เมื่อคิดถึงตรงนี้ อู๋เทียนหลินก็ก้มหน้าครุ่นคิดอยู่นาน จากนั้นมองอู๋เฟยเยี่ยน แล้วถาม : “ผู้มีพระคุณครับ กระผมคิดว่า ยังมีความเป็นไปได้อีกแบบหนึ่งอยู่หรือเปล่า ?”
อู๋เฟยเยี่ยนเอ่ยปากบอก : “นายว่ามา !”
อู๋เทียนหลินรีบพูด : “ผู้มีพระคุณครับ กระผมคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับอาจารย์คุณจริงหรอกครับ และมีความเป็นไปได้ว่าเขาแค่บังเอิญได้ภาพนั้น และบังเอิญรู้ข้อมูลตัวตนของคุณจากที่ท่านเอิร์ลฉางเซิ่งหรือไม่ก็หลินหว่านเอ๋อร์ รู้ว่าคุณเป็นลูกศิษย์ของเมิ่งฉางเชิง เลยจงใจใช้ภาพนี้มาขู่คุณ ! คุณคิดดู หากว่าอีกฝ่ายมีกำลังเหนือเมฆจริง ทำไมเขาต้องเอาภาพนี้ออกมา ? มิสู้นั่งรอคอยให้ลาภลอยมาหาที่เมืองจินหลิงเลยจะแน่นอนกว่า”
อู๋เฟยเยี่ยนถามพลางขมวดคิ้ว : “ความหมายของนาย อีกฝ่ายทำแบบนี้ เป็นเพียงการสร้างสถานการณ์ขู่ขวัญตบตา กำลังใช้ “กลยุทธ์เมืองว่าง” กับฉันอยู่ ?”
“ใช่ครับ !” อู๋เทียนหลินพูดโดยไม่ต้องคิดเลย : “กระผมคิดว่า นี่ไม่ใช่ว่าไม่ได้เป็นความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง”
อู๋เฟยเยี่ยนพยักหน้า แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา : “เรื่องนี้ที่นายว่ามา ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยสงสัย แต่ว่าฉันจนปัญญาที่จะยืนยันข้อนี้ หากว่าอยากยืนยันจริง ก็ให้ผู้อาวุโสทั้งสามไป แต่หากว่าผู้อาวุโสทั้งสามประสบเหตุร้ายที่เมืองจินหลิงเข้า ถึงเวลานั้นองค์กรพั่วชิงไม่เพียงแต่เสียหายอย่างยับเยิน ถึงขนาดที่ยังมีความเป็นไปได้ว่ายั่วอีกฝ่ายให้โมโหเข้า”
อู๋เทียนหลินลองคิดดู แล้วเอ่ยปากถาม : “ผู้มีพระคุณ ส่งผู้อาวุโสท่านหนึ่งไปสืบสภาพความเป็นจริงภายในที่เมืองจินหลิงก่อนได้หรือเปล่าครับ ?”
“ท่านหนึ่ง ?” อู๋เฟยเยี่ยนพูดพร้อมกับส่ายหน้า : ‘แม้ว่าฉันไม่รู้ว่าคนนั้นมีกำลังแข็งแกร่งแค่ไหน แต่การระเบิดตัวเองของท่านเอิร์ลฉางเซิ่งก็ต่อเมื่อไม่สามารถฆ่าเขาได้ ก็พิสูจน์กำลังของเขาแล้วว่า อยู่เหนือใครคนใดคนหนึ่งของผู้อาวุโสทั้งสามอย่างแน่นอน ส่งผู้อาวุโสท่านหนึ่งไป ไม่มีความแตกต่างอะไรกับการส่งไปตาย หากว่าอีกฝ่ายกำลังแข็งแกร่งกว่าฉัน งั้นส่งไปสามคน ผลลัพธ์ก็เหมือนกันอยู่ดี”
ว่าแล้ว อู๋เฟยเยี่ยนก็พูดอีก : “อีกอย่างนายเคยคิดบ้างไหม อีกฝ่ายอาจจะไม่ได้ใช้ภาพเหมือนของอาจารย์มาขู่ฉัน อาจจะใช้ภาพเหมือนของอาจารย์ฉันมายั่วให้ฉันโมโห หากว่านี่ไม่ได้เป็นกลยุทธ์เมืองว่าง แต่เป็นวิธีการยั่วยุให้ลงมือ งั้นเป้าหมายสุดท้ายของเขา เกรงว่าอยากจะล่อฉันออกมา !”
อู๋เทียนหลินพูดด้วยสีหน้าตกตะลึง : “คุณพูดได้ถูกต้องครับ……กลยุทธ์เมืองว่างกับวิธีการยั่วยุให้ลงมือ ผิวเผินดูแทบจะเหมือนกันเปี๊ยบเลย แต่ผลลัพธ์ที่อาจจะก่อให้เกิดนั้นกลับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เกี่ยวข้องความเป็นความตาย อยู่ทั่วทุกหนแห่งเลย……อีกฝ่ายได้ประมือกับเราอย่างลับ ๆ อยู่หลายครั้งแล้ว ได้เปรียบอยู่ทุกครั้ง ตอนนี้มีความเป็นไปได้มากที่อยากบีบให้คุณปรากฏตัว……”
อู๋เฟยเยี่ยนพยักหน้า แล้วเอ่ยปากบอก : “แถมคนนี้มีจุดหนึ่งที่เหมือนกับฉันมาก”
อู๋เทียนหลินรีบถาม : “ผู้มีพระคุณ คุณพูดถึงจุดไหนครับ ?”
อู๋เฟยเยี่ยนส่งเสียงอืม แล้วเอ่ยปากบอก : “แจ้งให้ท่านเอิร์ลจงหย่งทราบ ไม่ต้องสืบแบล็ควอเตอร์อีกต่อไปแล้ว นอกเหนือจากนี้แจ้งหน่วยบัญชาการกองทัพทั้งห้า นับจากนี้ไป หยุดการปฏิบัติการนอกประเทศทั้งหมด ทุกระดับชั้นขององค์กร ให้นิ่งเงียบเป็นเวลาสามเดือน !”
อู๋เทียนหลินพูดโดยไม่ต้องคิดเลย : “ได้ครับผู้มีพระคุณ กระผมจะไปแจ้งให้ทราบเดี๋ยวนี้ !”
อู๋เฟยเยี่ยนพูดอีกว่า : “จริงสิ นายแจ้งให้ทีมการบินเตรียมตัวให้เรียบร้อย พรุ่งนี้ฉันจะไปเมียนมาเที่ยวหนึ่ง”
อู๋เทียนหลินพูดอุทานด้วยความตกใจ : “ผู้มีพระคุณครับ กระผมขอบังอาจ เวลาสำคัญขนาดนี้ ทำไมคุณต้องออกจากสถานที่ตั้งกองกำลังทหารด้วยครับ ?”
อู๋เฟยเยี่ยนถลึงตามองเขาแวบหนึ่งโดยใช้สายตาที่ฆ่าคนแบบนั้น แล้วดุด้วยน้ำเสียงเย็นชา : “ไอ้สารเลว ! นี่เป็นเรื่องที่นายควรถามงั้นเหรอ ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...