ถึงแม้เย่เฉินจะไม่มีความรู้เรื่องใบชา แต่ก็สามารถเข้าใจถึงความรู้สึกพิเศษนั้นของหลินหว่านเอ๋อร์ที่มีต่อมารดาแห่งชาผูเอ่อร์
ในมุมมองของเขา มารดาแห่งชาผูเอ่อร์เป็นความหวังทางจิตใจอย่างหนึ่งของหลินหว่านเอ๋อร์ ดังนั้นเขาก็เข้าใจว่าทำไมหลินหว่านเอ๋อร์ถึงได้ปรารถนาว่าวันหนึ่งรสชาติของมารดาแห่งชาผูเอ่อร์ปรากฏออกมาได้อีกครั้ง
ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับหลินหว่านเอ๋อร์: “รอให้ภูเขาเอ้อหลางมอบหมายกันเสร็จสิ้น ต่อไปคุณก็จะสามารถมาทำงานเพาะพันธุ์ของคุณได้ที่นี่ ใช้ประสบการณ์ของคุณลองดูว่าจะสามารถทำประเภทของใบชาให้ออกมาดีกว่าเดิมได้ไหม”
หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า กล่าว: “การเพาะพันธุ์เป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการเพาะพันธุ์ข้าน้อยไม่ค่อยเข้าใจมากนัก แต่การเพาะพันธุ์ด้วยแรงงานคน เกรงว่าอย่างน้อยอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าสิบปีถึงจะประสบผลสำเร็จ”
เย่เฉินกล่าวอย่างสบายใจ: “ไม่เป็นไร ถ้าหากคุณสามารถเพาะพันธุ์ออกมาได้ ก็ถือเป็นความโชคดีของผู้ที่รักใบชาทั้งหมด ถ้าหากเพาะพันธุ์ออกมาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อย่างไรคุณก็ได้ลิ้มรสรสชาติของมารดาแห่งชาผูเอ่อร์แล้ว รสชาติของมันจะคงอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไป”
“ค่ะ......”หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มบางๆ: “คุณชายพูดถูก”
ในระหว่างที่พูดคุย เย่เฉินได้ขับรถกลับมาถึงฐานการผลิตของจื้อเฉิงกรุ๊ป ที่อยู่ตีนเขาแล้ว
ถึงแม้ว่าในเวลานี้โรงงานจะเลิกงานแล้ว แต่บริเวณประตูใหญ่ มีผู้ชายวัยกลางคนท่าทางสุภาพ สวมแว่นตาท่านหนึ่ง กำลังรอคอยอย่างตื่นเต้นร้อนใจ ข้างกายของเขามีรปภ.คนที่เคยคุยกับเย่เฉินเมื่อครู่นี้คนนั้นอยู่ด้วย
รปภ.จ้องมองผู้ชายวัยกลางคน กล่าวถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย: “ผู้จัดการหวาง คุณกำลังรอใครเหรอครับ? หรือว่าท่านประธานจะมาตรวจสอบการทำงาน?”
ผู้ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าผู้จัดการหวาง ชื่อว่าหวังจินเฉวียน เป็นผู้รับผิดชอบโรงงานแปรรูปแห่งนี้
เมื่อได้ยินคำถามของรปภ. หวังจินเฉวียนก็โบกไม้โบกมือ กล่าว: “ฉันกำลังรอแขกสีไอพีสองท่านอยู่นะ”
หวังจินเฉวียนเป็นผู้ช่วยคนสนิทของหลูจื้อเฉิง
ที่ไม่ลาออกไป ก็เป็นเพราะหลูจื้อเฉิงเขาไม่เลวจริงๆ ถึงแม้ว่าหุ้นนี้จะไม่มีหวังในผลประโยชน์ระยะยาวอะไร แต่ผลประโยชน์ระยะสั้นเช่นเงินเดือน โบนัสยังทำให้หวังจินเฉวียนพอใจมาก
และอยู่ๆวันนี้ก็ได้ยินว่าซูซื่อกรุ๊ปใช้เงินเจ็ดร้อยล้านหยวนในการเทคโอเวอร์จื้อเฉิงกรุ๊ป หวังจินเฉวียนตื่นเต้นจนขาทั้งสองข้างยืนไม่มั่น หุ้นสามหุ้นนั้นของเขา คิดตามราคาเจ็ดร้อยล้าน มูลค่าก่อนภาษียี่สิบเอ็ดล้านหยวน หักภาษีส่วนบุคคล20% รายได้สุทธิก็จะประมาณสิบหกล้านกว่าหยวน หากใช้เงินถูกลอตเตอรี่สี่ล้านหยวนหลังจากหักภาษีมาคำนวณแล้ว ครั้งนี้เท่ากับว่าถูกลอตเตอรี่ทั้งหมดสี่ครั้ง สำหรับเขาแล้ว จะต้องเป็นเศรษฐีในชั่วข้ามคืน!
แต่หวังจินเฉวียนตื่นเต้นได้ไม่นานเท่าไหร่ หลูจื้อเฉิงก็บอกเขา ซูซื่อกรุ๊ปมอบหมายผู้เชี่ยวชาญด้านใบชาออกมาแล้วกำลังจะถึง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความผิดพลาด เขามอบหมายกับหวังจินเฉวียนเป็นพิเศษ จะต้องกราบไหว้ผู้เชี่ยวชาญของซูซื่อกรุ๊ปให้เหมือนกับบรรพบุรุษ จะให้พวกเขามีจุดที่ไม่พึงพอใจไม่ได้เด็ดขาด
หวังจินเฉวียนไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบวิ่งมารอที่หน้าประตูโรงงาน ก็เพื่อให้“ผู้เชี่ยวชาญ”ของซูซื่อกรุ๊ปพึงพอใจในการบริการและทัศนคติของตนเอง
ตอนที่เย่เฉินขับรถมาถึงประตูโรงงาน หวังจินเฉวียนได้มองเลขทะเบียนรถของเย่เฉินชัดเจนแล้ว รู้ว่านี่เป็นรถของผู้เชี่ยวชาญทั้งสองท่าน ก็รีบทำตัวกระปรี้กระเปร่าเตรียมโต้ตอบทันที

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...