การที่เย่เฉินได้เผยแพร่ภาพเหมือนของเมิ่งฉางเชิงที่เมืองจินหลิง ทำให้อู๋เฟยเยี่ยนถึงกับช็อคตาตั้งเป็นอย่างมาก เเละมากจนถึงขนาดที่การมาเยือนหัวเซี่ยของเธอในครั้งนี้ มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้เธอกังวลใจมากที่สุด ซึ่งก็คือการเปิดเผยตัวตนของเธอนั่นเอง
กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ตั้งแคมป์อยู่ไม่ไกลจากเธอนั้น เธอพอจะประเมินได้ว่าพวกเขาน่าจะเป็นนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ เธอจึงไม่รู้สึกกังวลเลยสักนิดว่าคนเหล่านั้นอาจเป็นภัยคุกคามความปลอดภัยของเธอ ทว่า บทสนทนาระหว่างเย่เฉินเเละหลินหว่านเอ๋อร์ที่เธอเพิ่งได้ยินไปเมื่อสักครู่นี้ ทำให้เธอเกิดตระหนักได้ว่าพฤติกรรมของเธอค่อนข้างเป็นที่น่าสงสัยในสายตาของคนอื่น ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ มันทำให้เธอเกิดความลังเลใจเป็นอย่างยิ่ง ว่าตนเองควรวางหมากลงในกระดานอย่างไรดี
อีกทั้งสมาธิอันจดจ่อแน่วเเน่ของเธอ ก็ถูกเย่เฉินดึงให้เบี่ยงเบนความสนใจไปทางอื่นโดยที่เธอไม่ทันได้รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ อู๋เฟยเยี่ยนในเวลานี้จึงได้เเต่กังวลว่าจะถูกเขาสงสัยเอาได้ โดยที่ตัวเธอเองกลับไม่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของวัยรุ่นหนุ่มสาวพวกนั้นเลยแม้เเต่น้อย
ในขณะที่อู๋เฟยเยี่ยนยังคงลังเลอยู่นั้นเอง แสงสีทองผ่องอำไพพลันสาดส่องกระทบเส้นขอบฟ้า ดวงอาทิตย์กลมโตค่อยๆ โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาจากทางทิศตะวันออกของภูเขา
หลังจากได้เห็นแสงอาทิตย์ที่สาดส่องในยามเช้า วัยรุ่นหนุ่มสาวที่อยู่รายรอบเย่เฉิน ซึ่งยังคงตื่นเต้นคึกคักไม่หายแม้จะอดนอนมาเเล้วทั้งคืน พลันรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที พลางตะโกนโหวกเหวกเสียงดังว่าพระอาทิตย์ขึ้นเเล้ว พวกเขาต่างก็กุลีกุจอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปและบันทึกวิดีโอกันจนเป็นมือเป็นระวิง
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจเธอเเล้ว อู๋เฟยเยี่ยนจึงเดินลัดเลาะมุ่งหน้าเข้าไปในป่าที่อยู่ทางด้านหลังจุดกางเต็นท์
ในเวลานั้น อู๋เฟยเยี่ยนอยู่ห่างจากเย่เฉินเเละหลินหว่านเอ๋อร์เพียงเจ็ดสิบถึงแปดสิบเมตรเท่านั้น
ทว่า ความสนใจของเธอในตอนนี้ กลับไม่ได้จดจ่ออยู่ที่กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวพวกนั้นเลยสักนิดเดียว ประกอบกับเธอกำลังอยู่ในสภาวะสงบนิ่ง จึงไม่ได้ปลดปล่อยปราณทิพย์เพื่อตรวจจับฝ่ายตรงข้าม เพราะฉะนั้นเเล้วเธอจึงไม่สังเกตเห็นความผิดปกติใดๆ ทั้งสิ้น
เเต่ในเวลานั้น เย่เฉินกลับกำลังเฝ้ามองดูอู๋เฟยเยี่ยนจากมุมหางตาของเขาอย่างพินิจพิเคราะห์
ผู้หญิงคนนี้น่าจะอายุประมาณสามสิบกว่าๆ ลักษณะท่าทางดูเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะ ทั้งยังมีใบหน้างดงามเปี่ยมด้วยเสน่ห์ชวนหลงใหล ไม่ว่าจะด้วยรูปร่างหน้าตาหรือท่วงท่าอันสง่างาม เธอคนนี้ต้องเป็นตัวท็อปของระดับท็อปคลาสอย่างเเน่นอน
ในมือของเธอถือกระดาษที่มีสีออกเหลืองๆ ปึกหนึ่ง และไหเหล้าโบราณอีกหนึ่งไห กระดาษสีเหลืองที่เธอถืออยู่นั้นแลดูหยาบกระด้างมาก เเละน่าจะหาซื้อได้ยากในปัจจุบันนี้
หูเล่อฉีกล่าวด้วยสีหน้าท่าทางอันสงบเยือกเย็น " ต่อให้มีสุสาน ก็ไม่เห็นต้องตื่นตระหนกตกใจเป็นกระต่ายตื่นตูมเลยนี่ แต่ก่อนตอนที่ฉางอานสร้างรถไฟใต้ดิน ว่ากันว่าในระหว่างการก่อสร้างเส้นทางรถไฟใต้ดินสายหนึ่ง ได้มีการค้นพบสุสานโบราณนับพันแห่ง ส่วนสถานที่แห่งนี้ก็ดูเหมือนว่าจะอยู่ในตำแหน่งชัยภูมิอันดีเยี่ยม หากจะมีสุสานโบราณสักสองสามแห่งก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร "
ไม่นานหลังจากนั้น เย่เฉินจึงพยักหน้าอย่างช้าๆ พลางกล่าวว่า " เหล่าหูพูดได้ถูกต้อง การที่คนอื่นจะมาทำความสะอาดสุสานเเละปัดกวาดหลุมศพ ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องน่าแปลกตรงไหน พวกเราอย่าพูดถึงคนอื่นลับหลังเลยดีกว่า หากเขาได้ยินเข้าก็คงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ และมันก็เป็นการกระทำที่ไม่สุภาพด้วย "
หูเล่อฉีพยักหน้างึกๆ และพูดเสริมขึ้นว่า " ฉันก็มองเเบบเดียวกันกับอะเฉินนะ พวกเราอย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นเลยดีกว่า รอจนพระอาทิตย์ขึ้นเเล้ว พวกเราก็แยกย้ายกันกลับเต็นท์ไปนอนพักเอาแรงกันสักงีบ นอนจนตื่นมายืดเส้นยืดสายเเล้วก็กลับไปนอนต่ออีกเอาให้เต็มที่ไปเลย หลังจากอดนอนมาทั้งคืน ตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงเลยสักนิด แต่มาตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึกเพลียไม่ไหวเเล้วจริงๆ "
ทุกคนต่างแสดงออกว่ารู้สึกเช่นเดียวกันกับเขา เเต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ นี่เป็นอาการที่จะแสดงออกมาหลังจากปราณทิพย์ที่ถูกใส่ลงไปในเหล้าค่อยๆ อ่อนฤทธิ์และเสื่อมสลายลงนั่นเอง
ทันใดนั้น หลินหว่านเอ๋อร์พลันหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมา เเล้วหันไปพูดกับเย่เฉิน " ที่รักคะ ตอนนี้แสงตะวันยังไม่ค่อยเจิดจ้ามากนัก พวกเรามาถ่ายรูปกับพระอาทิตย์กันเถอะ มาเซลฟี่กันสักหน่อยดีกว่า "

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...