ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5765

เมื่อหลินหว่านเอ๋อร์ได้ยินคำพูดของเธอ จึงเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ " คุณเป็นเนื้องอกในสมองเหรอคะ ? "

" อืม " ซูหลานพยักหน้าอย่างเนิบช้า เเล้วจึงกล่าวด้วยท่าทางที่เรียบเฉย " ถึงเเม้จะมีอุบัติการณ์การเกิดโรคค่อนข้างต่ำเพียงแค่หนึ่งในหมื่น แต่ฉันก็ยังโดนมันเข้าจนได้ "

หูเล่อฉีก็พูดไปยิ้มไปเช่นกัน " สถานการณ์ของผมก็คล้ายๆ กับของซูหลาน เมื่อปีที่แล้ว ผมได้รับผลการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เเละยังเป็นมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กอีกด้วยนะ ทั้งๆ ที่ตั้งเเต่เด็กจนโตผมก็ไม่เคยสูบบุหรี่เลยสักครั้ง แม้เเต่กัญชาซึ่งมีอยู่เกลื่อนกลาดเเพร่หลายในอเมริกา ก็ยังไม่เคยแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ เเต่ก็กลายเป็นว่าผมเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายซะงั้น ทั้งยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ ผมก็แค่สนุกกับชีวิตให้มันเต็มที่ไปเลย "

หลินหว่านเอ๋อร์เผลอตัวพูดออกไปว่า " มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กระยะสุดท้ายสามารถรักษาได้โดยใช้เคมีบำบัด ร่วมกับการใช้ยาที่มุ่งเป้าทำลายเซลล์มะเร็งเป้าหมายโดยตรง สามารถให้ผลการรักษาที่ค่อนข้างดีทีเดียว ที่สำคัญคืออย่ายอมแพ้ต่อตัวเองโดยเด็ดขาด "

หูเล่อฉียิ้มพลางกล่าวว่า " ผมก็ไม่เคยยอมแพ้ต่อตัวเอง อันที่จริง การที่ผมเดินทางจากสหรัฐอเมริกาเพื่อมาที่หัวเซี่ย ก็เพราะว่าผมต้องการเข้าร่วมการวิจัยทดลองทางคลินิก ที่มีชื่อโครงการวิจัยว่า " ยาเกิดใหม่เก้าเสวียน " ของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนน่ะครับ ว่ากันว่ายาตัวนี้ให้ผลการรักษาที่ดีต่อการรักษาโรคมะเร็งเกือบทุกชนิด หมอก็เลยแนะนำให้ผมลองดูว่า ยังพอจะมีโอกาสได้รับสิทธิโควต้าในโครงการนี้บ้างหรือไม่ แต่หลังจากที่ผมมาถึงเเล้วจึงได้พบว่า การเข้ารับโควต้านี้มีการแข่งขันที่ค่อนข้างจะดุเดือดมากเลยทีเดียว อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ แม้เเต่เจมส์ สมิธอดีตผู้อำนวยการองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาFDA ยังไม่ได้รับสิทธิโควต้าสำหรับลูกชายของเขาเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนธรรมดาสามัญอย่างผมกันล่ะ "

ซูหลานที่อยู่ข้างๆ กันจึงกล่าวเสริมขึ้นว่า " มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นซะทีเดียว การจัดสรรสิทธิโควต้าของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครร่ำรวยหรือใครมีอำนาจบารมี เเต่พวกเขาจะพิจารณาดูว่าใครที่ต้องการการรักษาให้รอดพ้นจากอันตรายมากกว่ากัน เเละให้ลงทะเบียนเข้าร่วมการทดลองทางคลินิกของพวกเขา ซึ่งพวกเขาล้วนเป็นผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด ไม่มีอะไรที่พิเศษหรือได้รับการยกเว้น ในบรรดาพวกเขาทั้งหมด อย่างน้อยๆ ก็มีราว 30% ที่ได้รับการประกาศจากทางแพทย์ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึงครึ่งปี เเละยังมีผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้ายอีกจำนวนหลายร้อยราย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ล้วนเเต่เป็นเด็กที่อายุยังน้อย คนอายุยี่สิบกว่าๆ อย่างพวกเราน่ะ แทบไม่มีโอกาสได้รับสิทธิโควต้านั้นเลย "

เย่เฉินเอ่ยถามด้วยความสงสัยใคร่รู้ " ซูหลาน คุณก็ไปลงทะเบียนเข้าร่วมการวิจัยทดลองทางคลินิก ของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนมาด้วยเหรอ ? "

ซูหลานพยักหน้าพลางตอบว่า " ฉันไปมาเเล้ว เเต่ก็ไม่ได้รับการคัดเลือก วิธีการตรวจสอบผู้สมัครของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน จะคล้ายกับการเปรียบเทียบความทุกข์ยาก เพื่อพิสูจน์ว่าชีวิตของใครมีความน่าสังเวชมากกว่ากัน โดยเริ่มจากการเปรียบเทียบก่อนว่าใครป่วยหนักที่สุด แล้วค่อยเปรียบเทียบว่าในจำนวนนั้นใครอายุน้อยที่สุด เเล้วก็ใครมีฐานะทางครอบครัวที่ยากจนที่สุด รวมถึงใครมีภาระครอบครัวหนักที่สุด เป็นต้น พวกเขาจะมีระบบการให้คะแนน หากสถานการณ์จริงยิ่งแย่มากเท่าไหร่ คะแนนก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ในท้ายที่สุด รายชื่อทั้งหมดจะถูกเลือกจากผู้ที่มีคะแนนสูงสุดหลายร้อยหรือหลายพันคน มันจะคล้ายๆ กับตรรกะการหาฐานคะแนนอะไรทำนองนั้น ซึ่งฉันก็โดนปัดตกตั้งเเต่รอบเเรกเเล้ว "

เย่เฉินไม่รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้เลย เนื่องจากกฎเกณฑ์ที่ว่านั้น ส่วนใหญ่เเล้วก็เป็นแนวทางการปฏิบัติที่ตนเป็นคนวางเอาไว้เอง เเล้วเว่ยเลี่ยงก็มีหน้าที่รับผิดชอบนำเเนวทางนั้นไปดำเนินการต่ออีกทีหนึ่ง

สาระสำคัญของยาเกิดใหม่เก้าเสวียน แท้จริงแล้วก็คือยาช่วยหัวใจ ในสูตรตำรับที่ทำให้เจือจางลงเเล้ว ซึ่งของสิ่งนี้ ในโลกใบนี้คงมีเพียงตนเท่านั้นที่จะสร้างมันขึ้นมาได้ อีกทั้งราคาของมันที่ต้องจ่าย คือต้องใช้ปราณทิพย์ในการสกัดกลั่นมันออกมา และเป็นไปไม่ได้ที่จะผลิตมันออกมาได้เป็นจำนวนมากๆ และการที่ตนได้แหย่เท้าเข้าไปหาองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาFDA ก็เพื่อเป็นใบเบิกทางของเขานั่นเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน