เย่โจงฉวนก็ดึงสติกลับมาได้เช่นกัน ก่อนจะรีบพูดว่า: “ใช่ ๆ เฉินเอ๋อ หนูไม่กลับเย่นจิงสักที ได้ยินมาว่าคืนนี้หนูเดินทางมากะทันหัน ปู่เลยให้คนเตรียมข้าวปลาอาหารไว้ เดี๋ยวสักพักหนูอยู่เป็นเพื่อนปู่สักแก้วสองแก้วนะ”
“ได้เลยครับ”เย่เฉินพยักหน้าเบา ๆ แล้วพูด: “งั้นเราก็เข้าไปกินไปด้วยพูดคุยกันไปด้วยดีกว่าครับ”
เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์หลังเก่าที่เคยใช้ชีวิตอยู่ช่วงวัยเด็ก เย่เฉินก็รู้สึกทั้งคุณเคยและแปลกหน้า
มาตรแม้นว่าสภาพของคฤหาสน์จะเป็นเหมือนเก่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่ครั้นเย่เฉินพักอาศัยอยู่ที่นี่ คฤหาสน์หลังนี้กลับคึกคักเสียงดังเอะอะมาก
เมื่อปีนั้น ในตระกูลเย่คุณพ่อของเย่เฉิน ฉางอิงมีชื่อเสียงโด่งดังมาก
แม้เย่โจงฉวนจะยังไม่ได้ถ่ายทอดตำแหน่งผู้นำตระกูลให้เขาอย่างเป็นทางการ แต่เขาในเวลานั้นก็เป็นผู้ควบคุมตระกูลเย่ที่แท้จริงแล้ว
ภายใต้การนำพาของเขา ตระกูลเย่มีขวัญกำลังใจที่ฮึกเหิม ทั้งตระกูลเย่ก็ถูกเขาขับเคลื่อนด้วย ทำให้รักใคร่สมานฉันท์กันมาก
ตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นเย่ฉางโคงหรือเย่ฉางหมิ่น ต่างก็ยินดีเป็นผู้สนับสนุนอยู่ข้างกายฉางอิง เนื่องจากพวกเขารู้อยู่ว่าการเป็นตัวประกอบอยู่ข้างกายฉางอิง บอกผลและผลประโยชน์ที่ได้รับมันดีกว่าการทำทุกอย่างด้วยตัวเองมาก ๆ
ดังนั้นทุกคนจึงมีความสุขและผ่อนคลายกันมาก แค่รอฉางอิงจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ ให้ก็เพียงพอแล้ว
แต่ทว่าตั้งแต่ฉางอิงเสียชีวิตเป็นต้นไป ตระกูลเย่ก็สูญเสียกุญแจสำคัญที่ทำให้คนทั้งตระกูลสมานฉันท์กัน ทุกคนเริ่มไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน เย่ฉางโคงคาดหวังว่าสักวันตนจะสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำตระกูลต่อ ส่วนเย่ฉางหมิ่นและคนอื่น ๆ กลับเฝ้าหวังที่จะแยกตัวออกมาจากตระใหญ่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนของตัวเองเอาไว้
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตระกูลเย่ก็ไม่มีความสามัคคีสมานฉันท์ และภาพฉากที่ดูเจริญรุ่งเรืองอย่างปีนั้นอีกต่อไป
ช่วงไม่กี่ปีถ้าผ่านมานี้ จากการที่วิลล่าตระกูลเย่ถูกก่อสร้างขึ้นมา สมาชิกส่วนใหญ่ของตระกูลเย่ก็แทบจะย้ายออกไปจากคฤหาสน์หลังเก่าหลังนี้แล้ว เหลือแค่คนบางส่วนที่คอยดูแลรักษาอยู่ที่นี่ ดังนั้นปัจจุบันมันจึงดูเงียบเหงาเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด
พวกเขามาถึงห้องอาหาร ซึ่งบนโต๊ะถูกว่างเต็มไปด้วยข้าวปลาอาหารที่หลากหลายแล้ว
“ใช่ครับ!”ถังซื่อไห่พูดโพล่งออกมา: “รวมไปถึงคนทั้งทีมสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ก็ล้วนเป็นคนที่คุณพ่อคุณคัดเลือกแล้วทำการบ่มเพาะโดยเฉพาะเลยครับ ผู้อำนวยการจางก็เป็นลูกน้องมากความสามารถคนหนึ่งของพ่อคุณเช่นกันครับ”
เย่เฉินอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างทอดถอนใจ: “ดูท่าพ่อคาดการณ์ได้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่าสักวันองค์กรพั่วชิงจะบุกฆ่าเข้ามา……”
พอพูดจบ เย่เฉินก็ใช้นิ้วชี้ไปทางที่ว่างที่อยู่ข้างกายแล้วพูดกับถังซื่อไห่: “พ่อบ้านถัง มานั่งกินด้วยกันหน่อยเถอะครับ ผมจะดื่มกับคุณสักแก้วสองแก้ว”
ถังซื่อไห่ยังคิดที่จะบ่ายเบี่ยง เย่โจงฉวนที่อยู่ข้าง ๆ จึงเอ่ยปากพูด: “ซื่อไห่ ที่นี่ไม่มีคนนอกอะไร นายไม่ต้องระมัดระวังขนาดนี้ เฉินเอ๋อเจริญเติบโตขึ้นมาได้พร้อมมีการสนับสนุนอยู่อย่างห่าง ๆ จากนาย นายจึงต้องน้อมรับการคารวะเหล้าจากเขาอยู่แล้ว”
ถังซื่อไห่เห็นว่าทั้งปู่และหลานต่างให้ตัวเองนั่ง ดังนั้นเขาจึงไม่บ่ายเบี่ยงอีก นั่งลงข้างกายเย่เฉินอย่างเคารพนอบน้อม
เย่เฉินได้กลิ่นธูปจาง ๆ ตอนนั้นจึงมองหน้าถังซื่อไห่พลางถามอย่างเรื่อยเปื่อย: “วันนี้พ่อบ้านถังไปวัดมาเหรอครับ?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...