เมื่อหลินหว่านเอ๋อร์และเย่เฉินขับรถออกมาจากสนามบินเย่นจิง เร่งเดินทางมาถึงคฤหาสน์หลังเก่าตระกูลเย่ ถังซื่อไห่และคุณท่านเย่โจงฉวนก็รอคอยอยู่ในคฤหาสน์หลังเก่าแล้ว
ถังซื่อไห่เป็นคนไปรับเย่โจงฉวนมา หลังจากเขาออกจากยงเหอกง ก็ไปรับเย่โจงฉวนที่วิลล่าตระกูลเย่แล้วเดินทางมาคฤหาสน์หลังเก่าทันที
เย่โจงฉวนมักจะหาโอกาสกระชับความสัมพันธ์กับหลานชายตนเย่เฉินอยู่เสมอ และทำให้ทั้งสองสนิทกันมากยิ่งขึ้น แต่ทว่าแม้นเย่เฉินจะเป็นผู้ควบคุมตระกูลเย่แล้ว แต่กลับไม่ค่อยได้กลับเย่นจิงเลย ปีปีหนึ่งเขาที่เป็นปู่ก็ได้เจอหน้าเย่เฉินแค่ไม่กี่ครั้งเอง
ครั้งนี้เมื่อได้ยินว่าเย่เฉินจะมาเย่นจิง เย่โจงฉวนจึงต้องมีความสุขเป็นธรรมดาอยู่แล้ว ตัวคนยังมาไม่ถึงคฤหาสน์หลังเก่า ก็ได้กำชับพ่อครัวแม่ครัวเตรียมงานเลี้ยงบ้านแล้ว จะทำการต้อนรับเย่เฉินในคฤหาสน์หลังเก่า
เมื่อเย่เฉินมาถึงคฤหาสน์หลังเก่า เย่โจงฉวนถึงขั้นออกมาต้อนรับที่ลานหน้าบ้านพร้อมกับถังซื่อไห่เลย
ทันทีที่เห็นเย่เฉินลงมาจากรถ เขาก็พูดอย่างตื่นเต้นดีใจเล็กน้อยว่า: “เฉินเอ๋อ วันนี้ทำไมจู่ ๆ หนูถึงมาเย่นจิงได้ล่ะ?”
เย่เฉินตอบกลับตามความจริง: “ปู่ครับ ผมกลับมาดูคฤหาสน์หลังเก่าน่ะครับ และแวะมาจัดสิ่งของต่าง ๆ ที่พ่อแม่ผมทิ้งไว้ด้วย”
เย่โจงฉวนผงกหัวหงึก ๆ แล้วพูดออกมาตรง ๆ โดยไม่ต้องหยุดคิด: “ไม่เคยมีคนเข้าไปแตะต้องห้องนอนของพ่อแม่หนูเลย สภาพยังเป็นเหมือนเก่าเลย”
และในเวลานี้เอง ประตูรถตำแหน่งข้างคนขับก็เปิดออก หลินหว่านเอ๋อร์“สาวสวยดั้งเดิม”ที่ใบหน้าดูมีอายุไม่ถึงสิบเจ็ดแปดก็เดินลงมาจากรถ มองหน้าเย่โจงฉวนแล้วพูดอย่างเคารพ: “สวัสดีค่ะคุณปู่ หนูชื่อหลินเสี่ยวหว่าน”
เย่โจงฉวนมองหน้าหลินหว่านเอ๋อร์ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความแปลกใจ
เขาคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าครั้งนี้เย่เฉินจะพาสาวน้อยคนหนึ่งกลับบ้าน
แถมสาวน้อยคนนี้ยังไม่ใช่ภรรยาของเย่เฉิน ซูรั่วหลี และไม่ใช่กู้ชิวอี๋ที่หมั้นกับเย่เฉินด้วย
สิ่งที่ทำให้เขายิ่งคิดไม่ถึงคือสาวน้อยคนนี้เด็กขนาดนี้……
อย่างไรเสียเย่เฉินก็มีอายุยี่สิบแปดเก้า ใกล้จะสามสิบแล้ว ส่วนรูปร่างลักษณะของสาวน้อยคนนี้ก็ดูมีอายุแค่สิบเจ็ดแปดเท่านั้น ช่วงระยะความต่ำของอายุต่างกันมากไปหน่อยจริง ๆ
เย่โจงฉวนถอดหายใจโล่งอก
เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าในสังคมนี้ ปัญหาอุปสรรคในช่วงอายุของผู้หญิงจะมีสองช่วง หนึ่งคืออายุ 14 ซึ่งนี่คือปัญหาอุปสรรคด้านกฎหมาย ส่วนอีกช่วงหนึ่งคืออายุ 18 ซึ่งเป็นปัญหาอุปสรรคด้านคุณธรรมศีลธรรม
สำหรับคนธรรมดาทั่วไปแล้ว ขอแค่ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคด้านกฎหมาย เรื่องนี้ก็จะถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนของอุปสรรคด้านคุณธรรมศีลธรรมนั้น ก็ขึ้นอยู่กับมาตรฐานคุณธรรมศีลธรรมของแต่ละคน
แต่ว่าสำหรับบุคคลที่มีหน้ามีตาแล้ว แค่ก้าวข้ามผ่านอุปสรรคด้านกฎหมายยังไม่พอ ยังจำเป็นต้องก้าวข้ามผ่านอุปสรรคด้านคุณธรรมศีลธรรมด้วย มิเช่นนั้นก็จะตกเป็นประเด็นนินทาของผู้คน ถูกผู้คนประณาม
พวกลูกเศรษฐีที่อุปนิสัยจองหองพองขน เปลี่ยนแปลงแฟนบ่อยอย่างกับเปลี่ยนถุงเท้าก็ไม่กล้าท้าทายปัญหาอุปสรรคทั้งสองขั้นนี้เช่นกัน เนื่องจากทันทีที่ทำแบบนั้นละก็ ต้องถูกผู้คนโจมตีทั้งวาจาและบทความแน่นอน
เย่โจงฉวนก็กลัวเหมือนกันว่าหลินหว่านเอ๋อร์จะยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถ้าเกิดเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป อาจจะส่งผลกระทบต่อเย่เฉินและตระกูลเย่ แต่ทว่าเมื่อได้ยินหลินหว่านเอ๋อร์บอกว่าตัวเองมีอายุครบ 18 แล้ว เขาจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาไม่น้อยเลย
และในเวลานี้เอง ถังซื่อไห่ที่นิ่งเงียบมาโดยตลอดก็ก้าวขาขึ้นมาหนึ่งก้าว แล้วพูดอย่างเคารพนอบน้อม: “คุณชายครับ คุณท่านให้คนจัดเตรียมงานเลี้ยงเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ เชิญคุณและคุณหลินเข้าไปรับประทานอะไรก่อนได้เลยครับ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...