“เธอจะต้องอย่างรู้แน่ ๆ ว่าแท้จริงแล้วใครเป็นคนนำรูปวาดอาจารย์ของเธอออกมาใช่ไหม?”
“และเธอก็ยิ่งอยากรู้เข้าไปอีกว่า คนที่นำภาพวาดออกมา มีความสัมพันธ์อะไรกับอาจารย์ของเธอ? ใช่ลูกศิษย์ที่อาจารย์ของเธอรับไว้ก่อนหน้านี้หรือเปล่า? ถ้าหากใช่ อีกฝ่ายก็น่าจะมีอายุมากกว่าห้าร้อยปีแล้ว และได้รับยาวงเวียนพันจักรไว้ในครอบครอง เกรงว่าความแข็งแกร่งคงมากกว่าเธอไม่น้อย!”
“เธอจะต้องอยากรู้ ว่าเพราะอะไรกองกำลังในบังคับบัญชา ท่านเอิร์ลทั้งสองของเธอ คนหนึ่งเสียชีวิตในเมืองจินหลิง อีกคนหนึ่งหายไปอย่างไร้ร่องรอย พอวันรุ่งขึ้นภาพวาดอาจารย์ของเธอก็ปรากฏออกมาในเมืองจินหลิงอย่างเปิดเผย?”
“และเธอก็น่าจะอยากเข้าใจเป็นอย่างมากว่าคนที่นำรูปภาพนั้นออกมา กับคนที่บีบให้สวี่ฉางชิงต้องระเบิดตัวเอง เป็นคนเดียวกันหรือไม่? หากเป็นคนเดียวกัน ทำไมถึงไม่ตายไปพร้อมกับตอนที่สวี่ฉางชิงระเบิดตัวเอง?”
“และเธอจะต้องอยากเข้าว่าทำไมอีกฝ่ายถึงรอดชีวิตจากการระเบิดตัวเองของสวี่ฉางชิงมาได้ และทำไมจะต้องเผยแพร่รูปภาพของอาจารย์ต่อสาธารณะทันทีหลังจากนั้น”
“นอกจากนี้ เกรงว่าเธอคงอยากจะทำให้เรื่องราวทุกอย่างชัดเจน ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาอย่างไรกันแน่? เป็นการแจ้งเตือนหรือเปล่า ต้องการที่จะใช้สิ่งเหล่านี้ในการบอกเธอว่า อีกฝ่ายรับรู้พลังที่แท้จริงของเธอตั้งนานแล้ว รู้ว่าเธอเป็นศิษย์ของเมิ่งฉางเชิง?!”
“เมื่อเธอตระหนักถึงจุดนี้ เธอก็จะรู้ได้ทันทีว่า อีกฝ่ายรับรู้ถึงภูมิหลังของเธออย่างหมดจดแล้ว!”
“เมื่อถึงเวลานั้น ผู้หญิงที่ชอบใช้เครื่องเปลี่ยนเสียงตอนคุยโทรศัพท์คนนั้นก็คงจะรู้สึกตื่นตระหนกราวกับมดแตกรัง ขณะเดียวกันก็คงรู้สึกทรมานอย่างมาก และไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรต่อไปดี”
“และนี่ก็ไม่ใช่ปัญหาที่รังควานใจของเธอมากที่สุด! ปัญหาที่รังควานใจเธอมากที่สุดจะต้องเป็นเรื่องที่คนผู้นี้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ ทำแบบนี้ก็เพื่อต้องการดึงดูดให้เธอมายังเมืองจินหลิงหรือเปล่า? หรือว่าเพื่อหลอกล่อให้เธอพาคนจำนวนมากมาตายที่เมืองจินหลิง?”
ดังนั้นเธอจึงยิ้มและพูดออกไปว่า “คุณชาย ถ้าวันไหนที่อู๋เฟยเยี่ยนรู้ว่าคุณชายวางแผนกับเธอเช่นนี้ เกรงว่าเธอคงโกรธจนอายุสั้นลงเป็นยี่สิบปี......”
ระหว่างที่พูด หลินหว่านเอ๋อร์ก็ยิ้มออกมา “ในเมื่อคุณชายเป็นคนดีถึงขนาดนี้ เช่นนั้นทำไมถึงไม่เขียนอักษรลงบนภาพสักสองสามคำ ไม่แน่ว่าอาจจะได้ผลดีกว่าเดิม”
เย่เฉินยิ้มและถามออกมา “เขียนว่าอะไร?”
หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มออกมา “ก็เขียนเกี่ยวกับคำแนะนำประวัติของบรรพอาจารย์เมิ่งโดยสังเขป! เมิ่งเชิง ชื่อเต็มคือฉางหมิง เป็นคนฉางอาน เกิดในปีแรกของราชวงศ์ถังหลินเต๋อ หลังจากนั้นเพื่ออายุที่ยืนยาว จึงเปลี่ยนชื่อเป็นเมิ่งฉางเชิง......”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
ตอนนี้กุต้องมาอ่านละครลิงโง่ๆ ภายในตระกูลเซียวใช่ไหม กุต้องเลื่อนให้พ้นๆอ่ะ...
ขัดใจกับไแคนครอบครัว เซียวชูหรันชิบหาย ไม่ว่าใครก้โง่จนใสซื่อ ไอฉางควรก็ปิดแหก ไอหม่าหลันก็น่าเงิน สุดท้ายครอบครัวนี้แม่งไม่สมประกอบทุกตัว...
แทนทีจะแยกออกไปอยู่คนเดียว ถ้าก้เป้นฉางควนอยากอยู่กับรักแรกก้ต้องลงทุน แต่นี่มึงยังไม่กล้ากับหม่ากันเลย กลัวจนขึ้นมาสมอง แล้วหวังอยากจะอยุ่กับหานเหมยชิง อยากจะระลึกความหลัง เห้นแก่ตัวเกินไปไอห่า กลัวหม่าหลันแค่ตาย ปอดแหกแบบนี้มึงก้อยุ่กับอีหม่าหลันไปเถอะ สมน้ำหน้าแบ่งทำเพื่อรักแรกมึงยังไม่กล้าทำเลย แล้วหวังจะอยุ่กับเหมยชิง...
ไอเซียวฉาวควนแม่งมาหวงก้างจัด เฮ่อกับหารเหม่ยชิงโครตเหมาะกันอยากให้2คนนี้คบกันมาก ไอเซียวฉางควนกับอีแค่หม่าหลันมคงยังไม่กล้า แล้วนยังจะคิดอยุ่กับหานเหม่อยชิง มึงปอดแหกแบบนี้มึงก้ไม่มีวันสมหวังหรอก ไอโง่...
ผญ.เรื่องนี้แม่งหลงตัวเองทั้ง มีแค่ตงเสวี่นร ชูกรัน กูซิวอี๋ นอกนั้นหลงตัวเองชิบหาย...
นิยายเรื่องนี้สร้างเป็นละครสั้นหรือยัง...
อัพเดตตอนใหม่ทีครับ...
อ่านมาจะ4พันตอนละพระนางยังไม่ำด้กันเลย นิสัยพระเอกก็สุดๆยังดีเนื้อเรื่องสนุก...
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...