“ก็ใช่น่ะสิ……”เย่เฉินถอนหายใจแล้วพูด: “ตำราเก้าเสวียนเทียนเหมือนหนังสือคู่มือขั้นต้นที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกบำเพ็ญตนมากกว่า สิ่งที่บันทึกอยู่ภายในมีเยอะมากถึงมากที่สุด แต่เนื้อหาส่วนมากกลับไม่ค่อยมีความเกี่ยวข้องกับการบำเพ็ญตนมากเท่าไหร่นัก ในทางตรงกันข้ามกลับมีความสัมพันธ์กับวิถีบู๊ลึกซึ้งมาก ในจำนวนทั้งหมดแค่วิชาบู๊ที่สมบูรณ์ครบถ้วนก็มีเป็นสิบประเภทแล้ว แต่กลับไม่มีวิชาบำเพ็ญตนที่สมบูรณ์ครบถ้วน……”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หลินหว่านเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า: “นี่เหมือนกับการเขียนความรู้ในตำราเรียน และความรู้นอกหลักสูตรระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นทั้งหมดลงในหนังสือเล่มเดียว จากนั้นค่อยเพิ่มเนื้อหาระดับมหาวิทยาลัยปีหนึ่งเข้าไปอีกนิดหนึ่ง สำหรับระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาแล้ว หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เยี่ยมยอดมาก แต่กลับไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อนักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย”
“ใช่แล้ว”เย่เฉินพยักหน้า แล้วพูดต่ออีกว่า: “ประเด็นคือฉันรู้จักแค่ระดับมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง โลกทัศน์ประสบการณ์ก็เป็นเพียงระดับปีหนึ่ง ฉันไม่รู้ว่ามหาวิทยาลัยมีทั้งหมดกี่ระดับ และไม่รู้ด้วยว่าหลังจากจบมหาวิทยาลัยแล้วคืออะไรต่อ หลังจากจบมหาวิทยาลัยแล้วอาจจะยังมีปริญญาโท ปริญญาเอก นักวิชาการ และอาจจะมีผู้ได้รับรางวัลโนเบล แต่ฉันกลับไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลย”
หลินหว่านเอ๋อร์พูดพึมพำ: “คนที่สามารถทิ้งตำราเก้าเสวียนเทียนเอาไว้ได้นั้น ไม่มีทางเป็นเพียงนักศึกษาปีหนึ่งแน่นอน แต่เขากลับจงใจบันทึกเนื้อหาของนักศึกษาหลังปีหนึ่งลงไปภายใน คาดว่าก็น่าจะมีจุดประสงค์ที่ทำเช่นนี้เหมือนกัน”
“ใช่”เย่เฉินพูด: “ก่อนองค์กรพั่วชิงยังไม่ปรากฏ ฉันคิดมาโดยตลอดเลยว่าเนื้อหาที่อยู่ในตำราเก้าเสวียนเทียนเป็นทั้งหมดของปราณทิพย์ ในส่วนของการเปิดจุดหนีว๋าน เนื่องจากมันแค่พูดถึงโดยคร่าว ๆ อย่างคลุมเครือ ทำให้ฉันรู้สึกว่าเมื่อเปิดจุดหนีว๋านได้แล้ว ก็จะสามารถโบยบินอยู่กลางท้องฟ้า แต่หลังจากองค์กรพั่วชิงปรากฏ ฉันถึงจะค่อย ๆ เข้าใจว่าการเปิดจุดหนีว๋านเป็นเพียงขั้นแรกของการฝึกฝนเท่านั้น ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับอู๋เฟยเยี่ยน แม้เธอจะเปิดจุดหนีว๋านออกแล้ว แต่ก็ไม่สามารถยกระดับอายุขัยของตัวเองให้มากกว่าห้าร้อยปีได้อยู่ดี แค่มองจากจุดนี้ก็สามารถดูออกแล้วว่า ศักยภาพของเธอแตกต่างจากเมิ่งฉางเชิงเมื่อปีนั้นอย่างลิบลับเลย”
หลินหว่านเอ๋อร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยปากพูด: “ดูท่าหากคุณชายต้องการพัฒนาขึ้นอีกขั้น ยังจำเป็นต้องออกไปแสวงหาโอกาสอื่น ๆ ด้วยตัวเอง”
“โอกาส?”เย่เฉินถามเธอ: “เธอหมายความว่าควรออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากกว่านี้หรือ?”
“ใช่ค่ะ”หลินหว่านเอ๋อร์ผงกหัว แล้วพูดอย่างสุขุมสงบ: “บ่าวรู้สึกว่าสำหรับคุณชายแล้ว จินหลิงก็เป็นเพียงชายหาดน้ำตื้นเท่านั้น แม้คุณชายจะเป็นมังกรที่ทลายสถานการณ์อับจนในชายหาดน้ำตื้นได้แล้ว แต่สุดท้ายชายหาดน้ำตื้นก็ยังเป็นชายหาดน้ำตื้นอยู่ดี และมังกรก็ยังคงติดอยู่ในชายหาดน้ำตื้น แค่ไม่ถูกพันธนาการอยู่ที่นี่ แต่ยินดีที่จะอยู่ที่นี่ อยู่ในจินหลิงมาโดยตลอด ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องดีต่อเส้นทางแห่งการบำเพ็ญตนของคุณชายแน่นอน”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เย่เฉินก็นึกถึงอาจารย์ของว่านพั่วจวิน ชิวจื้อหยวนอย่างอดไม่ได้ รวมไปถึงนิทานห้าร้อยปีก่อนเมิ่งฉางเชิงจะการบำเพ็ญตนที่นายหญิงใหญ่เจียงเล่าให้เขาฟัง
พอพูดจบ หลินหว่านเอ๋อร์ก็พูดอีกว่า: “อันที่จริงการแสวงหาโอกาสก็เหมือนหลังจากปัจจัยไม่แน่นอนรอบกายค่อย ๆ ได้รับการยืนยันแล้ว ก็ทำได้เพียงเดินทางไปสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย แล้วตามหาปัจจัยใหม่ ๆ ที่ไม่แน่นอน จากนั้นค่อยค่อย ๆ ไขปริศนา ดูว่าสุดท้ายจะมีดอกผลที่ตนต้องการหรือไม่”
“ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับกล่องสุ่มในร้านค้าร้านหนึ่งถูกเปิดหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีสินค้าที่ตนต้องการอยู่ดี งั้นจึงทำได้เพียงไปซื้อกล่องสุ่มในร้านค้าใหม่ กระทั่งเจอสินค้าที่ตัวเองต้องการ”
เย่เฉินพยักหน้าเห็นด้วย แล้วเอ่ยปากพูด: “ฉันเจอนายหญิงใหญ่เจียงและได้รับเถากระดูกวิหค รวมไปถึงหลังจากเจอเธอก็ได้รับแหวนวงนั้นมา ซึ่งทุกอย่างล้วนเป็นโอกาสที่ได้รับหลังจากออกจากจินหลิง……”
หลินหว่านเอ๋อร์พูด: “ในเมื่อเป็นแบบนี้ คุณชายก็ยิ่งต้องออกไปชมโลกกว้างบ่อย ๆ แล้วล่ะค่ะ”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...