คำพูดของเย่เฉิน ทำให้คิ้วของหลินหว่านเอ๋อร์แข็งทื่อไป
เหมือนกับว่าเธอเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่กลับจงใจไม่ถามต่ออีก แต่ก็โยนเรื่องนี้ไปข้างหลัง กล่าวกับเย่เฉินพร้อมรอยยิ้ม: “ในเมื่อคุณชายตัดสินใจไม่ได้ เช่นนั้นข้าน้อยก็ตัดสินใจเรื่องนี้ก็แล้วกัน”
พูดจบ เธอก็เอียงหัวครุ่นคิดครู่หนึ่ง เอ่ยปากกล่าว: “ถ้าหากในสมัยโบราณ ข้าน้อยจะต้องเรียกคุณชายว่าสามี(สมัยโบราณ) แต่ว่าตอนนี้ไม่มีคนเรียกแบบนี้แล้ว อีกทั้งคุณชายกับข้าน้อยแต่งตัวเป็นคู่รักไม่ใช่สามีภรรยา ดังนั้นข้าน้อยจะเรียกคุณชายว่าที่รัก คุณชายเรียกข้าน้อยว่าที่รักเป็นอย่างไร?”
เมื่อพูดจบประโยคนี้ หลินหว่านเอ๋อร์ก็หายใจถี่หอบ ใบหน้าสวยแดงระเรื่อ จ้องมองเย่เฉินด้วยท่าทีกระวนกระวาย เกรงว่าเขาจะปฏิเสธหรือไม่พอใจ
เย่เฉินกลับไม่ได้รู้สึกอะไร แต่งตัวเป็นคู่รักนี่นา แม้กระทั่งใส่ชุดคู่รัก บอกว่าสะอิดสะเอียนก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าหากทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ฉันคู่รัก ออกจากบ้านเรียกชื่อตรงๆเหมือนว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
ดังนั้นเขาก็พยักหน้ากล่าวอย่างไม่มีความเห็น: “ที่รักใช่ไหม? ได้ ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้ล่ะ”
พูดไป เย่เฉินกำชับเธอ: “ถ้าอย่างนั้นคุณก็จะต้องจดเอาไว้ให้ได้ อย่าพูดคำว่าข้าน้อยสองคำนี้ต่อหน้าคนอื่น ตอนนี้พวกเราอยู่ในยุคสมัยใหม่ ไม่ใช้คำเรียกแบบเก่าที่ล้าสมัยแล้ว ถ้าหากคุณอยากพูดแบบนี้ตอนอยู่ข้างนอก คนที่ไม่รู้จะคิดเอาว่าผมมีความชอบพิเศษอะไร......”
หลินหว่านเอ๋อร์แลบลิ้น กล่าวอย่างไม่พอใจ: “คุณชาย แต่ว่าข้าน้อยมีประสบการณ์ด้วยตนเองตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงสมัยปัจจุบัน คุณชายพูดเรื่องพวกนี้ ในใจของข้าน้อยเข้าใจดี อีกอย่าง ข้าน้อยไม่เคยพูดแบบนี้มาเกินร้อยปีแล้ว พูดแบบนี้แค่ต่อหน้าคุณชายเท่านั้น ออกจากเรือนนี้ไป ข้าน้อยจะปรับเปลี่ยน”
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี”เย่เฉินพยักหน้า จากนั้นก็มองเวลา กล่าว: “เวลาไม่เช้าแล้ว พวกเราออกเดินทางกันเถอะ”
“ค่ะ”หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า กล่าวกับเย่เฉิน: “คุณชาย ออกจากประตูบานนี้ไป ข้าน้อยก็จะเรียกคุณชายว่าที่รักแล้วนะ?”
เย่เฉินพยักหน้า กล่าวอย่างสบายๆ: “ขอเพียงแค่คุณไม่กลัวท่านคนชราทั้งสี่ที่อยู่ด้านล่างหัวเราะเอา ก็เรียกไปเถอะครับ”
หลินหว่านเอ๋อร์กล่าวหน้าแดงทันที: “ผิดแล้วผิดแล้ว ที่ข้าพูดก็คือ หลังจากที่ออกไปจากโฮมสเตย์จื่อจิน......”
เย่เฉินส่ายหัวไปมาอย่างจนปัญญา: “เอาละ รีบไปกันเถอะ พวกเขายังรออยู่ที่ด้านล่าง คาดว่าน่าจะรอบอกลาคุณ”
“ค่ะ”หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า กล่าวด้วยความรู้สึกเสียใจเล็กน้อย: “รบกวนคุณชายรอข้าน้อยที่ด้านนอกประตูสักเดี๋ยว ข้าน้อยขอจุดธูปสักดอกให้ท่านพ่อก็จะมา”
แต่ว่า หลินหว่านเอ๋อร์ในความทรงจำของพวกเขาทั้งสามคน ถึงแม้ว่าจะชอบยิ้มมาก แต่เป็นรอยยิ้มที่ไม่คิดอะไรมาก ขี้เล่นทั้งเผด็จการแบบนั้น คำว่าเหนียมอายสองคำนี้ ไม่เข้ากับหลินหว่านเอ๋อร์มาหลายร้อยปีแล้ว
ตอนนี้ ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ว่า ที่แท้คุณหนูก็มีด้านความเป็นสาวน้อยเช่นนี้ เหนียมอายเช่นนี้เช่นกัน
ชิวอิงซานจ้องมองหลินหว่านเอ๋อร์ที่เดินมาแต่ไกล อดไม่ได้ที่จะกล่าวอย่างทอดถอนใจด้วยรอยยิ้มที่เต็มใบหน้า: “ถ้าหากคุณหนูสวมชุดเจ้าสาวหรือชุดแต่งงานแบบซิ่วเหอ จะต้องสวยยิ่งกว่านี้แน่นอนเลยใช่ไหม?”
ซุนจือต้งโบกไม้โบกมือ กล่าวด้วยท่าทางจริงจัง: “ไม่ได้ คุณหนูมองดูไปอายุยังน้อย เด็กผู้หญิงสมัยนี้แต่งงานกันตอนอายุยี่สิบกว่าสามสิบปี คุณหนูมองดูเหมือนเพิ่งจบชั้นมัธยมปลาย สวมชุดเจ้าสาวเกรงว่าจะดูไม่ค่อยเหมาะสักเท่าไหร่”
คู่ชีวิตที่อยู่ร่วมกันมานานของชิวอิงซานกล่าวเตือนเสียงเบา: “พวกคุณตาแก่สามคนจะนินทาอย่างน้อยก็รอให้คุณหนูกับคุณเย่ไปก่อนค่อยพูดก็ได้ คุณเย่มีความสามารถอย่างมหัศจรรย์ ถ้าหากให้เขาได้ยินเข้าแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะมองพวกคุณยังไงเลยนะ!”
ชิวอิงซานรีบพูดกับอีกสองคน: “เงียบเงียบ รอให้คุณหนูกับคุณเย่ไปก่อนค่อยพูด”
อีกสองคนก็หุบปากอย่างรู้งาน ทั้งสามคนแสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไร ดวงตามองไปรอบๆในห้องโถง

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...