เมื่อหลินหว่านเอ๋อร์ได้ยินคำพูดของเธอ จึงเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ " คุณเป็นเนื้องอกในสมองเหรอคะ ? "
" อืม " ซูหลานพยักหน้าอย่างเนิบช้า เเล้วจึงกล่าวด้วยท่าทางที่เรียบเฉย " ถึงเเม้จะมีอุบัติการณ์การเกิดโรคค่อนข้างต่ำเพียงแค่หนึ่งในหมื่น แต่ฉันก็ยังโดนมันเข้าจนได้ "
หูเล่อฉีก็พูดไปยิ้มไปเช่นกัน " สถานการณ์ของผมก็คล้ายๆ กับของซูหลาน เมื่อปีที่แล้ว ผมได้รับผลการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย เเละยังเป็นมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กอีกด้วยนะ ทั้งๆ ที่ตั้งเเต่เด็กจนโตผมก็ไม่เคยสูบบุหรี่เลยสักครั้ง แม้เเต่กัญชาซึ่งมีอยู่เกลื่อนกลาดเเพร่หลายในอเมริกา ก็ยังไม่เคยแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ เเต่ก็กลายเป็นว่าผมเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายซะงั้น ทั้งยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาดได้ ผมก็แค่สนุกกับชีวิตให้มันเต็มที่ไปเลย "
หลินหว่านเอ๋อร์เผลอตัวพูดออกไปว่า " มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็กระยะสุดท้ายสามารถรักษาได้โดยใช้เคมีบำบัด ร่วมกับการใช้ยาที่มุ่งเป้าทำลายเซลล์มะเร็งเป้าหมายโดยตรง สามารถให้ผลการรักษาที่ค่อนข้างดีทีเดียว ที่สำคัญคืออย่ายอมแพ้ต่อตัวเองโดยเด็ดขาด "
หูเล่อฉียิ้มพลางกล่าวว่า " ผมก็ไม่เคยยอมแพ้ต่อตัวเอง อันที่จริง การที่ผมเดินทางจากสหรัฐอเมริกาเพื่อมาที่หัวเซี่ย ก็เพราะว่าผมต้องการเข้าร่วมการวิจัยทดลองทางคลินิก ที่มีชื่อโครงการวิจัยว่า " ยาเกิดใหม่เก้าเสวียน " ของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนน่ะครับ ว่ากันว่ายาตัวนี้ให้ผลการรักษาที่ดีต่อการรักษาโรคมะเร็งเกือบทุกชนิด หมอก็เลยแนะนำให้ผมลองดูว่า ยังพอจะมีโอกาสได้รับสิทธิโควต้าในโครงการนี้บ้างหรือไม่ แต่หลังจากที่ผมมาถึงเเล้วจึงได้พบว่า การเข้ารับโควต้านี้มีการแข่งขันที่ค่อนข้างจะดุเดือดมากเลยทีเดียว อย่าว่าอย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ แม้เเต่เจมส์ สมิธอดีตผู้อำนวยการองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาFDA ยังไม่ได้รับสิทธิโควต้าสำหรับลูกชายของเขาเลย แล้วนับประสาอะไรกับคนธรรมดาสามัญอย่างผมกันล่ะ "
ซูหลานที่อยู่ข้างๆ กันจึงกล่าวเสริมขึ้นว่า " มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นซะทีเดียว การจัดสรรสิทธิโควต้าของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครร่ำรวยหรือใครมีอำนาจบารมี เเต่พวกเขาจะพิจารณาดูว่าใครที่ต้องการการรักษาให้รอดพ้นจากอันตรายมากกว่ากัน เเละให้ลงทะเบียนเข้าร่วมการทดลองทางคลินิกของพวกเขา ซึ่งพวกเขาล้วนเป็นผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด ไม่มีอะไรที่พิเศษหรือได้รับการยกเว้น ในบรรดาพวกเขาทั้งหมด อย่างน้อยๆ ก็มีราว 30% ที่ได้รับการประกาศจากทางแพทย์ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึงครึ่งปี เเละยังมีผู้ป่วยมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้ายอีกจำนวนหลายร้อยราย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่ล้วนเเต่เป็นเด็กที่อายุยังน้อย คนอายุยี่สิบกว่าๆ อย่างพวกเราน่ะ แทบไม่มีโอกาสได้รับสิทธิโควต้านั้นเลย "
เย่เฉินเอ่ยถามด้วยความสงสัยใคร่รู้ " ซูหลาน คุณก็ไปลงทะเบียนเข้าร่วมการวิจัยทดลองทางคลินิก ของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนมาด้วยเหรอ ? "
ซูหลานพยักหน้าพลางตอบว่า " ฉันไปมาเเล้ว เเต่ก็ไม่ได้รับการคัดเลือก วิธีการตรวจสอบผู้สมัครของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน จะคล้ายกับการเปรียบเทียบความทุกข์ยาก เพื่อพิสูจน์ว่าชีวิตของใครมีความน่าสังเวชมากกว่ากัน โดยเริ่มจากการเปรียบเทียบก่อนว่าใครป่วยหนักที่สุด แล้วค่อยเปรียบเทียบว่าในจำนวนนั้นใครอายุน้อยที่สุด เเล้วก็ใครมีฐานะทางครอบครัวที่ยากจนที่สุด รวมถึงใครมีภาระครอบครัวหนักที่สุด เป็นต้น พวกเขาจะมีระบบการให้คะแนน หากสถานการณ์จริงยิ่งแย่มากเท่าไหร่ คะแนนก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น ในท้ายที่สุด รายชื่อทั้งหมดจะถูกเลือกจากผู้ที่มีคะแนนสูงสุดหลายร้อยหรือหลายพันคน มันจะคล้ายๆ กับตรรกะการหาฐานคะแนนอะไรทำนองนั้น ซึ่งฉันก็โดนปัดตกตั้งเเต่รอบเเรกเเล้ว "
เย่เฉินไม่รู้สึกแปลกใจกับเรื่องนี้เลย เนื่องจากกฎเกณฑ์ที่ว่านั้น ส่วนใหญ่เเล้วก็เป็นแนวทางการปฏิบัติที่ตนเป็นคนวางเอาไว้เอง เเล้วเว่ยเลี่ยงก็มีหน้าที่รับผิดชอบนำเเนวทางนั้นไปดำเนินการต่ออีกทีหนึ่ง
สาระสำคัญของยาเกิดใหม่เก้าเสวียน แท้จริงแล้วก็คือยาช่วยหัวใจ ในสูตรตำรับที่ทำให้เจือจางลงเเล้ว ซึ่งของสิ่งนี้ ในโลกใบนี้คงมีเพียงตนเท่านั้นที่จะสร้างมันขึ้นมาได้ อีกทั้งราคาของมันที่ต้องจ่าย คือต้องใช้ปราณทิพย์ในการสกัดกลั่นมันออกมา และเป็นไปไม่ได้ที่จะผลิตมันออกมาได้เป็นจำนวนมากๆ และการที่ตนได้แหย่เท้าเข้าไปหาองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาFDA ก็เพื่อเป็นใบเบิกทางของเขานั่นเอง
ซูหลานกล่าวพลางหัวเราะให้กับตัวเอง " พวกเราเเค่เรียนหนังสือมากกว่าพวกเขานิดหน่อยเท่านั้นเอง ซึ่งจริงๆ แล้วก็อาจไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อสังคมมากมาย จะว่าไปแล้ว มันก็เป็นธรรมดาที่หมอจะต้องรักษาชีวิตและช่วยชีวิตผู้ป่วยวิกฤติก่อนอยู่เเล้ว จะลัดคิวให้ฉัน เพียงเพราะฉันมีการศึกษาสูงก็คงกระไรอยู่นะ ? "
หูเล่อฉีฉีกยิ้มพลางกล่าวว่า " เฮ้อ ฉันก็เข้าใจพวกเขานะ ว่ากันว่าหลังจากที่ เจมส์ สมิธ ที่เป็นอดีตผู้อำนวยการ FDA ลาออกจากงานของเขาเเล้ว เขาก็ไปทำงานการกุศลที่จินหลิงอยู่นานเลยทีเดียว ทรัพย์สินที่มีทั้งหมดของเขาก็ถูกนำไปลงทุนจนหมด จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ แต่ก็ยังไม่สามารถเเลกมาซึ่งโอกาสของลูกชายเขาด้วยเช่นกัน คนของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนยังกล่าวด้วยว่า แม้ว่าลูกชายของเขาจะป่วยหนัก แต่ก็ยังมีเด็กที่ป่วยหนักกว่าลูกชายของเขาอีกมากมาย "
หนึ่งในคนกลุ่มนั้นพลันถามขึ้นด้วยความประหลาดใจ " ผู้อำนวยการFDAของสหรัฐอเมริกา ลาออกจากงานแล้วไปทำงานการกุศลที่จินหลิงอย่างนั้นเหรอ ? "
" ใช่เเล้ว " หูเล่อฉีตอบพลางผงกศีรษะ " ฉันเคยคุยกับพี่คนนั้นเเล้ว เขาเป็นคนหนึ่งที่ขาดทุนมากที่สุดเลยล่ะ ตอนที่บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนกำลังจะเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา ได้เข้าไปหาเขาพร้อมกับยาเกิดใหม่เก้าเสวียน และเมื่อได้รู้ว่าลูกชายของเขาเป็นมะเร็ง จึงให้ยาแก่เขาเพื่อทดลองใช้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ทว่า เขากลับรู้สึกว่ายาสมุนไพรจีนนั้นไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีพื้นฐานอ้างอิงตามหลักวิทยาศาสตร์ ไม่เหมาะที่จะนำมาข้องเกี่ยวกับความเป็นความตาย จนสุดท้ายเเล้ว เมื่อเขากลับมาตระหนักได้อีกครั้ง เเละอยากจะเข้าไปหาบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน พวกเขาก็ได้ยุติความตั้งใจที่จะนำยาเกิดใหม่เก้าเสวียนเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาเสียแล้ว... "
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ หูเล่อฉีพลันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เเละกล่าวว่า " พี่เขาก็ไม่รู้จะทำยังไง ลูกชายของเขารักษาตัวอยู่ที่เมโยคลินิก อาการก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เขาจึงทำได้เพียงไปลองเสี่ยงโชคที่จินหลิงเเบบทุ่มหมดหน้าตัก และก็คงคิดแต่เพียงว่า ตราบใดที่เพียรพยายามอย่างหนัก เมื่อนั้นก็จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนล่ะมั้ง... "

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...