หลินหว่านเอ๋อร์หัวเราะพรวดออกมา: “อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด กลัวไปมีประโยชน์อะไร”
พูดจบ เธอก็ดึงความคิดกลับมาที่ภาพวาดภาพนั้นที่อยู่ตรงหน้าของเธอ ทันใดนั้นก็เข้าใจถึงแผนการของเย่เฉิน
ดังนั้นเธอจึงเบิกตาโตทันที มองไปทางเย่เฉินด้วยความเบิกบานใจ: “คุณชายหรือว่า......หรือว่าอยากจะให้ซือกงร้องนี้ออกมาแทนคุณชาย?”
หยุนหรูเกอที่อยู่ด้านข้างได้ฟังก็ประหลาดใจ ยังไม่เข้าใจจุดสำคัญที่อยู่ในนั้น
แต่เมื่อเย่เฉินเห็นว่าหลินหว่านเอ๋อร์เฉลียวฉลาดปราดเปรียวอย่างที่คิดไว้ แค่ข้อเดียวก็เข้าใจ อดไม่ได้ที่จะกล่าวอย่างมีความสุข: “คุณหลินเดาได้ไม่ผิด! ผมคิดอยากจะลำบากบรรพอาจารย์เมิ่งร้องออกมาแทนผม!”
หยุนหรูเกอรู้สึกว่าสมองของเธอตามพวกเขาสองคนไม่ทันแล้ว เอ่ยถามด้วยความร้อนใจเล็กน้อย: “คุณเย่ สิ่งที่คุณกับคุณหลินพูดแท้ที่จริงแล้วหมายความว่าอะไรกันแน่? ไม่ใช่ว่าบรรพอาจารย์เมิ่งได้ถึงแก่กรรมไปหลายร้อยปีแล้ว? จะให้เขาร้องงิ้วแทนคุณได้อย่างไร?”
เย่เฉินจ้องมองเมิ่งฉางเชิงที่อยู่ในภาพ ถามหยุนหรูเกอ: “คุณหยุน จากมุมมองของคุณ ทำไมอู๋เฟยเยี่ยนต้องมอบหมายให้ผู้อาวุโสทั้งสามมาที่เมืองจินหลิง?”
หยุนหรูเกอครุ่นคิด กล่าวตอบ: “ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งระเบิดตัวเอง ฉันเป็นตายร้ายดีก็ไม่แน่ชัด คนของตระกูลอานไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย ข้อหนึ่งอู๋เฟยเยี่ยนไม่มั่นใจว่าศัตรูคือใคร ข้อสองไม่มั่นใจว่าศัพตรูมีจำนวนมากน้อยเท่าไหร่ ข้อสามไม่มั่นใจว่ากำลังศัตรูเป็นอย่างไร ข้อสี่ไม่มั่นใจว่าศัตรูตายแล้วหรือยัง พวกนี้ล้วนเป็นสิ่งพื้นฐานที่เธออยากจะทำให้ชัดเจน นอกจากนี้แล้ว เธอจะยังต้องคิดที่จะลงมือกับคนตระกูลอานต่อไป”
เย่เฉินพยักหน้า พูด: “ที่คุณหยุนไม่ผิด เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่อู๋เฟยเยี่ยนค่อนข้างรีบด่วนในตอนนี้”
พูดไป เย่เฉินชี้ไปที่บรรพอาจารย์เมิ่งที่อยู่ในภาพ เอ่ยปากถามเธอ: “คุณหยุนคิดว่า ในโลกนี้คนที่สามารถจำว่าคนในรูปภาพนี้คือบรรพอาจารย์เมิ่ง มีกี่คน?”
หลินหว่านเอ๋อร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “แน่นอนว่าเธอต้องอยากรู้ เกรงว่ายังคงคิดอย่างอึดอัดใจ แต่ในทางกลับกัน เธอยิ่งอยากทำให้เรื่องพวกนี้ชัดเจนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่กล้ามาที่เมืองจินหลิงมากเท่านั้น!”
พูดจบ หลินหว่านเอ๋อร์มองไปทางเย่เฉิน กล่าวด้วยความชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง: “คุณชายมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดอย่างที่คิดไว้จริงๆ ทันทีที่ออกนี้ ดิฉันคิดไม่เท่าทันจริงๆ ทันทีที่ภาพวาดนี้ออกวางขายที่เมืองจินหลิง เกรงว่าจะทำให้อู๋เฟยเยี่ยนตกใจจนช็อก!”
เย่เฉินพยักหน้า หัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ กล่าว: “บังเอิญจริงๆเลย เมืองจินหลิงกำลังจัดงานนิทรรศการภาพวาดงานหนึ่งอยู่พอดี ตอนนี้กำลังรวบรวมผลงานศิลปะการคัดลายมือและการวาดภาพ อันยอดเยี่ยมจากทั่วประเทศ สมาคมการคัดลายมือและการวาดภาพและสถานที่ ช่วงนี้เพื่องานนิทรรศการภาพวาดอันนี้ ได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อใหญ่ต่างๆมาตลอด”
“ภาพวาดนี้ถึงแม้ไม่ได้ทิ้งชื่อใดๆของศิลปินเอาไว้ แต่เทคนิคการวาดภาพภาพนี้โดดเด่น ท่วงทำนองและความคิดทางด้านศิลปะก็ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว จากมุมมองทางด้านศิลปะ ไม่แพ้จิตรกรชื่อดังในสมัยประวัติศาสตร์จีนเหล่านั้นแน่นอน ดังนั้นขอเพียงแค่ภาพนี้ถูกนำออกมา จะต้องสร้างความตกตะลึงในแวดวงการคัดลายมือและการวาดภาพไม่น้อยอย่างแน่นอน”
“ไม่ใช่ว่าอู๋เฟยเยี่ยนกำลังให้ความสนใจเมืองจินหลิงอย่างใกล้ชิดหรอกเหรอ? ขอเพียงแค่ภาพวาดนี้ถูกปล่อยออกมา เธอก็จะต้องให้ความสนใจอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นภายในใจของเธอจะต้องเกิดคำถามขึ้นมากมายอย่างแน่นอน!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...