“ใช่...”เย่เฉินพยักหน้าด้วยความหนักแน่น: “ผมมั่นใจ! คนคนนี้ชื่อว่าโจวเหลียงเวิ่น และร้านของโบราณเมืองจินหลิงร้านนั้นชื่อว่าจี๋ชิ่งถัง เป็นอุตสาหกรรมของตระกูลซ่งแห่งเมืองจินหลิง ตอนนั้นกิจการของจี๋ชิ่งถังไม่นับว่าดี ท่ามกลางอุตสาหกรรมอันใหญ่โตของตระกูลซ่ง เพียงแต่เป็นส่วนเกินที่ไม่ค่อยสะดุดตาเท่านั้น ผู้ที่รับผิดชอบจี๋ชิ่งถังธุรกิจนี้ ก็คือซ่งหวั่นถิงผู้นำตระกูลของตระกูลซ่ง และโจวเหลียงเวิ่นคนคนนี้ คือผู้จัดการจี๋ชิ่งถังในตอนนั้น......”
พูดถึงตรงนี้ เย่เฉินรู้สึกว่าแผ่นหลังของตนเองเปียก
ก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าตนเองได้รับ ทั้งหมดเป็นเพราะโชคดี
จนกระทั่งช่วงเวลาก่อนหน้านี้ เขาได้ยินน้าชายใหญ่พูดว่าเคยได้รับ เขาคาดเดาว่า กับน่าจะมีความเชื่อมโยงบางอย่างกันอย่างแน่นอน แต่ว่าไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดมาโดยตลอด
ตอนนี้ อยู่ๆเขาพบว่า ผู้จัดการของจี๋ชิ่งถังที่ชื่อว่าโจวเหลียงเวิ่นคนนั้น เมื่อยี่สิบปีก่อน จะเป็นเพื่อนรักของคุณพ่ออย่างคาดไม่ถึง
และแจกันลายครามใบนั้นตอนนั้น ก็คือจากมือของเขา มอบให้แก่มือของเซียวฉางควนพ่อตาของตน
ตอนนั้น พ่อตากับเขาอยู่ด้วยกันที่ห้องVIPแต่ตนรออยู่ที่ประตู ดังนั้นด้านในเกิดเรื่องอะไรขึ้น ตนเองก็ไม่ได้เห็นกับตา แต่ว่าสามารถทราบได้จากการสาธยายของพ่อตาในตอนหลัง ตอนนั้นโจวเหลียงเวิ่นหยิบแจกันลายครามใบนั้นออกมาจากข้างในห่อที่สวยงาม อีกทั้งยื่นไปที่มือของพ่อตา แต่พ่อตามือลื่น จึงทำให้แจกันใบนั้นหล่นลงบนพื้น......
ตอนนี้ดูเหมือนว่า มีโจวเหลียงเวิ่นคนนี้สอดแทรกมาในนี้ นี่ไม่มีทางเป็นความบังเอิญอย่างแน่นอน
ดังนั้น เย่เฉินจึงควักโทรศัพท์ออกมาโดยไม่รู้ตัว รีบโทรศัพท์ไปหาซ่งหวั่นถิง
ตอนนี้ คนที่เข้าใจเส้นทางของโจวเหลียงเวิ่นคนนี้เพียงคนเดียว เกรงว่าก็คือซ่งหวั่นถิง!
โทรศัพท์โทรติดอย่างรวดเร็ว
ได้รับโทรศัพท์ของเย่เฉินตอนกลางคืน ซ่งหวั่นถิงยังมีความดีใจอยู่บางๆ เธอถามด้วยความดีใจเป็นอย่างยิ่ง: “อาจารย์เย่ทำไมถึงได้โทรศัพท์หาหวั่นถิงดึกขนานดี้?”
เย่เฉินระงับความตื่นเต้นภายในใจเอาไว้ เอ่ยปากกล่าวถาม: “หวั่นถิง ผมอยากจะถามว่าผู้จัดการของจี๋ชิ่งถังที่ชื่อโจวเหลียงเวิ่นคนนั้น ตอนนี้ยังทำงานอยู่ที่ตระกูลซ่งไหม?”
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่เฉินรีบถามอีกว่า: “หวั่นถิง ตอนนั้นคุณเป็นคนรับเขาใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”ซ่งหวั่นถิงกล่าว: “ตอนนั้นฉันอยู่ที่ตระกูลซ่งไม่ค่อยได้รับความสำคัญ อีกทั้งยังได้รับการบีบคั้นจากลุงใหญ่และลูกผู้พี่ ดังนั้นในครอบครัวก็เลยนำกิจการของจี๋ชิ่งถังนี้ยกให้ฉัน ตอนนั้นจี๋ชิ่งถังรายได้ไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแล้ว ภายในก็ค่อนข้างวุ่นวาย การสมรู้ร่วมคิดระหว่างพนักงานภายในและภายนอกนั้นร้ายแรงมาก ดังนั้นฉันจึงไล่คนออก หาคนใหม่ชุดหนึ่ง โจวเหลียงเวิ่นก็มาสมัครงานในตอนนั้น”
เย่เฉินกล่าว: “ตอนนั้นทำไมคุณถึงรับเขา?”
ซ่งหวั่นถิงครุ่นคิด กล่าว: “ตอนแรกคนคนนี้ให้ความรู้สึกที่ดีมากต่อฉัน ค่อนข้างมีความเข้าใจต่อสิ่งของโบราณของตะวันออกและตะวันตก อีกทั้งการวางตัวถ่อมตัวและนอบน้อม มีการศึกษาที่ดี ตอนที่สัมภาษณ์ก็มองออกว่า คนคนนี้ฝีปากดีมาก ถามอะไรก็สามารถตอบได้คล่อง ประกอบกับเงินเดือนที่ขอก็ไม่ได้ไม่มีเหตุผล แต่โดยรวมอัตราส่วนราคาต่อประสิทธิภาพเทียบค่อนข้างมาก ดังนั้นฉันจึงรับเขาเข้าทำงานวันที่สัมภาษณ์วันนั้นเลย”
พูดไป ซ่งหวั่นถิงกล่าวอย่างแค้นเคือง: “เพียงแต่ฉันคิดไม่ถึงว่า สันดานเดิมของคนคนนี้จะแย่ขนาดนี้ วันนั้นไม่เพียงไม่ให้เกียรติพ่อตาของคุณ ยิ่งไปกว่านั้นยังล่วงเกินคุณอีกด้วย แม้แต่ฝีมือการซ่อมแซมอันน่าทึ่งของคุณยังดูไม่ออก ข้อนี้เป็นฉันที่มองคนผิด ยังไงก็ขอให้อาจารย์เย่ยกโทษด้วย......”
เย่เฉินครุ่นคิดภายในใจ: “พอลองคิดดู คนที่ปากของซ่งหวั่นถิงพูดว่าค่อนข้างเข้าใจแจกันลายคราม การวางตัวถ่อมตัวและนอบน้อม มีการศึกษาที่ดี ถึงจะเป็นตัวตนที่แท้จริงของโจวเหลียงเวิ่น สำหรับโจวเหลียงเวิ่นที่โมโหกระหืดกระหอบเพราะแจกันลายครามแตก ตบหน้าพ่อตาของตนทั้งยังพูดจาหยาบคายกับตน นั่นถึงจะเป็นการเสแสร้งของเขา......”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน
สมน้ำหน้าไอฉางควน เหมาะกับหม่าหลันดี ขี้โม้เหมือนกัน ว่าคนที่มีความสามารถว่ากระจอกเหมือนกัน หลงตัวเองเหมือนกัน พูดมาได้ไงมึงกับหานเหมยชิงเป้นคู่ฟ้าประทาน 5555 สมล่ะที่คบกังหม่าหลันได้...
ทั้งที่เป็นผู้ชาย แรงเยอะกว่า ตัวใหญ่ก็ว่า แต่กลัวกับอีหม่าหลันพูดขู่แค่นี้เนี่ยน่ะ ไม่น่าเกิดเป็นผู้ชายเลยมึงไอเชียวฉางควน กูคิดว่าเป็นตุ๊ด ปากบอกรอเหมยชิงมานาน อยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ อยากจะมีเพศสัมพันธ์อยากจะอยู่กับเหมยชิง อยากแต่งงานกะเหมยชิงอีกครั้ง ทั้งที่เหมยชิงยอมกลับมาหาเพื่อมึง แต่มึงกลับไม่กล้าทำไรกะอีหม่าหลันสักอย่าฃ แค่หม่าหลันพูดขู่ว่าจะไปหาเรื่องเหมยชิง แทนที่จะให้เหมยชิงจ้างบอดีการ์ดมา อีหม่าก้ทำไรไม่ได้ล่ะ หรือไอฉางควนปกป้อง สู้กันจริงๆหม่าหลันก้สู้คงไม่ได้หรอก ทำมึงกลับกลัวหัวหด ชาตินี้ก้คงไม่ได้อยุ่กับคนรักหรอก ฝันไปเถอะมึง กระจอก...
ไม่ใช่ว่าข้อมูลของเย่เฉิน ตอนตั้งแต่9ขวบจนถึงปัจุบัน ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่ลบไปแล้วไม่ใช่หรอหรือเก้บซ่อนไว้ ถ้า้ป้นอย่างงี้ แสดงว่าองกรพั้วชิงก้สามารถหาได้เช่นกันดิ ถ้างั้น ไม่ใช่ว่าถังซื่อไห่มันลบออกข้อมูลตอนเด้กของพระเอกออกไปหรอกหรอ -.-"...
พูดมาได้ไงไม่ได้หวังเกินตัว แต่อยากมีลูกกะเย่เฉิน ถึงกับขนาดที่ว่าจะแอบมีความสัมพันกับพระเอกตอนหลับ แบบนี้ไม่ได้เรียกหวังเกินตัวเลยงั้นอ่าดิ 555 ผมชอบอ่านเรื่องโรงแมนติกน่ะ เพราะมันพอดี แต่เรื่องนี้อ่านแล้วไม่ฟินอ่ะ เรื่องความรักชายหญิง เพราะมันลุกหนักเกินไปจน จนไม่มีให้ลุ้นอาะ...
ไม่เข้าใจจริง ว่าทำไมต้องให้พระเอกชดเชย หรือชดใช้ความรักให้หญิงสาวพวกนี้ ถ้าเป้นกุ้ซิวอี้พอยอมรับได้เพราะ เป้นคู่หมั่นพระเอก แต่พวกที่เข้ามาหาพระเอก พระเอกก้แค่ช่วยไปเท่านั้น ให้จะได้สะดวกต่อการทำงานร่วมกัน ไม่ได้ช่วยเพราะรัก แต่พวกหล่อนกับบอกให้ชดใช้ ทั้งที่ที่พวกหล่อนมารักพระเอกแท้ๆ แต่กลับจะให้พระเอกชดใช้เนี่ยน่ะ...
เฮเลน่า แม่งก่น่ารังเกียจเกิ้น...
เฮเลน่ามึงก้ฝันกลางวันเกิ้น ถามหน่อยสู้ไรกับนานาโกะหรือกู้ซิวอิ้วอีกได้บ้าง เรื่องนี้ผู้หญิงแม่งก้มโนเก่งเกิน คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตร่วมกับพระเอก 555...
แล้วตู้ไหชิง ไม่ใช่ผู้หญิงที่ไอซูเต้าขอแต่งงานหรอ ไม่รู้คนเขียน หรือคนแปลที่แปลมั่ว ซูเต้า ไม่เคยขอใครแต่งงาน แล้วไห่ชิงนั้นไม่ได้เรียกว่าขอแต่งงานหรอกหรอ 555...
พระเอกมันเป้นห่วงความรุ้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น ไม่อยากให้เศร้าใจมากขนาดนี้น ทำไมไม่แต่งงานกับนานาโกะไปเลยล่ะ ขัดใจ ถ้าเป้นครอบครัวอื่นอยากยกความดีความชอบให้ลูกสาวอีกฝ่ายก้ไมาแปลก แต่ครอบครัวนานาโกะยังไงต่อให้ไม่ยกความดีความชอบให้นานาโกะ พ่อนานาโกะก้รักนานาโกะมากอยุ่ล่ะ แคร์ความรู้สึกนานาโกะมากขนาดนั้น แต่งงานไปนานาโกะไปเลย ได้จบๆ 555...
บางที อ.ก้เขียนลำเอียงเกินไป วานพั่วจวิ้นทำงานแค่ตายจนกว่าจะได้ยามา แต่ซูรั่วรี่ไม่ได้ทำไรเลย มาถึงก้ได้ยาล่ะ 555...