คู่รักคู่หนึ่งแต่งตัวสไตล์แฟชั่นสมัยใหม่ ทั้งร่างต่างเต็มไปด้วยแบรนด์เนม อยู่ที่ช่องทางวีไอพีจูงมือกันกำลังทำการเช็คอิน แล้วก็เดินจูงมือกันขึ้นไปนั่งบนรถโดยสารวีไอพีของสนามบินแล้ว
ในสายตาของคนนอก สองคนนี้ต้องเป็นคู่รักที่เป็นทายาทคนรวยอย่างแน่นอน ไม่เพียงต่างสวมใส่แบรนด์เนม ทว่าทั้งสองคนเพียงแค่เดินทางออกไปท่องเที่ยว ต่างยอมจ่ายเงินเป็นแสนเพื่อเหมาทั้งลำ
แต่ว่า นี่ก็เป็นปลอมตัวที่ดีที่สุดของเย่เฉินกับหลินหว่านเอ๋อร์
ด้วยลักษณะท่าทางของเย่เฉินในตอนนี้ จะพูดว่าเขาพึ่งจะอายุยี่สิบปีก็ไม่มีคนสงสัย ระหว่างทางเดินพบเจอกับคนรู้จัก เกรงว่าก็คงจะมองไม่ออกหรอก
ทั้งสองคนเช็คอินขึ้นเครื่อง คณะลูกเรือนำทางพวกเขามายังห้องโดยสารอันกว้างขวาง หลินหว่านเอ๋อร์มองข้ามเบาะที่นั่งที่เป็นที่นั่งเดี่ยวไปเลย ลากเย่เฉินเดินไปยังด้านหลัง พร้อมทั้งออดอ้อนขึ้นมา:“ที่รักคะ ฉันอยากจะนั่งด้วยกันกับคุณ”
ด้านหลัง มีที่นั่งที่ติดกันสำหรับสองคน ตรงกลางไม่มีพนักวางมือ เป็นโซฟาสองที่นั่งแบบมาตรฐาน
หลินหว่านเอ๋อร์ขึ้นเครื่องมา ก็สนใจที่นั่งอันนี้แล้ว
เย่เฉินคือตั้งใจให้ความร่วมมือในการแสดงอย่างเป็นธรรมชาติ พยักหน้าติดต่อกัน:“กระนั้นคุณอยากจะนั่งด้วยกันงั้นก็นั่งด้วยกัน”
หลินหว่านเอ๋อร์หยุดลงแล้ว ใบหน้าจริงจังพูดว่า:“คุณลืมเรียกฉันว่าที่รัก”
เย่เฉินถูกท่าทางอันจริงจังของเธออันนี้ทำให้ตะลึงงันไปแล้ว พูดออกมาอย่างกระอักกระอ่วนว่า:“ด้านข้างมีคนอยู่นะ”
พนักงานต้อนรับที่อยู่ด้านข้าง อดที่จะใช้มือกุมปากแล้วยิ้มออกมาไม่ได้แล้ว
ในสายตาของเธอ หนุ่มสาวสองคนที่อยู่เบื้องหน้านี้ ก็คือคู่รักที่มีความร้อนแรง ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร
หลินหว่านเอ๋อร์ไม่ได้สนใจพนักงานต้อนรับที่อยู่ด้านข้าง พูดออกมาจริงจังอย่างมากว่า:“การเรียกว่าที่รักควรเรียกต่อหน้าคนอื่น นี่ถึงจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุณรักฉันอย่างจริงใจ ถ้าคุณเรียกฉันว่าที่รักเพียงแค่เวลาส่วนตัว กลับรักษาระยะห่างเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น นั่นก็แสดงว่าคุณทานอยู่ในถ้วย แต่ในใจยังมองไปที่หม้อด้วย?”
พนักงานต้อนรับที่อยู่ด้านข้างอดที่จะยกนิ้วโป้งให้หลินหว่านเอ๋อร์ไม่ได้แล้ว เย่เฉินมองเห็นหลินหว่านเอ๋อร์อินกับบทบาทเช่นนี้ ภายในใจก็คิดว่าตัวเองจะเป็นตัวถ่วงที่โง่เง่าของเพื่อนร่วมทีมไม่ได้ จากนั้นแสดงออกไป พูดอย่างจริงใจอย่างมาก:“ที่รักพูดถูก!”
หลินหว่านเอ๋อร์หน้าแดงระเรื่อ พยักหน้าอย่างพอใจแล้ว พูดอย่างจริงจัง:“ต่อไปนี้คุณต้องจำเอาไว้ ยิ่งอยู่ด้านนอก ยิ่งต้องหวานชื่นกับฉัน แบบนี้ถึงจะไม่มีผู้หญิงคนอื่นคิดอยากจะเข้าหาคุณ และก็ไม่มีผู้ชายคนอื่นทอดสะพานหาฉันแล้ว นี่เรียกว่าการแสดงความเป็นเจ้าของ”
เย่เฉินพยักหน้าติดต่อกัน:“ที่รักพูดถูก ที่รักพูดถูก”
พูดไป เขาก็มองไปยังพนักงานต้อนรับที่อยู่ด้านข้าง บอกกล่าวออกไปว่า:“คุณผู้หญิง รบกวนคุณรินน้ำให้ที่รักของผมแก้วหนึ่ง พูดมากขนาดนี้ เธอคอแห้งแล้ว”
เย่เฉินพยักหน้า ล้วงโทรศัพท์ออกมาค้นหาแผนที่สักหน่อยแล้ว พูดว่า:“โซโรมีระยะห่างจากลี่เจี่ยงค่อนข้างใกล้ ลงจากเครื่องนั่งรถไปน่าจะประมาณครึ่งชั่วโมง”
“อืม……”หลินหว่านเอ๋อร์ตอบรับเบาๆ พูดว่า:“อนุสาวรีย์ของบิดาอยู่บนภูเขาของโซโรทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว ไม่รู้ว่าที่นั่นจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างแล้ว”
เย่เฉินถามเธอ:“ในตอนนั้นมีป้ายหน้าหลุมศพไหม?”
“มีนะ”หลินหว่านเอ๋อร์พูด:“ในตอนนั้นฉันจ้างให้คนแกะสลักแผ่นหิน พร้อมกับข้าวของเครื่องใช้ในตอนที่เขามีชีวิตอยู่ฝังเอาไว้ด้วยกันกับหลุมศพของมารดาแล้ว แต่ว่าก็ไม่รู้ว่าจะยังสามารถหาเจอได้ไหม”
เย่เฉินถามเธอ:“หลุมฝังศพของมารดาคุณก็อยู่ที่นั่นเหรอ?”
หลินหว่านเอ๋อร์พูด:“เดิมทีใช่ แต่ว่าก่อนที่ฉันจะจากต้าหลี่ไป กลัวว่าอู๋เฟยเยี่ยนจะทำลายร่างศพของบิดามารดา ดังนั้นจึงได้นำร่างมารดาของฉันขุดขึ้นมาเผาแล้ว ฝังไปด้วยกันกับเถ้ากระดูกของบิดาที่ผูเอ่อร์แล้ว”
เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า:“งั้นพวกเราต้องคิดหาวิธีที่จะหาอนุสาวรีย์ของบิดาคุณให้เจอก่อน หลังจากนั้นค่อยคิดหาวิธีการว่าจะติดตั้งกล้องวงจรปิดอย่างไร อาศัยโอกาสในตอนที่ที่อู๋เฟยเยี่ยนไป ก็จะสามารถถ่ายภาพลักษณะของเธอได้ หลังจากเตรียมการเรียบร้อย พวกเราไม่รอให้อู๋เฟยเยี่ยนมาถึง ผมก็จะไปผูเอ่อร์เป็นเพื่อนคุณไปกราบไหว้บิดามารดาของคุณ”
หลินหว่านเอ๋อร์มองดูเย่เฉิน พูดอย่างจริงจัง:“คุณชาย อู๋เฟยเยี่ยนมีนิสัยหวาดระแวง ไม่แน่ครั้งนี้อาจจะปลอมตัวอีกทั้งปรับเปลี่ยนสีหน้า ถ้าถ่ายภาพลักษณะท่าทางของเธอไม่ได้ คุณอย่าได้ผิดหวังซะล่ะ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...