อานเฉิงซีเคยค่อนข้างเป็นกังวลขั้นตอนการเติบโตของเย่เฉิน การหล่อหลอมของคุณธรรม อุปนิสัยและทัศนคติสามด้าน
เธอในฐานะที่เป็นคุณแม่ ย่อมหวังให้เย่เฉินได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด สภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด การนำพาที่ดีที่สุด
แต่สภาพความเป็นจริงก็คือ เธอทำได้แค่เพียงมองดูเย่เฉินอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเติบโตมาอย่างยากลำบากพร้อมกันกับเด็กคนอื่นๆอย่างเงียบๆ ทำได้แค่เพียงจ้องมองเย่เฉินจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายก็หยุดเรียนด้วยตนเอง มุ่งหน้าไปทำงานที่ไซต์ก่อสร้าง แต่กลับไม่สามารถยื่นมือเข้าก้าวก่ายอะไรใดๆได้
เวลาผ่านไปไม่นานนัก เธอก็กังวลว่าเย่เฉินอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนั้น ทัศนคติสามด้านจะบิดเบือนหรือไม่ จะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวเกินไปหรือไม่ ขี้โกงเกินไปหรือไม่ แต่โชคดีที่เย่เฉินเป็นคุณชายของตระกูลที่มีทั้งเงินและอิทธิพลในตอนเด็ก และภายหลังมีสถานะเป็นเด็กกำพร้าฐานะยากจน เพื่อทัศนคติสามด้านของตนเองถึงตามหาจุดตรงกลางได้อย่างดีมาก
นี่ทำให้เขาไม่เพียงรับรองว่าเขามีทัศนคติสามด้านที่ปกติกับความรู้สึกเป็นธรรมที่ควรจะมี ในเวลาเดียวกันก็ทำให้เขาหลบเลี่ยงมาตรฐานศีลธรรมที่เข้มงวดกับตัวมากจนเกินไปแบบคุณพ่อของเขานั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ
ในบางระดับ ได้ชดเชยนิสัยที่บกพร่องของเย่ฉางอิงเป็นอย่างมากแล้ว
อย่างเช่นตำแหน่งผู้นำตระกูลตระกูลเย่
ขั้นตอนการสืบช่วงต่อผู้นำตระกูลแบบปกติ ตามเหตุผลควรรอหลังจากคุณท่านเย่โจงฉวนตัดสินใจเกษียณด้วยตนเอง โดยเย่โจงฉวนชี้บอกว่าใครจะเป็นผู้สืบช่วงต่อด้วยตนเอง ถ้าหากลูกๆของเขามีข้อโต้แย้ง ก็จะต้องคิดหาหนทางทำให้คุณท่านเปลี่ยนใจ คนที่จิตใจโหดเหี้ยมกว่า อาจจะคิดหาหนทางกำจัดผู้สืบช่วงต่อคนเดิมทิ้งก่อน จากนั้นตนเองค่อยขึ้นรับตำแหน่ง
วงศ์ตระกูลที่ร่ำรวยแบบนี้ในปัจจุบัน เช่นเดียวกันกับบรรดาศักดิ์ชั้นสูงในสมัยโบราณ
แต่เย่เฉินกลับไม่ใช้วิธีการแบบนี้กับคนตระกูลเย่
เขาไม่เพียงไม่ได้เดินไปตามขั้นตอนประเพณีที่สืบทอดกันมา ถึงขนาดแม้แต่ตอนที่ประคับประคองตนเองขึ้นรับตำแหน่ง ก็ไม่ได้บอกกล่าวกับคนตระกูลเย่ไว้ก่อน
เขาเพียงแค่บอกกล่าวว่านพั่วจวินคร่าวๆ ต่อหน้าคนตระกูลเย่ ตนเองเพิ่งจะรับช่วงต่อเรื่องทั้งหมดของตระกูลเย่ ขาดคนทำงานพอดี ในเมื่อว่านพั่วจวินอยากจะสวามิภักดิ์ต่อตน ถ้าอย่างนั้นก็จะต้องแสดงความจงรักภักดีต่อตน
คำพูดประโยคเดียว ไม่เพียงรับทั้งสำนักว่านหลงเอาไว้ ยังบอกกับคนทั้งหมดตรงๆอีกด้วยว่า ตนได้เป็นผู้นำตระกูลของตระกูลเย่แล้ว ไม่ให้โอกาสใดๆแก่คนตระกูลเย่ในการโต้ตอบหรือครุ่นคิดโดยสิ้นเชิง ยิ่งไปกว่านั้นยังคร้านที่จะพูดการตัดสินใจของตนเองกับพวกเขาด้วยตนเอง แต่ทว่าบอกผลลัพธ์ให้แก่บุคคลที่สามไปตรงๆ ให้พวกฟังอยู่ข้างๆก็พอ
ในเวลาเดียวกัน
คฤหาสน์หลังเก่าตระกูลเย่
หลังจากที่เย่เฉินทานข้าวกับคุณท่านเสร็จ ก็พูดกับคุณท่านและถังซื่อไห่อย่างอดรนทนไม่ไหว: “คุณปู่ พ่อบ้านถัง พวกคุณทานกันก่อน ผมจะไปดูที่ห้องของคุณพ่อกับคุณแม่สักหน่อย”
ถังซื่อไห่กล่าวอย่างนอบน้อม: “คุณชาย ต้องการให้กระผมไปเป็นเพื่อนไหมครับ?”
“ไม่ต้องหรอก”เย่เฉินโบกมือ กล่าว: “ผมกับเสี่ยวหว่านไปด้วยกัน พวกคุณไม่ต้องสนใจพวกเราหรอก”
หลินหว่านเอ๋อร์ก็ลุกขึ้นเช่นกัน กล่าวอย่างมีมารยาท: “คุณปู่เย่ พ่อบ้านถัง พวกคุณทานกันก่อน”
พูดจบ เธอก็เดินออกจากห้องอาหารตามเย่เฉิน เดินมุ่งหน้าไปยังเรือนที่คุณพ่อคุณแม่ของเย่เฉินอาศัยอยู่ในตอนนั้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...