หูเล่อฉีถามอย่างแปลกใจว่า:“เรื่องอะไรเหรอถึงต้องมีลับลมคมในขนาดนี้?”
เย่เฉินอธิบายว่า:“บริษัทผลิตยาเก้าเสวียนที่คุณพูด ผมมีคอนแทคเล็กน้อย ผมสนิทกับผู้รับผิดชอบสองสามคน ถ้าพวกคุณอยากต่อสู้เพื่อโอกาสในการทดลองยาเกิดใหม่เก้าเสวียน ผมช่วยเร่งให้คุณได้”
หูเล่อฉีและซูหลานตกใจอย่างมาก หูเล่อฉีโพล่งถามไปว่า:“อะเฉิน คุณไม่ได้ล้อเล่นกับผมใช่ไหม?คุณรู้จักคนรับผิดชอบของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนจริงเหรอ?!”
เย่เฉินพูดอย่างจริงจังว่า:“เรื่องสำคัญแบบนี้ ผมจะล้อเล่นกับพวกคุณได้อย่างไร”
หูเล่อฉีรีบถามว่า:“คนที่คุณรู้จัก เป็นผู้รับผิดชอบงานด้านไหน?”
เย่เฉินพูดว่า:“ผมรู้จักผู้รับผิดชอบทั้งบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ชื่อว่าเว่ยเลี่ยง การทดลองทางคลินิกของยาเกิดใหม่เก้าเสวียน ก็เป็นเขาที่รับผิดชอบอย่างเต็มที่ จากมิตรภาพของผมกับเขาแล้ว คงไม่ใช่ปัญหาที่จะเอาสองรายชื่อให้พวกคุณ”
ทั้งสองดูเหลือเชื่อ
ชื่อของเว่ยเลี่ยง พวกเขาคุ้นหูเป็นอย่างดี
ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนที่แท้จริงคือใครกันแน่ แต่แทบทุกคนที่รู้จักบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ต่างเคยได้ยินชื่อเว่ยเลี่ยง
ทุกคนต่างรู้ว่า เว่ยเลี่ยงคือ CEO ของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียน ทุกอย่างของบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนต่างเป็นเขาที่ตัดสินใจ และโควตาการทดสอบยาเกิดใหม่เก้าเสวียนครั้งนี้ก็เกี่ยวข้องกับเขาด้วย
ว่ากันว่าคน ๆ นี้ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น หลายคนที่คุกเข่าขอโควตาด้วยเงินจำนวนมหาศาล แต่เขาก็ยังไม่ไหวติง และยังสามารถดำเนินตามคะแนนตามที่เย่เฉินบอก มาประเมินเลื่อนตำแหน่ง
คนธรรมดาอยากเจอเขาก็ดูเพ้อฝัน ปัจจุบันเว่ยเลี่ยงไม่ได้ออกไปพบใครแล้ว นอกจากร้านค้าตัวแทนและซัพพลายเออร์ คนส่วนใหญ่อยากพบเขา ก็ไม่มีโอกาส แล้วนับประสาอะไรกับการขอความช่วยเหลือจากเขา
เย่เฉินยิ้ม พูดว่า:“ไม่ต้องเกรงใจ พอได้โควตาแล้ว ค่อยขอบคุณผมก็ยังไม่สาย”
พูดไป เขาก็พูดอีกว่า:“เอาล่ะ พวกคุณไม่ต้องไปส่งพวกเราแล้ว พวกเราไปก่อน ถ้าพวกคุณอยากบอกลาทุกคน ก็กลับไปสิ แล้วก็จะได้เก็บของด้วย”
หูเล่อฉีพยักหน้าอย่างแรง พูดว่า:“เราสองคนไปลาทุกคนก่อน”
เย่เฉินเตือนว่า:“อย่าบอกละเอียดว่าจะทำอะไร เพราะนี่ก็เป็นการใช้เส้นสาย ไม่เหมาะที่จะเปิดเผย”
“ครับ!”หูเล่อฉีพูดโดยไม่คิด:“ไม่ต้องห่วง พวกเราไม่เอาไปพูดแน่!”
เย่เฉินคิดอะไรได้ จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“ใช่สิ พอคุณถึงจินหลิงแล้ว ถ้าหาเจมส์ สมิธเจอ ก็ให้เขาพาลูกชายเขา ไปบริษัทผลิตยาเก้าเสวียนกับพวกคุณด้วย ถึงตอนนั้นเว่ยเลี่ยงจะจัดการเอง!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
หม่าหลันมันไม่ได้ไร้เดียงสาต่อโลกหรอก แต่เขียนให้ถูกคือหม่าหลันมันโง่นั้นเอง เข้ามหาลัยมีชื่อเสียงได้ไง โง่ดักดานขนาดนี้ อาจารย์ที่เขียน ก้เขียนให้อีหม่าหลันดูดีเกิ้น 555...
เอาตรงๆน่ะ ผมชอบที่พระเอกมีสาวมาติด แบบเป็นปกติ หลงรักพระเอกโงหัวไม่ขึ้นผมไม่ขัดใจหรอก มาขัดใจตอนคือแบบผญ เรื่องนี้มีนลุกหนักเกินไป จนทำใจอ่านแล้วขัดใจ ถ้าลุกพอประมาณแบบนี้คืออ่านสนุกเว่อร์ แต่นี่อ่อยหนักจนเกิน เกิดอาการขัดใจสุดๆ 555...
ห๊า พระเอกไปเป็นหนี้พวกหล่อนตรงไหน พวกตัวเองชอบเย่เฉินเอง เย่เฉินไม่ได้บังคับ แล้วจะให้พระเอกคืนความรักให้พวกเอ็งเนี่ยน่ะ ส่วนพระเอกกุเห้นมึงก้ปวดใจกับผู้หญิงทุกคนแหละ -.-"...
อ๋อ พึ่งรู้ว่าพระเอกไปช่วยใคร ก้คิดว่าพระเอกชอบคนนั้น ในใจมีเขาอยู่ จะหลุดกับความคิดเฟ่ยเข้อสินถึงๆด้บอกเรื่องนี้มีแต่พวกหลงตัวเอง มีแค่ชูหรันกับซิวอี้นี่แหละความรักผญ.ดี ๆม่หลงตัวเองขนาดนั้น ขอโทษด้วยครับพอดีอินไปหน่อย...
ผู้หญิงเรื่องนี้หลงตัวเองโครต เป้นเพราะชูกันเถอะ พระเอกถึงได้มีแรงผลักนั้น ไม่ใช่นานาโกะ มโนเก่งเนาะ อีเฟ่ย...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โครตน่าหงุดหงิด จะร้องเชี่ยไรนักหนา ร้องทั้งตอน ผญ.อยู่ข้างเย่เฉินนิสัยผญ.หมด แต่ไอนี้แม่งปัญญาอ่อน ไอหลิวม่านฉิง...
โง่ทั้งพระเอกทั้งหลิวม่านฉง ทำตัวเป้นเมียพระเอกสะงั้น จนต้องเลื่อนผ่านขก.อ่าน ขัดใจ พระเอกแม่งก้จะแคร์ผู้หญิงทั้งโลกเลยรึไง...
ไอหลิวท่านฉง ก้มั่นหน้าเกินน่ะ คิดว่าพระเอกจะชอบมึงรึไง เล่นตัว จะหลุด...
ตระกูลเฟ่ยแม่งก้น่าขยะแขยงกันทุกตัวแหละ มีแค่เฟ่ยเข่อขิน เป้นตระกุลเดียวที่ไม่อยากให้เย่เฉนร่วมมือด้วยเลยจริงๆ เฟ่ยเจี้ยนจงแม่งก้ไม่ใช่คนดีไรนักหรอก ปากก้เอาเครื่องสวรรค์มาอ้าง สุดท้ายก้อยากจะไว้ชีวิตหลานตัวเอง น่าขยะแขยง...