เมื่อเห็นท่าทางที่มั่นใจของเย่เฉิน หลินหว่านเอ๋อร์ก็ยิ่งรู้สึกโล่งใจ
หลังจากนั้นเธอก็มองเวลา พูดออกมาว่า “คุณชาย ตอนนี้ใกล้จะแปดโมงแล้ว ไม่รู้ว่าคุณชายจะกลับบ้านตอนไหน?”
เย่เฉินพูดออกมา “ปกติแล้วพ่อตาของผมจะเดินทางไปยังสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาดในเวลาเก้าโมง ที่นี่อยู่ใกล้กับบ้านผมมาก คุณหลินไม่จำเป็นต้องไปส่งผม สำหรับเมืองนี้ เฮลิคอปเตอร์มันเสียงดังเกินไป ผมเดินทางกลับด้วยตัวเองได้”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดออกมา “คุณชาย จะให้คุณกลับไปคนเดียวได้ยังไง ให้ฉันขับรถไปส่งคุณจะดีกว่า”
เย่เฉินรีบตอบกลับมาว่า “ไม่เป็นไรจริง ๆ ผมกลับเองได้”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดออกมาอย่างเงียบสงบ “หากคุณชายกลับไปแบบนี้ ตอนเดินผ่านลานด้านล่าง ถูกคนรับใช้เห็นว่าคุณชายเดินออกไปจากบ้านของฉันในยามเช้าตรู่ แบบนั้นพวกเขาจะมองฉันอย่างไร”
เย่เฉินถามออกมาอย่างเขินอาย “เช่นนั้นคุณหลินคิดว่าทำอย่างไรถึงจะเหมาะสม?”
หลินหว่านเอ๋อร์ตอบกลับไปว่า “คุณชายรอสักครู่ เดี๋ยวฉันจะเป็นคนจัดการให้เอง”
เย่เฉินพยักหน้าพร้อมพูดว่า “แบบนั้นก็คงต้องรบกวนให้คุณหลินเป็นคนจัดการแล้ว”
หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขพร้อมกับรีบพูดออกมาว่า “คุณชายรอสักครู่ เดี๋ยวฉันจะมาแจ้งให้ทราบ”
พูดจบเธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดโทรออกและพูดออกมาว่า “เหล่าจาง นายมาหาฉันหน่อย”
เมื่อเธอวางสายโทรศัพท์ลง เย่เฉินก็ถามออกไปด้วยความสงสัย “เหล่าจางที่คุณโทรหาก็คือคนที่คุณเรียกเขาว่าปู่ในตอนที่อยู่ยุโรปเหนือ?”
ใบหน้าของหลินหว่านเอ๋อร์กลายเป็นสีแดงเล็กน้อย พูดออกมาด้วยความเขินอาย “คุณชายโปรดยกโทษให้ฉันด้วย ในตอนนั้นที่ฉันเรียกเหล่าจางว่าคุณปู่ นั่นก็เพราะหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดของคุณชาย......”
เย่เฉินโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นถามออกมาด้วยความสงสัย “ที่จริงเขาเป็นเด็กกำพร้าที่เป็นลูกบุญธรรมของคุณใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ” หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า “เมื่อคืนวานฉันพูดกับคุณชาย เหล่าจาง และชายชราอีกสองคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นเด็กกำพร้าที่ฉันรับเลี้ยงไว้ตั้งแต่หลายปีก่อนหน้านี้”
เมื่อเห็นชายชราโค้งคำนับให้กับตนเอง เย่เฉินจึงรีบลุกขึ้นและพูดว่า “คุณตา คุณไม่ต้องเกรงใจถึงขนาดนั้น มันก็แค่ความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่จำเป็นต้องคิดมากเกี่ยวกับมัน!”
ในตอนนั้น หลินหว่านเอ๋อร์ก็เอ่ยปากออกมาทันที “เหล่าจางเป็นพ่อบ้านที่อยู่ข้างกายของฉันมาโดยตลอด คุณชายไม่จำเป็นต้องเกรงใจ ทำเหมือนกับว่าเขาเป็นลูกน้องของตัวเองได้เลย”
ได้ยินหลินหว่านเอ๋อร์บอกให้เย่เฉินมองตนเองเป็นลูกน้องคนหนึ่ง เหล่าจางไม่รู้สึกกังวลหรือเศร้าใจเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขากลับถามออกมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้น “คุณหนู......ท่าน......ท่านบอกเรื่องของท่านกับคุณเย่ไปหมดแล้วเหรอครับ?”
เมื่อได้ยินคำถามของเหล่าจาง หลินหว่านเอ๋อร์ก็นึกถึงเรื่องเมื่อคืนวานขึ้นมาทันใด ใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงด้วยความเขินอาย พูดออกมาอย่างไม่ค่อยเป็นธรรมชาติว่า “ฉันได้เปิดใจพูดคุยกับคุณเย่อย่างซื่อสัตย์ เรื่องราวเมื่อสามร้อยปีก่อนหน้านี้ ฉันเองก็เล่าให้คุณเย่ฟังหมดแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณเย่ พวกนายเองก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรอีกต่อไปแล้ว เข้าใจแล้วใช่ไหม?
เหล่าจางพยักหน้าด้วยความตื่นเต้นที่ไม่อาจเก็บเอาไว้ได้ “คุณหนูวางใจ ผมเข้าใจแล้ว! ผมเข้าใจแล้ว!”
พูดจบเขาก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองเย่เฉิน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “คุณเย่ ผมมีบางสิ่งบางอย่างที่จะพูดออกมา มันอาจจะดูกล้ามากไปหน่อย คุณคือคนนอกเพียงคนเดียวในตลอดระยะเวลาสามร้อยปีที่ผ่านมาที่คุณหนูยอมเปิดใจให้อย่างแท้จริง......”
พูดจบ เหล่าจางก็รู้สึกว่าคำพูดของเขานั้นไม่ค่อยถูกต้อง เขาจึงรีบอธิบายออกไปอีกว่า “ผมหมายถึง คุณเป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่คุณหนูยอมเปิดใจให้อย่างแท้จริงในตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ไม่เหมือนกับพวกผม พวกผมทุกคนล้วนแต่ถูกคุณหนูเก็บมาเลี้ยง เป็นเด็กรับใช้ข้างกายของคุณหนูมาตั้งแต่เด็ก คุณหนูจึงยอมรับพวกผมว่าผ่านการทดสอบโดยธรรมชาติ จากนั้นถึงบอกความลับให้กับพวกผมทีละน้อย......”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...