ในระหว่างที่พูดอยู่นั้น สีหน้าของเธอที่เคยยิ้มเเย้มก็ค่อยๆ นิ่งขรึมไปทีละน้อย " เล่อฉี พวกเรามาทำข้อตกลงกันก่อนดีกว่าไหม ว่าเราสองคนจะพยายามใช้ชีวิตให้ผ่านพ้นปีนี้ไปให้ได้ หากมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นในปีหน้าและพวกเรายังไม่มีใครเสียชีวิตจากกันไปเสียก่อน คุณค่อยมาที่หัวเซี่ยเพื่อพบพ่อแม่ของฉัน เมื่อได้รับความยินยอมจากพวกเขาเเล้ว ฉันจะไปอเมริกากับคุณ "
หูเล่อฉีซึ่งก่อนหน้านี้เคยสนุกสนานร่าเริงมาโดยตลอด จู่ๆ สีหน้าท่าทางของเขาพลันเศร้าหมองในทันทีทันใด เขาพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำแผ่วเบา " ยังเหลือเวลาอีกสี่เดือนกว่าจะถึงปีหน้า เกรงว่าถึงผมจะยังไม่ตายในปีหน้า เเต่ก็คงมาพบคุณที่หัวเซี่ยไม่ได้เเล้วล่ะ "
ขอบตาของซูหลานพลันเปลี่ยนเป็นสีเเดงระเรื่อ เธอส่งยิ้มอ่อนๆ ให้เขาพร้อมกับพูดขึ้นว่า " ไม่เป็นไรน่า ถึงตอนนั้นฉันจะวิดีโอคอลหาคุณทุกวันเลย ตอนนี้ทุกอย่างมันก็เข้าไปอยู่ในโลกออนไลน์หมดแล้ว แม้แต่ศาลก็ยังพิจารณาคดีผ่านทางออนไลน์ หากไม่ได้จริงๆ คุณก็เชิญบาทหลวงท่านหนึ่ง ให้มาเป็นผู้ประกอบพิธีแต่งงานให้พวกเราทางออนไลน์ก็ได้ "
น้ำตาของหูเล่อฉีค่อยๆ เอ่อปริ่มอยู่ที่ขอบตาของเขา เขาพยักหน้าอย่างช้าๆ และพูดด้วยรอยยิ้ม " ถ้าอย่างนั้น เอาตามที่ว่านี้ก็ได้ เมื่อผมกลับไปอเมริการอบนี้ ผมจะไปเชิญบาทหลวงท่านหนึ่งเอาไว้ เราจะจัดงานแต่งงานออนไลน์กันในวันที่ 1 มกราคม ! "
อารมณ์ความรู้สึกของเพื่อนคนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวพวกเขาในเวลานี้ ราวกับว่ามันค่อยๆ จมดิ่งลงสู่ก้นเหวลึกลงไปเรื่อยๆ
หลินหว่านเอ๋อร์หันมองไปทางเย่เฉิน และกระซิบข้างหูของเขาอย่างเเผ่วเบา " คุณชาย บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนเป็นของคุณไม่ใช่หรือ ? "
เย่เฉินพยักหน้าพร้อมกับทำเสียงฮึมฮัมในลำคอ " ใช่ ของผมเอง "
หลินหว่านเอ๋อร์มองดูหูเล่อฉีเเละซูหลานด้วยความเห็นใจ จากนั้นจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง " เป็นไปได้ไหมว่า คุณจะ... "
เย่เฉินไม่ทันรอจนเธอพูดจบ จึงพยักหน้าเเละตอบกลับโดยไม่ลังเล " ได้ เเต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ เอาไว้ตอนที่พวกเราจะกลับผมจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเเละเหมาะสม "
หลินหว่านเอ๋อร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทั้งยังรู้สึกดีขึ้นในทันทีทันใด เเต่อย่างไรก็ตาม เธอยังคงคิดว่าการที่เย่เฉินใส่ใจในสิ่งที่เธอร้องขอ กลับทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยเเน่ใจเท่าใดนัก เธอจึงลองถามหยั่งท่าทีของเขาดูก่อน " คงไม่ทำให้คุณลำบากใจใช่ไหม ? "
เย่เฉินก็ไปหยิบอาหารเเละเครื่องดื่มที่เขาซื้อมา เอาออกมาแจมกับคนอื่นๆ ด้วยเช่นกัน จากนั้น เขาจึงถือโอกาสตอนที่ทุกคนกำลังเตรียมอาหารเย็นกันอยู่ ปลีกตัวออกไปกางเต็นท์ให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน
แม้ว่าเต็นท์เดินป่าที่เขาซื้อมาจะเป็นเต็นท์สำหรับสองคน แต่พื้นที่ภายในเต็นท์กลับมีขนาดเท่ากับเตียงคู่ ซึ่งขนาดของมันอยู่ที่ราวๆ 1.8 เมตรเท่านั้น หลินหว่านเอ๋อร์ที่กำลังช่วยปูแผ่นรองนอนแบบกันความชื้นอยู่ข้างๆ กัน พลันกระซิบถามด้วยความเขินอายว่า " คืนนี้พวกเราจะนอนกันที่นี่ใช่ไหม ? "
เย่เฉินพยักหน้าเป็นการตอบรับ เเล้วจึงเอ่ยขึ้น " มาดูกันว่าอู๋เฟยเยี่ยนจะมาปรากฏตัวตอนไหน ถ้าเธอไม่มาปรากฏตัวที่นี่ล่ะก็ เราก็ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาตินี่แหละ "
หลินหว่านเอ๋อร์ถามขึ้นอีกครั้ง " เเล้วถ้าอู๋เฟยเยี่ยนมาปรากฏตัวหลังจากที่ทุกคนหลับไปแล้วล่ะ ? ในสถานการณ์เช่นนั้น พวกเราคงจะแอบย่องออกไปสอดแนมเธอไม่ได้ใช่ไหม ? เเล้วถ้าเป็นแบบนั้น เธอก็จะต้องรู้ได้ในไม่ช้าอย่างเเน่นอน "
เย่เฉินยิ้มพลางตอบกลับไปว่า " วางใจเถอะ ผมเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมเเล้ว ผมได้ผสมปราณทิพย์ลงไปในเหล้าปริมาณเล็กน้อย คืนนี้ทุกคนจะต้องรู้สึกตื่นเต้นคึกคักมากเป็นพิเศษเลยล่ะ ทั้งยังไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอีกด้วย บางที ปาร์ตี้รอบกองไฟในค่ำคืนนี้ อาจจะสนุกครื้นเครงยาวไปจนถึงเช้าวันพรุ่งนี้เลยก็เป็นได้ การที่อู๋เฟยเยี่ยนบินไปเมียนมาด้วยความรีบร้อน เช่นนั้นแล้ว ตอนที่เธอจะกลับมาจากเมียนมา มันจะต้องไม่เสียเวลาอย่างแน่นอน เเละเธอก็น่าจะมาถึงภายในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ ! "

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...