ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5762

เย่เฉินไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่า เหตุไฉนหญิงสาวที่ดูบอบบางไร้เดียงสาอย่างหลินหว่านเอ๋อร์ จะมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวได้ถึงเพียงนี้

และเธอก็รู้ตัวดีว่าตนเองนั้น ไม่คู่ควรที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของอู๋เฟยเยี่ยน เเละเมื่อต้องเผชิญหน้ากับอู๋เฟยเยี่ยนแบบตัวต่อตัว ทั้งสองก็คงจะต่อสู้กันจนตายไปข้างหนึ่งอย่างเเน่นอน

จะอย่างไรก็เเล้วเเต่ ก่อนหน้านี้ หยุนหรูเกอเคยบอกต่อหน้าพวกเขาทั้งคู่ว่า อู๋เฟยเยี่ยนได้เปิดจุดหนีว๋านไปเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว ซึ่งกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ พลังอานุภาพของเธอเมื่อร้อยกว่าปีก่อนนั้น มีความแข็งแกร่งกว่าเย่เฉินในตอนนี้มากโขเลยทีเดียว

แต่ถึงกระนั้น หลินหว่านเอ๋อร์ก็ยังอยากจะลองเสี่ยงดู

ที่เเน่ๆ หากคิดจะทำเรื่องนี้อย่างหุนหันพลันแล่นเกินไปจนเสียการควบคุมเเล้วล่ะก็ มันอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ดังนั้น เขาจึงพูดด้วยท่าทางจริงจังเคร่งขรึมว่า " เมื่อต้องอยู่ต่อหน้าอู๋เฟยเยี่ยน ความเป็นไปได้ที่พวกเราสองคนจะหลบหลีกซ่อนเร้นจากเธอนั้นแทบไม่มีเลย คุณแน่ใจหรือว่าต้องการที่จะเสี่ยงกับที่นี่จริงๆ น่ะ ? "

หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้าด้วยท่าทางสงบนิ่ง พลางมองไปที่เย่เฉิน ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเเน่วแน่ " ตลอดเวลาสามร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ฉันต้องคอยหลบเลี่ยงเธอมาโดยตลอด เเละยังต้องระมัดระวังตัวเป็นอย่างดี ซ้ำยังต้องคอยระเเวดระวังในทุกๆ สถานที่เพื่อไม่ให้เธอพบเจอฉัน ฉันเเทบไม่เคยย่างกรายไปยังสถานที่ซึ่งอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับเธอ ทว่าในตอนนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธออาจจะมาที่นี่ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทำไมจู่ๆ ฉันก็รู้สึกอยากจะลองเสี่ยงดูสักตั้ง ! "

เย่เฉินตกตะลึงจนอ้าปากค้างดวงตาเบิกโพลง และถึงกับกลั้นคำพูดเอาไว้ไม่อยู่ " ช่วงเวลาแห่งความดื้อรั้นของคุณ เหมือนจะมาช้าไปสักหน่อยนะ ? "

หลินหว่านเอ๋อร์ทำท่าแลบลิ้นพลางกล่าวว่า " ก็อาจเป็นไปได้ ไม่ว่ายังไงก็เเล้วเเต่ ในที่สุดฉันก็เข้าใจเเล้วว่า ทำไมพวกที่ชื่นชอบกีฬาผาดโผนพวกนั้น ถึงต้องปีนตึกสูงระฟ้าด้วยมือเปล่า ทั้งที่พวกเขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าในระหว่างที่ปีนอยู่นั้น หากเกิดความประมาทเพียงน้อยนิด ก็อาจทำให้ร่างของพวกเขาถูกบดขยี้จนสลายกลายเป็นเศษซากได้ในชั่วพริบตา แต่พวกเขาก็ยังพยายามที่จะลองทำ นั่นก็เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ความตื่นเต้นสะใจในการผจญภัย และเพื่อความรู้สึกของการเป็นผู้พิชิตหลังจากได้รับความสำเร็จมาครอบครอง "

หลังจากที่หยุดนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง หลินหว่านเอ๋อร์จึงพูดโพล่งขึ้นอีกครั้ง " เมื่อคนอื่นๆ ได้เห็นตึกสูงเสียดฟ้า ก็มักจะต้องแหงนหน้าขึ้นไปมอง พร้อมด้วยเสียงร้องอุทานเเละคำชื่นชมสรรเสริญ ทว่า หากเป็นพวกเขาที่ได้เห็นตึกสูงเสียดฟ้านั้น ในใจคงคิดเเต่เพียงว่า ครั้งหนึ่งฉันเคยพิชิตมันด้วยมือเปล่าๆ โดยไม่ได้พึ่งพาอาศัยการช่วยเหลือสนับสนุนจากภายนอกและการป้องกันใดๆ สันนิษฐานได้ว่าความรู้สึกแห่งความสำเร็จนั้น คงทำให้พวกเขามีความสุขไปได้อีกนานเลยเชียวล่ะ ! "

หลังจากที่เย่เฉินครุ่นคิดไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขึ้น " ผมอยากแนะนำคุณว่า พยายามใช้สติเเละเหตุผลให้มากๆ เพราะถ้าหากการตัดสินใจนี้เกิดความผิดพลาดขึ้นมา คงไม่มีโอกาสได้แก้ไขความผิดพลาดอีกเเล้ว "

หลินหว่านเอ๋อร์ก้มศีรษะพลางเม้มริมฝีปากของเธอ จากนั้น จึงเงยหน้าขึ้นและพูดด้วยท่าทางที่ดูจะตื่นเต้นเล็กน้อย " ฉันก็ประเมินตัวเองได้ว่า ชั่วชีวิตนี้ ฉันคงไม่มีความสามารถที่มากพอจะฆ่าอู๋เฟยเยี่ยนได้ เเค่ไม่ถูกเธอฆ่าตาย ก็ถือเป็นความสำเร็จอันใหญ่หลวงของฉันแล้วล่ะ... "

" เเละเเม้ว่าฉันจะไม่มีปัญญาฆ่าเธอได้ แต่อย่างน้อยๆ วันนี้ฉันก็มีโอกาสที่จะปรามาสเธอ ว่าคนอย่างฉันก็จัดการเธอได้ ! "

" อู๋เฟยเยี่ยนก็คิดฝันอยู่เสมอมา ว่าจะจับตัวฉันให้ได้ไม่ใช่หรอกหรือ ? ถ้าอย่างนั้นเธอก็อาจจะไม่นึกไม่ฝันว่า ในช่วงเวลาหนึ่ง ฉันก็ได้มายืนอยู่ใต้จมูกเธอนี่เอง ! "

" ถ้าครั้งนี้ฉันทำสำเร็จล่ะก็ เกมแมววิ่งไล่จับหนูระหว่างฉันกับอู๋เฟยเยี่ยนในชั่วชีวิตนี้ ก็จะถือว่าฉันสามารถเอาชนะเธอได้ก่อนครั้งหนึ่ง ! "

" เเละเมื่อจวบจนถึงวาระสุดท้ายของเธอ ถ้าหากเธอยังจับตัวฉันไม่ได้ ฉันก็จะกลายเป็นผู้ชนะไปในที่สุด ! "

" ตราบใดที่ฉันเอาชนะเธอได้ในครั้งนี้ วันใดวันหนึ่งในภายภาคหน้า ฉันจะต้องทำให้เธอได้รู้ว่า คนอย่างหลินหว่านเอ๋อร์ ไม่ใช่คนที่อู๋เฟยเยี่ยนจะวิ่งตามไล่ล่าได้ง่ายๆ ! "

" เมื่อวันนั้นมาถึง ฉันจะบอกให้เธอรู้ว่า คนอย่างหลินหว่านเอ๋อร์ ถึงแม้ความสามารถจะอ่อนด้อยไร้กำลัง ไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะผูกไก่ก็เถอะ แต่ฉันก็กล้าที่จะหัวเราะต่อหน้าคนอย่างอู๋เฟยเยี่ยนอย่างสนุกสนานครื้นเครง ! "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน