หลังจากที่เย่เฉินกับหลินหว่านเอ๋อร์เดินเข้ามา ทั้งสามคนก็รีบก้าวเข้ามาข้างหน้า พร้อมทั้งคู่ชีวิตที่อยู่ร่วมกันมานานของชิวอิงซาน เอ่ยกล่าวอย่างนอบน้อม: “สวัสดีคุณหนู สวัสดีคุณเย่!”
รอยยิ้มที่เหนียมอายเมื่อครู่นี้ของหลินหว่านเอ๋อร์หายไปอย่างไร้ร่องรอย แทนที่ด้วยความเคร่งขรึมราวกับผู้ปกครอง เอ่ยปากกล่าว:ขจ “ฉันกับคุณชายเย่จะออกเดินทางไปที่เตียนหนาน ที่นี่ก็มอบหมายให้พวกเธอดูแล จำเอาไว้ ห้ามให้ใครก็ตามขึ้นไปข้างบน”
ชิวอิงซานกล่าวโดยไม่ลังเล: “คุณหนูวางใจ ผมจะนำเรื่องทั้งหมดจัดการให้เรียบร้อย!’
หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า จากนั้นก็มองไปทางซุนจือต้ง กล่าวอย่างเรียบเฉย: “เหล่าซุน เมื่อคืนนี้ฉันว่างไม่มีอะไรทำ จึงทำนายดวงชะตาให้นาย ชะตากรรมที่ถูกลิขิตไว้แล้วของนายได้ถูกคุณชายเย่ทำลายแล้ว จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรภายในอีกยี่สิบหรือสามสิบปีข้างหน้า นายสามารถโล่งใจได้แล้ว ถ้าหากเย่นจิงทางด้านนั้นเกิดเรื่อง นายสามารถกลับไปจัดการได้อย่างกล้าหาญและสบายใจ ไม่จำเป็นต้องเปลืองเวลาอยู่ที่นี่”
หลินหว่านเอ๋อร์รู้ดีว่า เส้นทางที่ซุนจือต้งเดิน ไม่เหมือนกับคนอื่นๆ นี่ก็คือโชคชะตาที่เขายากจะมีสิทธิ์ในการเลือกด้วยตนเองโดยสิ้นเชิง ถ้าหากอยู่ข้างนอกนานเกินไป ไม่แน่นอนว่าเย่นจิงอาจจะมีคนออกมาตามเขาโดยเฉพาะ
ซุนจือต้งก็รู้สถานการณ์ของตนเองเช่นกัน กล่าวอย่างทอดถอนใจ: “คุณหนู พูดอย่างไม่ปิดบังคุณทห ชั่วชีวิตนี้ของผม ก็นับว่าทุ่มเทสติปัญญาทั้งหมดจนถึงที่สุดจนกว่าชีวิตจะหาไม่แล้ว ตอนนี้อายุมากแล้ว ก็ไม่อยากจะเป็นทุกข์ใจไปมากกว่านี้แล้ว ผมอยากจะอยู่ที่นี่ไปอีกสักระยะหนึ่ง จะได้นึกย้อนถึงอดีตเมื่อยังเด็กกับพี่น้องทั้งสองคนได้”
หลินหว่านเอ๋อร์ครุ่นคิดครู่หนึ่ง พยักหน้ากล่าว: “อยู่ที่นี่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ เอาตามนี้ก่อนแล้วกัน นายจัดการอย่างเหมาะสมเอาเอง ฉันก็จะได้ไม่ต้องกังวลใจแทนนายแล้ว”
ซุนจือต้งประสานมือคำนับอย่างนอบน้อมกล่าว: “คุณหนูไม่ต้องเป็นห่วงผม ยังไงก็รีบไปทำธุระกับคุณเย่โดยเร็วเถอะครับ!”
หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อย กล่าวกับทั้งสี่คน: “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นฉันกับคุณชายเย่ไปก่อน”
ทั้งสี่คนรีบส่งคนทั้งสองไปที่ลานบ้าน เมื่อเห็นว่าเย่เฉินกับหลินหว่านเอ๋อร์เข้าไปนั่งในรถซ้ายขวาคนละด้าน เห็นพวกเขาขับรถลงเขาไปกับตา นี่ถึงนับว่าวางใจได้แล้ว
ในรถ เย่เฉินจดจ่อกับการขับรถ แต่หลินหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้าง ไม่รู้ทำไมถึงหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง
หางตาเธอมองเย่เฉิน มองนอกหน้าต่าง ลังเลครั้งแล้วครั้งเล่า ถึงถามเขาอย่างเขินอาย: “ที่รักคะ อีกนานขนาดไหนพวกเราจะถึงสนามบิน?’
เย่เฉินตอบอย่างสบายๆ: “ครึ่งชั่วโมง”
หลินหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้จะถามเขาอย่างโกรธเคือง: “คุณชายไม่ใช่ว่าควรเรียกข้าน้อยว่าที่รักหรอกเหรอ?”
เย่เฉินกระแอมเล็กน้อย ถามเธอ: “ที่นี่ไม่มีคนอื่น จะต้องเรียกแบบนี้จริงเหรอ?”
หลินหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างน้อยใจ: “ก่อนหน้านี้ข้าน้อยตกลงกับคุณชายเอาไว้เรียบร้อยแล้ว......”
เย่เฉินนำรถจอดเรียบร้อย ทันทีที่ลงรถ หลินหว่านเอ๋อร์ก็ก้าวมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง เป็นฝ่ายควงแขนของเย่เฉินหญ เห็นได้ชัดว่าค่อนข้างสนิทสนมเลยทีเดียว
เย่เฉินตะลึงไปเล็กน้อย ยังไม่ทันได้พูดจา หลินหว่านเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างก็กล่าว: “ระหว่างคนรักควรจะควงแบบนี้ใช่ไหม”
“เอ่อ......”เย่เฉินเข้าใจว่าเธอกำลังปลอมตัวเป็นคนรักกับตน จึงพยักหน้ากล่าว: “น่าจะใช่นะ”
หลินหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นอีกเดี๋ยวตอนขึ้นเครื่อง เพื่อไม่ให้ลูกเรือสงสัย ก็จะต้องควงแขนคุณเอาไว้เหมือนกัน?”
เย่เฉินพยักหน้ากล่าว: “ไม่มีปัญหา เอาตามที่คุณเห็นว่าดี”
พูดไป เย่เฉินควักโทรศัพท์มือถือออกมาดู ในซอฟต์แวร์การบินเวอร์ชันเสียเงิน สามารถมองเห็นว่าเครื่องบินลำนั้นของอู๋เฟยเยี่ยนได้บินข้ามนิวซีแลนด์เรียบร้อยแล้ว ระยะห่างจะเมลเบิร์นได้ใกล้มากแล้ว
เย่เฉินพลางถูกหลินหว่านเอ๋อร์ควงแขน พลางจ้องมองโทรศัพท์มือถือกล่าวเสียงเบา: “เครื่องบินของอู๋เฟยเยี่ยนได้ลดความสูงลงแล้ว ดูเหมือนว่าจะต้องลงจอดที่เมลเบิร์นสักเดี๋ยว เติมเชื้อเพลิง ขั้นตอนทั้งหมดอย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง พวกเราก็น่าจะขึ้นบินไล่เลี่ยกันกับเธอ เมื่อพิจารณาว่าเธอจะไปที่เมียนมาก่อน ดังนั้นพวกเราของพวกเราเหลือเฟือมาก เหลือเฟือจนถึงขนาดสามารถเที่ยวไปเดินทางไปได้”
หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า กล่าวอย่างทอดถอนใจ: “ฉันไม่ได้กลับไปหลายปีมากแล้ว เมื่อไปถึงที่เตียนหนาน จะเชื่อฟังที่คุณจัดการทุกอย่าง”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...