ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน นิยาย บท 5802

ถึงแม้เย่เฉินจะไม่มีความรู้เรื่องใบชา แต่ก็สามารถเข้าใจถึงความรู้สึกพิเศษนั้นของหลินหว่านเอ๋อร์ที่มีต่อมารดาแห่งชาผูเอ่อร์

ในมุมมองของเขา มารดาแห่งชาผูเอ่อร์เป็นความหวังทางจิตใจอย่างหนึ่งของหลินหว่านเอ๋อร์ ดังนั้นเขาก็เข้าใจว่าทำไมหลินหว่านเอ๋อร์ถึงได้ปรารถนาว่าวันหนึ่งรสชาติของมารดาแห่งชาผูเอ่อร์ปรากฏออกมาได้อีกครั้ง

ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับหลินหว่านเอ๋อร์: “รอให้ภูเขาเอ้อหลางมอบหมายกันเสร็จสิ้น ต่อไปคุณก็จะสามารถมาทำงานเพาะพันธุ์ของคุณได้ที่นี่ ใช้ประสบการณ์ของคุณลองดูว่าจะสามารถทำประเภทของใบชาให้ออกมาดีกว่าเดิมได้ไหม”

หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า กล่าว: “การเพาะพันธุ์เป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการเพาะพันธุ์ข้าน้อยไม่ค่อยเข้าใจมากนัก แต่การเพาะพันธุ์ด้วยแรงงานคน เกรงว่าอย่างน้อยอาจจะต้องใช้เวลามากกว่าสิบปีถึงจะประสบผลสำเร็จ”

เย่เฉินกล่าวอย่างสบายใจ: “ไม่เป็นไร ถ้าหากคุณสามารถเพาะพันธุ์ออกมาได้ ก็ถือเป็นความโชคดีของผู้ที่รักใบชาทั้งหมด ถ้าหากเพาะพันธุ์ออกมาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร อย่างไรคุณก็ได้ลิ้มรสรสชาติของมารดาแห่งชาผูเอ่อร์แล้ว รสชาติของมันจะคงอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไป”

“ค่ะ......”หลินหว่านเอ๋อร์ยิ้มบางๆ: “คุณชายพูดถูก”

ในระหว่างที่พูดคุย เย่เฉินได้ขับรถกลับมาถึงฐานการผลิตของจื้อเฉิงกรุ๊ป ที่อยู่ตีนเขาแล้ว

ถึงแม้ว่าในเวลานี้โรงงานจะเลิกงานแล้ว แต่บริเวณประตูใหญ่ มีผู้ชายวัยกลางคนท่าทางสุภาพ สวมแว่นตาท่านหนึ่ง กำลังรอคอยอย่างตื่นเต้นร้อนใจ ข้างกายของเขามีรปภ.คนที่เคยคุยกับเย่เฉินเมื่อครู่นี้คนนั้นอยู่ด้วย

รปภ.จ้องมองผู้ชายวัยกลางคน กล่าวถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย: “ผู้จัดการหวาง คุณกำลังรอใครเหรอครับ? หรือว่าท่านประธานจะมาตรวจสอบการทำงาน?”

ผู้ชายวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าผู้จัดการหวาง ชื่อว่าหวังจินเฉวียน เป็นผู้รับผิดชอบโรงงานแปรรูปแห่งนี้

เมื่อได้ยินคำถามของรปภ. หวังจินเฉวียนก็โบกไม้โบกมือ กล่าว: “ฉันกำลังรอแขกสีไอพีสองท่านอยู่นะ”

หวังจินเฉวียนเป็นผู้ช่วยคนสนิทของหลูจื้อเฉิง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน