“หลายปีมานี้ แนวคิดด้านการเพาะพันธุ์ใบชาก็เป็นแบบนี้เช่นกัน ปริมาณการผลิตยิ่งมากยิ่งดี ภายนอกยิ่งสวยยิ่งดี ความสามารถในการทนต่อศัตรูพืชยิ่งมากยิ่งดี ประกอบกับปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลง ประสิทธิภาพการผลิตของพื้นที่ต่อหน่วยย่อมเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ หลินหว่านเอ๋อร์ก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที กล่าวอีกว่า: “แต่ว่า ใช้ทิศทางนี้ในการเพาะพันธุ์พันธุ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง ปริมาณการผลิตกับผลผลิตเพิ่มมากขึ้น อันที่จริงรสชาติของใบชาก็ตกต่ำลงเรื่อย ถ้าหากมีโอกาสละก็ ในอนาคตสามารถทดลองการเพาะพันธุ์พันธุ์ใหม่ในทิศทางตรงกันข้ามได้ ลองดูว่าจะสามารถนำรสชาติของใบชาในตอนนั้นกลับมาได้หรือไม่ แต่ว่าต้องตามหาต้นพันธุ์ที่ดีให้ได้ก่อน อีกทั้งที่ข้าน้อยบอกว่าต้นพันธุ์ที่ดี ควรจะเป็นพันธุ์ที่สืบทอดจากยีนของต้นชาในตอนนั้นให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่พันธุ์ที่ถูกพัฒนาโดยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปัจจุบัน”
เย่เฉินพยักหน้า กล่าว: “พวกไม่ใช่ว่าจะยังไปที่สิบสองปันนาหรอกเหรอ? สถานที่ที่มารดาแห่งชาผูเอ่อร์เติบโตในตอนนั้น น่าจะสามารถตามหาลูกหลานรุ่นหลังของเธอได้ละมั้ง?”
หลินหว่านเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะกล่าวด้วยความคาดหวัง: “ข้าน้อยเองก็คิดแบบนี้เช่นกัน ตอนนั้นที่ข้าน้อยอยู่ที่สิบสองปันนา เคยสอนชาวไร่ชาท้องถิ่น ถึงวิธีใช้กิ่งแม่พันธุ์ของมารดาแห่งชาผูเอ่อร์มาเพาะพันธุ์อย่างไร เพียงแต่ไม่รู้ว่าผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้ว ที่ท้องถิ่นยังมีคนเพาะพันธุ์กิ่งของมารดาแห่งชาผูเอ่อร์อยู่ไหม การไปสิบสองปันนาครั้งนี้ถ้าหากหาเจอละก็ ก็จะนำกลับมาบางส่วน เอามาเพาะพันธุ์ที่นี่”
ทั้งสองคนพลางเดินพลางคุย ระยะทางเข้าใกล้ยอดเขาขึ้นเรื่อยๆ
ต้นชาใหญ่ต้นนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อารมณ์ของหลินหว่านเอ๋อร์ก็ตื่นเต้นมากกว่าเดิม
ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาสามร้อยกว่าปีแล้ว แต่เธอยังคงจำต้นชาต้นนี้ได้
เย่เฉินเห็นเธอตัวสั่นเทาเล็กน้อย อดไม่ได้ที่จะกล่าวถาม: “คงจะเป็นที่นี่ใช่ไหม?”
“เป็นที่นี่......”หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้าซ้ำ กล่าวเสียงเบา: “ฉันจำต้นไม้ต้นนี้ได้ แม้แต่รอยแผลบนต้นของมันฉันก็ยังจำได้”
เย่เฉินที่อยู่ด้านข้างเห็นดังนั้น ในใจคิดเพียงแค่อยากจะช่วยแก้ปัญหาทุกอย่างของหลินหว่านเอ๋อร์ให้มากที่สุด ดังนั้นจึงกล่าว: “คุณหลินวางใจ กลับไปผมจะให้ตระกูลซูสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์สักที่ แล้วก็เพิ่มเฮลิคอปเตอร์อีกสักลำ ต่อไปคุณอยากจะมาที่นี่ ก็สามารถบินนั่งเครื่องบินส่วนตัวของตระกูลซูจากเมืองจินหลิงมาที่สนามบินผูเอ่อร์ได้โดยตรง ไม่ต้องออกสนามบินก็สามารถเปลี่ยนขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรงมาที่นี่ได้เลย ตอนขากลับก็เช่นเดียวกัน ทำให้กระบวนการคมนาคมเป็นแบบปิด ต่อให้องค์กรพั่วชิงจะหยุดจำศีล ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเจอคุณ ถึงตอนนั้น คุณก็จะมาที่นี่จากเมืองจินหลงได้บ่อยๆแล้ว”
หลินหว่านเอ๋อร์อึ้งไปเล็กน้อย เอ่ยปากกล่าว: “ข้าน้อยยังคิดว่า คุณชายซื้อที่นี่เพื่อข้าน้อยมาด้วยความยากลำบาก เป็นเพราะต่อไปอยากให้ข้าน้อยใช้ชีวิตอยู่ที่นี่”
เย่เฉินรีบกล่าว: “อย่าซิ จัดการอู๋เฟยเยี่ยนกับองค์กรพั่วชิง ผมคนเดียวเกรงว่าความสามารถไม่พอ คุณหลินมีความเข้าใจต่อองค์กรพั่วชิงลึกซึ้ง ถ้าหากสามารถอยู่ที่เมืองจินหลิงตลอดไป จะต้องสามารถให้ความช่วยเหลือผมได้มาก ส่วนที่นี่ ผมจะให้คนรีบเร่งแก้ไข ถึงเวลานั้นค่อยเปลี่ยนคนจำนวนหนึ่งของที่นี่ หลังจากแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว คุณหลินก็สามารถมาที่นี่ได้บ่อยๆ”
หลินหว่านเอ๋อร์ดีใจ อดไม่ได้ที่จะยิ้มจางๆ กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน: “ขอบคุณคุณชายที่เป็นห่วง! สามารถช่วยแบ่งเบาภาระคุณชายได้ เป็นความโชคดีของข้าน้อย!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...