เย่เฉินกับหลินหว่านเอ๋อร์ผ่านการขับรถมาสองชั่วโมง มาถึงเชิงเขาของสระสวรรค์ยู่หลงแล้ว ที่นี่มาเส้นทางขึ้นเขาสายหนึ่ง สามารถขับขึ้นเขาได้โดยตรง มาถึงหมู่บ้านหลายแห่งทางฝั่งเหนือของสระสวรรค์
เส้นทางสายนี้ ก็เป็นเส้นทางสายเดียวที่หมู่บ้านหลายแห่งนั้นเชื่อมกับโลกภายนอก
สิบสองปันนาตั้งอยู่ในที่ราบสูง ระดับความสูงเฉลี่ยอยู่ที่หนึ่งพันห้าร้อยเมตรโดยประมาณ สองคนขับรถขึ้นเขา ระดับความสูงโดยเร็วก็เปลี่ยนเป็นสองพันเมตรแล้ว เดิมทีสภาพแวดล้อมของสิบสองปันนาก็ใกล้เคียงกับยุคแรกเริ่ม แล้วบวกกับระดับความสูง ดังนั้นท้องฟ้าเหนือศีรษะของทั้งสองคนราวกับว่าเต็มไปด้วยดวงดาว ช่างงดงามอย่างมาก
หลินหว่านเอ๋อร์อารมณ์ดีอย่างมาก เธอเปิดหน้าต่างรถออก หมอบอยู่บนขอบหน้าต่างยื่นศีรษะออกไปดูดาวบนท้องฟ้า ราวกับว่าเป็นเด็กสาวที่ปิดเทอมภาคฤดูร้อนแล้วกลับมายังบ้านเกิดบ้านของคุณยาย บนใบหน้ามีรอยยิ้มอันมีความสุข สีหน้าที่แสดงออกมาก็มีความหลงใหลอย่างมาก
เย่เฉินไม่เพียงถูกวิวทิวทัศน์อันนี้ทำให้ประทับใจ อาศัยอยู่ในเมืองที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กมาเป็นเวลานาน ทุกวันเงยหน้าขึ้นไป ดวงดาวที่สามารถมองเห็นได้ไม่กี่สิบดวง บางครั้งก็มีเพียงแค่ไม่กี่ดวง
แต่อยู่ที่นี่ หมู่ดาวที่อยู่บนท้องฟ้านับไม่ถ้วน โครงร่างของทางช้างเผือกชัดเจนอย่างมาก ทำให้คนหลงใหล
หลังจากรถเลี้ยวผ่านทางโค้งหักศอกมา สระสวรรค์ที่ถูกห้อมล้อมด้วยขุนเขาหลายลูก ชัดเจนมากปรากฏอยู่ที่เบื้องหน้าแล้ว
สระสวรรค์ที่เป็นประกายระยิบระยับ เหมือนดั่งกระจก สะท้อนดวงดาวที่เต็มท้องฟ้า แป๊บเดียวทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงบอันนี้ราวกับว่ามีชีวิตชีวาขึ้นมาแล้ว เบื้องหน้าถึงแม้ว่าจะเป็นตอนกลางคืนแล้ว แต่เย่เฉินก็ยังรู้สึกได้อย่างชัดเจน ทัศนียภาพที่เบื้องหน้า กับภาพทัศนียภาพในตอนนั้นของหลินหว่านเอ๋อร์ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะหรือว่าความมีเสน่ห์ ต่างเหมือนเดิมแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง
หลินหว่านเอ๋อร์มีความสุขอย่างมากแล้ว เธอมองดูลักษณะโครงสร้างของสระสวรรค์ อดที่จะพูดกับเย่เฉินอย่างถอดถอนใจไม่ได้:“สระสวรรค์ราวกับว่าไม่เปลี่ยนแปลงไปสักนิด แม้แต่รูปร่างต่างก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ ยังคงเหมือนกับเมื่อก่อน!”
เย่เฉินถามเธอ:“คุณยังสามารถหาตำแหน่งของมารดาแห่งชาผูเอ่อร์เจอได้ไหม?”
“ได้!”หลินหว่านเอ๋อร์พยักหน้า ชี้ไปยังขอบสระสวรรค์ที่ไกลออกไป พูดกับเย่เฉินว่า:“มารดาแห่งชาผูเอ่อร์อยู่ที่ฝั่งเหนือของสระสวรรค์ มีระยะห่างจากขอบสระสวรรค์ประมาณหนึ่งร้อยเมตร”
พูดไป เธอชี้ไปยังตำแหน่งสูงของขอบสระสวรรค์ฝั่งเหนือ พูดกับเย่เฉินว่า:“ที่นั่นมีโครงร่างของบ้านเรือนอยู่เลือนรางนั่นก็คือหมู่บ้านในปีนั้น ตอนนี้เหมือนกับว่ายังมีอยู่ เพียงแต่ว่าตามบ้านเรือนแทบจะไม่ค่อยมีแสงไฟอะไรแล้ว เป็นไปได้ว่าต่างย้ายออกไปพอสมควรแล้ว”
เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า:“งั้นพวกเราก็นำรถจอดเอาไว้ที่หน้าหมู่บ้าน หลังจากนั้นค่อยเดินลงไปเถอะ”
“ค่ะ!”หลินหว่านเอ๋อร์นั้นอดใจไม่ไหวแล้ว สามร้อยปีมานี้ใช้ชีวิตล่องลอยไปเรื่อย เธอชื่นชอบที่สุด และก็คิดถึงที่สุด ก็คือที่นี่
เย่เฉินทำตามคำแนะนำของหลินหว่านเอ๋อร์ นำเอารถจอดเอาไว้ที่ที่ห่างจากปากทางเข้าหมู่บ้านหนึ่งร้อยเมตรด้านโน้น หลังจากนั้นพกพาอุปกรณ์ในการตั้งแคมป์ กับหลินหว่านเอ๋อร์ จากขอบถนนเดินลงเนินเขา มาถึงบนขอบสระสวรรค์ที่อยู่ด้านล่าง
หลินหว่านเอ๋อร์อาศัยแสงจันทร์กับดวงดาว อยู่บนขอบสระสวรรค์เดินมาประมาณห้าร้อยเมตรแล้ว ในที่สุดก็หาตำแหน่งของมารดาแห่งชาผูเอ่อร์ในปีนั้นเจอแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
อ่านต่อได้ตรงไหนครับ...
สงสารหวังเจิ้งกาง หลังจากมอบบ้านมอบรถให้เย่เฉิน ก้ไม่เห็นเยเฉินพูดถึงเลย เหมือนเป็นตัวประกอบ ตอนแรกๆ 555...
รอตอนต่อไปอยู๋นะครับกำลังสนุกเลย...
รออัพเดตตอนใหม่อยู่นะครับ กำลังสนุกเลย...
ไม่มีอัพเดตแล้วหรือครับ กำลังสนุกเลย...
99% เว็บนี้แปลใกล้เคียงคำพูดของคนไทยที่สุด เสียดายเขาไม่แปลต่อให้ เว็บอื่นเขาไปไกลแล้วแต่แปลเข้าใจยากหน่อย ต้องใช้การเดาเข้าช่วยถึงพอจะเข้าใจ มีเว็บที่เป็นภาษาจีนล้วน ลองใช้โปรแกรมแปลภาษาดู ก็เหมือนเว็บอื่นๆที่ว่า ผลสุดท้ายก็กลับมาอ่านเว็บนี้ต่อ คิดว่าถ้าอ่านจนจบที่เขาแปล ก็คงไปหาอ่านเว็บอื่นต่อ เดาเอา😁...
อัพตอนต่อไปหน่อยครับกำลังสนุกเลย...
il semble que c'est leur fin d'histoire comme ça . merci pour ce temps de lecture,nous aurions préféré un lien d'achat complète du livre hélas . il temps de faire autre chose désormais...
สงสัยไม่ได้อ่านต่อแล้ว...แต่งดีมากเลยคัฟ ได้อรรถรถ...
สงสัยจะไม่ได้อ่านต่อแล้ว กำลังสนุกเชี่ยว...