี่ยนเลยสักนิด ดังนั้นสามร้อยกว่าปีมานี้ของฉัน เลยทำได้แต่หนีตายไปทั่วมาตลอด”
ว่าแล้ว หลินหว่านเอ๋อร์ก็พูดอีก : “แต่ว่าสองร้อยปีก่อนยังนับว่าดี ยังไงตอนนั้นการจราจรไม่สะดวก และการติดต่อสื่อสารไม่ได้พัฒนา อู๋เฟยเยี่ยนอยากจับฉันก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น”
พูดถึงตรงนี้ หลินหว่านเอ๋อร์เอียงหัว หวนนึกไปด้วย และเล่าไปด้วย : “หลังจากจัดการงานศพของพ่อเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากดิฉันอายุน้อย ไม่มีความสามารถอะไร ทำได้แต่ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ไกลลับตาคนที่เตียนหนานไป ๆ มา ๆ อยู่หลายปี เนื่องจากดิฉันหน้าเด็กมาก เพื่อไม่ให้ถูกสงสัย ดิฉันใช้ชีวิตอยู่ที่สถานที่หนึ่งห้าปีแปดปีโดยทั่วไป ก็จะเปลี่ยนไปอีกที่หนึ่ง”
“และดิฉันชอบชาผูเอ่อร์ ในตอนนั้น”
“ตอนนั้น ดิฉันไป ๆ มา ๆ อยู่หลายที่ อาศัยโอกาสนี้ไปเรียนรู้และทดสอบวิธีกลั่นชาผูเอ่อร์ทั่วทุกที่ ต่อมาใช้ชีวิตอยู่ที่ริมสระสวรรค์ของเตียนหนานอยู่หลายปี สอนชาวไร่ชาท้องที่ทำกรรมวิธีชาผูเอ่อร์ให้ดียิ่งขึ้น”
“เพียงแต่ ดิฉันปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของอเมกาเหนือในตอนนั้นไม่ค่อยได้ อเมกาเหนือในตอนนั้นไม่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย คนผิวขาวที่นั่น ยุ่งอยู่กับการเคลื่อนไหวล้อมรอบ และใช้คนผิวดำเยี่ยงทาสอยู่ทุกวัน และสังหารอินเดียนแดงที่นั่นอย่างบ้าคลั่ง ทุกที่ที่ไปถึง ล้วนเป็นกลิ่นคาวเลือดและความยุ่งเหยิง ดิฉันจึงนั่งเรือสินค้าไปประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่สงครามหนานเป่ยได้เริ่มขึ้น”
“ประเทศญี่ปุ่นในตอนนั้นได้เริ่มฟื้นฟูพระราชอำนาจสมัยเมจิแล้ว อยู่ในช่วงเวลาที่วัฒนธรรมทางตะวันตกและตะวันออกโจมตีอย่างรวดเร็ว และผสมผสานอย่างว่องไว ดิฉันอยากดูว่าประเทศญี่ปุ่นจะพัฒนาไปไหนทิศทางใด เลยอยู่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลานานหน่อย”
“หลังจากสงครามจีน–ญี่ปุ่นเริ่มเปิดฉาก ดิฉันรู้สึกว่าราชวงศ์ชิงโง่เขลาเบาปัญญา บวกกับหลายปีมานี้ ได้เห็นว่ายุโรปพัฒนาไปไวมากหลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม รวมทั้งประเทศญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงไปไวมากหลังจากการฟื้นฟูพระราชอำนาจสมัยเมจิ เลยอยากกลับหัวเซี่ยมาก เพื่อไปทุ่มเทความสามารถให้หัวเซี่ย ตอนนั้นได้พบกับคุณซุนที่วางแผนและก่อตั้งแก๊งซิ่งหัวที่เกาะฮ่องกางพอดิบพอดี ดิฉันจึงจากประเทศญี่ปุ่นไปเกาะฮ่องกาง อยากจะเข้าร่วมแก๊งซิ่งหัวเพื่อทุ่มเทความสามารถให้เท่าที่จะเป็นไปได้”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...